วิชา SEO วิชาทำเงินแห่งยุคใหม่



 
 

 

ยินดีต้อนรับ สู่ 
วิชา SEO วิชาทำเงินแห่งยุคใหม่ สร้างเศรษฐีมากมายทั่วโลก

สอนฟรี SEO $$$ ...เก็บเกี่ยวข้อมูลความรู้ได้เลยครับ SEO หัวใจทำเงินมหาศาลทาง internet จะทำให้ท่านเข้าใจและสามารถมองภาพ internet เครือข่าย โยงใย และความมหาศาลในโลกการ Make Money !!! ได้อย่างชัดเจน
การทำเว็บไซต์ไม่ยากครับ ลองหัดเขียน blog ดูก็ได้ครับ ไม่ต้องลงทุน
หัวใจเว็บเพื่อธุรกิจหรือโฆษณา เว็บไม่จำเป็นต้องสวย ไม่จำเป็นต้องมีเทคนิคมากมาย
ขอแค่ ทำเว็บให้มีคนรู้จัก ติดอันดับต้นๆใน Search Engine ก็พอ มีหนทางที่คนจะเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์
โดยคนนั้นเป็นผู้ที่ต้องการหาข้อมูลจริงๆ ก็มีโอกาสสูงที่ผู้เยี่ยมชมเหล่านั้นจะสนใจใน
ธุรกิจหรือการโฆษณาในเว็บไซต์เราได้

 
SEO คือหนทางที่ดีที่สุด
ในการทำเงินทาง internet
SEO Make Money !!!
You Can Make BIG MONEY
By SEO $$$
SEO Search Engine Optimization
คือการทำเว็บไซต์ ให้ติดอันดับ สูงๆใน search engine ต่างๆ
ลองทำตามคำแนะนำต่างๆนะครับ ทำแล้ว ไม่เข้าใจอะไรก็เมล์คุยกันได้

ในเบื้องต้น ผมจะแนะนำการทำเว็บคร่าวๆ โดยที่แนะนำให้ทำเป็น blog เพราะสมัครฟรี และทำฟรี
และหลักในการทำให้ติด search ก็ไม่ต่างจาก .com หรือ . อะไร ก็มีค่าเท่ากัน
โดยจะแนะนำให้ทำ blog ที่ blogger.com เพราะมีผู้นิยมใช้มาก และมีโอกาสสูงที่จะติด search ลำดับต้นๆได้ง่าย
หลักการทำมีดังนี้ อะไรบ้างที่มีผลให้ เว็บเราติดอันดับ เรามาดูถึงธรรมชาติ การค้นหาข้อมูลทาง internet ส่วนใหญ่
คือการเข้าเว็บ search engine แล้วพิมพ์คำที่ต้องการค้นหา หรือเรียกอีกอย่างว่า keyword
keyword จึงมีความสำคัญมาก เพราะ ผู้ใช้งาน internet ในการค้นหาข้อมูลต่างๆ มีมากมาย หลายล้านคน หลายสิบล้านคน มากมาย
เพราะฉะนั้น การที่เว็บไซต์ที่เราทำขึ้นมา มี keyword ยอดนิยม ที่มีผู้ต้องการค้นหามาก ก็มีโอกาสสูง ที่จะทำให้เว็บไซต์เรามีผู้เข้าเยี่ยมชมจำนวนมาก อย่างเช่น ทำเว็บเกี่ยวกับ รถยนต์ขึ้นมา คำสำคัญ ก็คือ Car นั่นเอง ถ้าจะเป็นเว็บภาษาไทย คำสำคัญ ก็คือ รถยนต์ นั่นเอง ...พอเรารู้แล้วว่า เราจะทำเว็บอะไร เราก็ให้ความสำคัญกับ keyword หรือคำที่คาดว่าจะมีผู้ต้องการค้นหาข้อมูล อย่างเช่น จะทำเว็บรถยนต์ Car ... การตั้งชื่อเว็บ มีส่วนสำคัญ เช่น ถ้าเราจะขอ .com เราอาจจะตั้งชื่อว่า www.car.com แต่แน่นอนครับ มีคนขอไปแล้วแน่ๆ เราก็คิดชื่อใหม่ที่มีคำว่า car อยู่ด้วย เช่น www.car-....com แล้วแต่จะตั้งครับ ตั้งแล้ว ก็พยายามคิด keyword ที่คิดว่าคนนิยมใช้กันมาก เช่น www.car-good.com เป็นต้น ถ้าซ้ำก็ หาใหม่ไปเรื่อยๆ ... การขอ .com จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่าย ...จึงอยากให้ท่านเริ่มด้วยการเขียน blog ทำ blog ก่อนดีกว่า ...บางท่านสงสัยว่า blog คืออะไร ก็คล้ายเว็บนี่หละ


ขอฟรีทุกอย่าง โดยไปที่ http://www.blogger.com
ซึ่งเจ้าของ blogger.com ก็คือ google ยักษ์ใหญ่ วงการ internet ผมจึงแนะนำให้ขอ blog ที่นี่ เพราะความเป็นยักษ์ใหญ่ ของโลก เราจะได้รับแต่เทคนิคดีๆครับ และที่สำคัญก็เป็นที่นิยมของ ผู้ใช้งาน internet และดูมียี่ห้อ .... การขอที่ blogger.com เราจะได้ http://ชื่อที่เราตั้ง.blogspot.com ขั้นตอนการตั้งชื่อ ก็อย่าลืม เรื่อง keyword นะครับ ถ้าทำเว็บท่องเที่ยวก็ keyword เด็ดๆน่าจะเป็น amazing , tour , unseen , travel อะไรทำนองนี้ คงจะพอมองภาพออกแล้วนะครับ

เมื่อมาที่ blogger.com แล้วก็ Create Your Blog Now ได้เลย
ล่าสุด ใน blogger.com จะเป็นเมนู ภาษาไทยหมดแล้วนะครับ
ทำให้เข้าไปทำความเข้าใจ และสร้าง web blog ได้ง่ายมากๆครับ


ฟรีครับ !!! ขั้นตอนการ สมัคร
ถ้ามี account google เช่น gmail เป็นต้นแล้ว
ก็จะมีที่ให้ sing in ได้เลยนะครับ
แต่ถ้าไม่มี ก็กรอก ตามขั้นตอนนะครับ
มีให้กรอก E-mail
Password ยืนยัน Password
Display name ชื่อสั้นๆของคุณ ก็ตั้งขึ้นมาเลยนะครับ
แล้วก็อักษรสุ่มเขียวๆ ก็ใส่ตามนั้นเลย

ต่อมาก็จะให้ตั้งชื่อ blog ก็ตั้งขึ้นมาเลยนะครับ
เช่น hotel-thailand , tour-thai , Investing-money
จะทำเรื่องอะไรบ้างก็ว่าไปครับ สมัครแล้ว สามารถสมัคร ชื่อ blog ต่างๆได้อีกมากมาย
ถ้านึกไม่ออกว่าจะทำเรื่องไร ก็ลองดูหัวข้อตามนี้นะครับ ตัวอย่างตามนี้นะครับ

Entertainment, Business, Education and Training,Travel และหัวข้อต่างอีกมากมายครับ

ผมเอาหัวข้อมาจากเว็บจัดอันดับ blog บางเว็บ ก็ลองดูนะครับ มีหัวข้อต่างๆมากมาย ที่เราจะทำ และทำได้มากมายหลาย blog

ต่อมาเค้าก็จะให้เราเลือก template หรือรูปแบบของ blog นั่นเอง ก็เลือกเอาตามใจชอบนะครับ เลือกไปแล้ว
ก็สามารถ set เปลี่ยนภายหลังได้ครับ

เมื่อได้ blog แล้ว ก็จะมีให้ posting settings template

พอสมัครแล้ว จะมาที่ หน้า post เราก็ลองเขียนไรลงไปก็แล้ว แล้วลอง post ดู
แล้วลองเปิด blog ดู การเปิดก็คือ เข้าที่ http://ชื่อ blog ที่เราตั้งขึ้นมา.blogspot.com ครับ
หรือคลิกที่ View Blog ก็ได้
จะเห็นว่าการมี blog ไม่ยากเลยครับ ง่ายมากๆ

- posting คือการ เขียนอะไรก็ได้ แทรกรูปอะไรก็ได้

ปกติ blog จะแบ่งเป็น 3 ส่วนนะครับ ส่วนหัวข้อ ส่วนขวามือสุด เห็นมั้ยครับ ที่เป็นช่องยาวๆ ขวามือสุด
และส่วนซ้ายมือ ซึ่งเป็นส่วนมีพื้อที่เยอะ ไว้ post ข้อมูลต่างๆ ตามที่เราต้องการนำเสนอ
สำหรับเว็บตัวอย่างที่นำมาให้ดู เห็นมั้ยครับ เค้าไม่ได้ทำอะไรมากมายเลย มีรูป มีข้อมูลคร่าวๆ ก็เป็น blog ได้แล้ว
- มาดู Setting ก็คือ สามารถเข้าไป เปลี่ยนหัวข้อ blog แล้วเพิ่มรายละเอียดที่หัวข้อ blog ได้
- template ในส่วนนี้ มีอะไรให้ลองเขียนเยอะเลยครับ

มาดูรูปล่างกัน Navbar หัวบนสุดของ blog สามารถ Edit เปลี่ยนสีได้
Header หัวข้อ , Blog Posts สามารถโพสข้อมูล แทรกรูป
มาดูขวาสุดกับล่างสุดกันดีว่า Add a Page Element ลองเข้าไปดูนะครับ
มีให้เพิ่มอะไรต่างๆได้มากมาย เช่นเพิ่มรูปภาพ ใส่ html code ผู้ที่เขียนข้อมูลเป็นโฮมเพจ ก็เอา html code
มาแทรกใส่ได้เลย แต่ รูปใน html code ของท่าน จะไม่ขึ้นนะครับ คุณก็เอารูป มาเพิ่มในส่วนของ picture ก่อน
แล้วโหลดดู blog แล้วก็คลิกขวา เพื่อดูว่าลิ้งค์รูปนั้น ลิ้งค์อะไร ก็เอาลิ้งค์นั้นมาใส่ในส่วนของ Src ในส่วนของ
การใช้โปรแกรมเขียนโฮมเพจนะครับ พอแก้ไข html code แล้ว ก็นำมาแทรก หรือเข้าไปแก้ไข html เดิมที่เคย แทรก
แล้วลองโหลดดูก็จะมีรูปขึ้นมา สำหรับ รูปในส่วนของ Add a page Element ถ้าโหลด blog ดูแล้ว เป็นส่วนเกินของ blog
เพราะเราต้องการเอารูปไปแทรกใน html code เท่านั้น เราก็สามารถ เข้าไป Edit แล้ว remove รูปนั้นได้ รูปจะยัง
หายไปไหนยังใช้ link รูปได้ แต่จะไม่ปรากฎใน blog
...ในส่วนของ HTML/Java Script สามารถเอา code โฆษณา มาใส่ได้นะครับ
แต่ทำ blog ให้ดูเป็น blog เสียก่อน ค่อยสมัคร ค่อยใส่ จะดีกว่าครับ เพื่อป้องกันการโหลดดู blog ตัวเองบ่อย
...ในส่วนขวามือ จะมี About Me ถ้าเราไม่รู้จะเขียนอะไร เราก็เข้าไป Edit แล้ว remove หัวข้อนี้ออกได้ครับ
...สำหรับการ add a Page Element Add อะไรเพิ่มมา ส่วนนั้นก็จะอยู่ด้านบนเรื่อยๆนะครับ
ถ้าเราจะย้าย เราก็เพียงคลิกที่ช่องที่ต้องการจะย้าย แล้วเลื่อน จัดอันดับได้ตามต้องการเลยครับ แล้วคลิก save ที่อยู่ขวาบนด้วยนะครับ
....*สำหรับ blog เก่าที่เคยสมัครไว้นานแล้วในส่วน template นี้ จะเป็น html code ทั้งหมดเลย คุณอยากแทรกอะไร
ก็ลองเอา code มา็ลองแทรดูนะครับ แล้วลองโหลดดูว่าที่แทรกไปอยู่ในส่วนไหน
...สำหรับท่านที่อยากขอ adsense เร็วๆ พอทำ blog ขึ้นมาดูแล้ว พอจะเป็น blog ที่ให้ข้อมูลอะไรสักอย่าง ก็ลองขอดู
พอได้แล้ว อาจจะเอามาติดใน blog นั้น แต่ ไม่อยากโหลด blog บ่อย ก็สร้าง blog ขึ้นมาให้ สร้างๆหลายๆ blog
หลายหลายเนื้อหา เมื่อ blog ไหนพร้อม ค่อยนำ code มาติดก็ได้ครับ

การเขียน blog ที่ blogger.com ในการเขียน post ถ้าใช้บาวเซอร์ IE การเขียนโพส อาจช้าหรือค้างนะครับ บาวเซอร์ ที่ใช้ได้ดีกับ การเขียน blog ที่ blogger.com คือ FireFox ซึ่งเวลาเขียนโพส หรือแก้ไขข้อมูล จะเร็ว ไม่ติดหรือค้าง .. สามารถโหลดบาวเซอร์มาใช้ได้ฟรีครับ
Firefox 2
สำหรับ Firefox ถ้าลงแล้ว ภาษาไทยมีปัญหา ให้ set ที่ Tools แล้วมา Options...
แล้วมาที่ Content ดูหัวข้อ Fonts & Colors มาที่ Advanced... แล้วก็ ลองเซ็ตดูนะครับ หรือจะเซ็ตตามผมก็ได้ ผมลองเซ็ตๆดู แล้วใช้ได้ดี ตามนี้ครับ
Fonts for เลือก Thai
Proportional : Sans Serif Size: 14
Serif : Tahoma
Sans-serif : Tahoma Size: 12
Minimum font size: 14
Default Character Encoding: Thai (Windows-874)
ตามนี้ครับ แล้วก็คลิก ok ได้เลย


.... วกกลับมาการทำ SEO พอเรามีชื่อเว็บที่ถูกใจแล้ว ในส่วนของเนื้อหา การมี keyword เด่นๆ ในเนื้อหาเรา ก็มีส่วนทำให้เราติดอันดับดีๆใน search แต่ไม่ใช่ ทำเว็บเขียน keyword มากจนไม่มีเหตุผลอะไร ถ้า search engine ตรวจเจอ โดนลบออกจากฐานข้อมูล search แน่ๆครับ .... การเน้นตัวหนา ของ คำ หรือ keyword ต่างๆก็มีส่วนช่วยครับ

ต่อไปผมจะ เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับการทำ SEO เพื่อทำเงินกับ "bidvertiser" นะครับ
แต่หลักการ seo นี้ เราใช้ในการทำการ makemoney ได้อย่างมากมายในระบบต่างๆ
ก็ลองประยุกต์ดูนะครับ

เกี่ยวกับ การทำ SEO
มีคนไทยบางคนทำรายได้ถึงเดือนละ 6 แสนบาท !!!
เดือนเดียวนะครับ ไม่ใช่ทั้งปี ต่างชาติบางคนทำได้
เดือนละ หลายล้านบาท เป็นสิบล้านก็มี ต่อเดือนนะครับ
เรากำลังเข้าสู่การทำงานทาง internet ไร้พรหมแดน พลังจึงมีมากมาย ขอให้ตั้งใจทำและไม่โกง... 


......ง่ายๆก็คือ การทำเว็บ หรือ blog ขึ้นมา แล้วนำ code ของ เว็บโฆษณา มาติดเว็บ ถ้ามีคนเข้าเยี่ยมชมเว็บแล้ว สนใจโฆษณา เราก็จะได้ % ยอดค่าตอบแทนตรงนั้นด้วย


... เกี่ยวกับการขอหรือเริ่มทำ SEO เราต้องมีเว็บหรือ blog ก่อน การใช้ blog ที่ blogger.com เป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะติด search ได้ง่าย ...เราก็พยายามทำ blog ขึ้นมา เนื้อหาพอให้ดูเป็นเว็บ ต้องเป็น ภาษา Eng นะครับ ถ้าจะทำเกี่ยวกับรถ ก็ลอง ค้นหาในเน็ตดู ว่ามีเนื้อหาอะไรน่าสนใจ ...แต่ไม่ใช่ copy มานะครับ ก็เอามาเป็นแนวทางในการทำก็พอครับ

ใครที่ไม่เก่งภาษาก็อย่าลืมใช้ตัวนี้นะครับ
โปรแกรมแปลภาษาที่จะทำลายกำแพงภาษา ให้กับพวกเราได้ครับ My Buddy จาก Thaibuddy
เพียงแค่คุณ เอาเมาส์ชี้ คำที่ต้องการ แล้วกด ALT + S ก็จะแปลคำนั้นให้ตามต้องการ
ไม่ว่าคำนั้นจะอยู่ส่วนไหนๆ มีประโยชน์มาก ดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรีครับ ขอบคุณ thaibuddy.com

เมื่อ เว็บไซต์ พร้อมแล้ว
ไม่จำเป็นต้องสวยครับ ให้ดูเป็นเว็บไซต์
หรือให้ดูว่าเป็น blog เกี่ยวกับอะไร เท่านั่นก็พอ

เข้า Bidvertiser

การกรอกการสมัคร
ทุกอย่างกรอกเป็นภาษาอังกฤษนะครับ
การสมัคร เข้าที่ Join Now - It's FREE

สำหรับการกรอกการสมัคร ก็ไม่มีไรมากครับ ก็จะมีให้ใส่ข้อมูลต่างๆเหมือนสมัครทั่วๆไป กรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ
..การตั้ง Username และ Password อย่างน้อย 6 ตัวอักษร
วิธีรับเงิน(Preferred payment method) มีให้เลือก 2 แบบคือ
PayPal ($10 minimum) Check ($50 minimum)
ทาง Paypal หรือ เช็ค แนะนำ Paypal ครับ เพราะสามารถสั่งขั้นต่ำมาได้เมื่อยอดถึง 10 เหรียญครับ
แล้วสามารถโอนเข้าธนาคารได้เร็วกว่าเช็คเยอะครับ ..ถ้ายังไม่มี Paypal ก็เลือกเป็นเช็คก่อน แล้วค่อย แก้ไขข้อมูลภายหลังได้ครับ
Paypal Account (Email) : ใส่อีเมล์ paypal ถ้าเลือกรับทาง paypal
State : เลือก Outside of the US แปลว่าไม่ได้อยู่ที่ อเมริกา
Choose Country เลือกประเทศ Street Address : ก็กรอกที่อยู่เราครับ
Zip Code : รหัสไปรษณีย์

จะมีต่างจากการสมัครอื่นๆ จะมีปุ่ม Get Activation Code ให้กด แล้วให้เข้าเช็ค e-mail
เพราะระบบจะส่ง Activation Code ให้ทาง อีเมล์ทันที แล้วนำรหัสที่ได้มาใส่ในช่องว่าง

แล้วก็จะมีให้เลือก ข้อตกลง 4 ข้อ ให้เลือกทั้ง 4 ข้อครับ
I agree to BidVertiser's Terms of Service.
I will not click on my own BidVertiser ads. ฉันจะไม่คลิก ads โฆษณาของตัวเอง
I will not ask or encourage others to click on my BidVertiser ads. ฉันจะไม่บอกให้ใครคลิกให้
I will not place the BidVertiser ads on sites that include pornographic content.
ฉันจะไม่วาง ads โฆษณา ไว้ในเว็บภาพโป๊เปลือย หรือเว็บไม่เหมาะสม

แล้วกด continue ครับ เป็นอันเสร็จครับ

สำหรับ Terms of Service. หรือข้อกำหนดคือ ห้ามนำ ads ไว้ตามเว็บไซต์ต่างๆดังนี้ ห้ามเป็นเว็บโป๊ลามกอนาจาร เนื้อหารุนแรง , เนื้อหาที่ทำให้เกิดความแตกแยก หรือแบ่งแยกเชื้อชาติ ลบลู่ศาสนา หรือเรื่องเพศที่ไม่เหมาะสมต่างๆ , เว็บผิดกฎหมายต่างๆ ละเมิดลิขสิทธิ์ต่างๆ อาวุธสงครามต่างๆ , การโปรโมทที่ไม่เหมาะสมต่างๆ หรือผิดกฎหมายต่างๆ หรือ spam ต่างๆ สำหรับระบบส่งเสริมการคลิกหรือ คลิกเมล์ ไม่แน่ใจนะครับ แต่ทางที่ดีไม่ควรเอาไปโปรโมทที่ระบบส่งเสริมการคลิก เพราะถึงโปรโมท ก็ไม่ได้อะไรมากครับ ใช้วิธีทาง SEO ดีที่สุดครับ

การนำ Code มาติด เว็บ หรือ Blog ของเรา
login เข้า publishers พอเข้าแล้ว จะอยู่ที่หัวข้อ Manage Bidvertisers
การนำ code เพื่อนำมาติด เว็บ หรือ blog มีขั้นตอนดังนี้
ไปที่หัวข้อ Add new Bidvertiser
BidVertiser Title: ใส่ชื่อเว็บ
URL of your website: ใส่ที่อยู่เว็บไซต์ ที่เราจะนำ code ไปติด
3rd party ad server / URL forwarding: (optional) ไม่ต้องเลือกก็ได้ เพราะเป็น optional
Primary language of your website: เลือกภาษาของเว็บไซต์ที่จะนำไปติด
มีให้เลือกทุกภาษา แต่ควรทำเว็บภาษาอังกฤษ จะดีที่สุด เพราะถ้าทำเว็บภาษาไทย
ในนี้ก็มีให้เลือกภาษาไทย แต่ถึงจะติดไปก็ไม่มีใครลงโฆษณา
Select a category that most accurately describes your website:
เลือกประเภทของเว็บไซต์ว่า เป็นเว็บเกี่ยวกับอะไร ถ้าไม่แน่ใจว่าหัวข้อไหนแปลว่าอะไร
ควรเปิดโปรแกรมช่วยแปล ให้แน่ใจว่าแต่ละหัวข้อแปลว่าอะไร จะได้เลือกได้ถูกประเภท
ถ้าเลือกผิดภาษา หรือผิดประเภทเว็บไซต์ เว็บไซต์จะถูกปฏิเสธ
เสร็จแล้ว ก็ Finish

การ add site ในครั้งต่อไป ถ้าเป็นเว็บใหม่ หรือ blog ใหม่ ก็ เลือก Add new BidVertiser under a new domain ไปเรื่อยๆ
ถ้าเป็นเว็บเดิม แต่หน้าอื่น ก็เลือกที่ Add new BidVertiser under an existing domain

เสร็จแล้วก็มาที่ BidVertiser Center
แล้วก็มาขั้นตอน เลือก Template ของ ads โฆษณา ที่จะนำมาติดเว็บ
ก็จะมี โฆษณารูปแบบต่างๆมาให้เลือก สามารถเปลี่ยนแปลงสี หรืออกแบบได้ และยังสามารถ
เลือกให้ โฆษณาเมื่อคลิกแล้ว เปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาได้ แล้วก็คลิก update
แล้วก็มาที่หน้า BidVertiser Center มาเลือก Get Ad Code เพื่อนำ code ไปติดเว็บ

เมนูอื่นๆ
Ads Status เราสามารถเลือกได้ว่าในเว็บเรา จะเลือก ให้โฆษณาอะไรขึ้นมาบ้าง ราคาแพงแค่ไหน ..ถ้าจะเลือกควรเลือกให้โฆษณาแพงๆขึ้นมา
เพราะถ้ามีผู้สนใจเข้าดูรายละเอียด จะทำให้เราได้ส่วนแบ่งเยอะด้วย

ข้อมูลส่วนตัวและการสั่งจ่าย ดูที่หัวข้อ Account Management
Edit Profile สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลการรับรายได้
Payments History สามารถสั่งจ่ายเมื่อมียอดเกิน 10 เหรียญ สำหรับ Paypal หรือ 50 เหรียญ สำหรับสั่งทางเช็ค

----------------------------

การเขียนโฮมเพจแล้วนำมาลงใน blog

...สำหรับท่านที่ เขียนโฮมเพจเป็น แต่ เอา html code ไม่เป็น ปกติโปรแกรมเขียนโฮมเพจต่างๆ จะมีแสดง html code อยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มี ก็ให้ มาที่ เมนู Start ของ windows แล้วมาที่ run... แล้วพิมพ์คำว่า notepad แล้วกด ok เพื่อเรียกโปรแกรม notepad ขึ้นมา
จากนั้น ก็มาที่เมนู File ในโปรแกรม notepad แล้วเลือก Open... แล้วมาเลือกตรง Files of type เป็น All file เพื่อให้โปรแกรม notepad มองเห็นทุกไฟล์ที่เราจะเลือกเปิด ..แล้วเราก็ไปเลือกเปิด ไฟล์ .html หรือไฟล์โฮมเพจที่เราเขียนขึ้นมา เท่านั้นเอง เราก็ได้ html code ของเว็บที่เราเขียนขึ้นมา แล้วเอามา แทรกใน blog ได้เลย

...มาว่ากันเรื่องรูป แน่นอนว่า พอเรานำ html code ของเว็บที่เราเขียนไว้ มาแทรกใน blog แล้ว รูปจะไม่มีด้วย ...มีหลักการดังนี้ ให้ท่าน แทรกรูปทั้งหมดในเว็บที่ท่านเขียน เข้าใน blog ก่อน ในเมนูองค์ประกอบของหน้า จะมี Picture ให้แทรกรูปลงใน blog แทรกรูปต่างๆใหเหมดก่อน แล้วโหลด blog ดู ก็จะเห็นรูปต่างๆที่แทรกเข้าไป ให้คลิกขวาที่รูปแล้วเลือก Properties ซึ่งอยู่ล่างสุด เพื่อดูรายละเอียดของรูป แล้วดูว่า รูปที่เราแทรกไปนั้น มีที่อยู่ หรือ url อะไร แล้ว copy url นั้น แล้วก็นำ url นั้นไปใส่ ใน url ของรูปภาพ ในโปแกรมที่ใช้เขียนเว็บ ทำแบบนี้จนครบทุกรูป
แล้วค่อย นำ html code ของเว็บไปแทรกแก้ไข html เว็บเดิม
... พอโหลดดูแล้ว จะพบว่า html code ของการใช้โปรแกรมเขียนโฮมเพจ ที่นำมาแทรก จะมีรูปภาพตามที่ได้เขียนไว้ ...แต่ รูปภาพที่เรา แทรกไว้แล้ว ใน blog เพื่อที่เราจะเอา url นั้น ก็ยังอยู่ ปรากฎใน blog พร้อมกับ หน้าโฮมเพจที่เราเขียนขึ้น ตรงนี้ ไม่เป็นปัญหา ...เราสามารถไปแก้ไขที่ภาพนั้น โดยการลบองค์ประกอบของหน้าออกได้ ลบแล้วภาพ ที่เราแทรกใน html code ก็จะยังไม่หายครับ จะยังอยู่ครับ

...อีกนิดนึงในส่วนของ html/java ใน blog เราสามารถแทรกวีดีโอได้ เพื่อให้เว็บหรือ blog ดูน่าสนใจ ...เกี่ยวกับ video ประเทศไทยแบน youtube นานเหลือเกิน เราก็เปลี่ยนไปใช้ video.google.com แทนได้ครับ ฝากไฟล์วีดีโอต่างๆ เช่น ทำเว็บท่องเที่ยว อยากให้ผู้คนที่เยี่ยมชมเว็บ ได้บรรยากาศสถานที่จริง ก็ถ่ายวีดีโอไว้ เดี๋ยวนี้ กล้อง digital มีเมนู วีีดีโอทั้งนั้นครับ หรือแม้กระทั้งมือถือก็มีเยอะแยะ พอเราฝากไฟล์ video ไปแล้ว ก็จะมีในส่วนของ html video สามารถนำมาติดเว็บ หรือ แทรกใน blog ในส่วนของ html/java ได้ครับ
...... มาต่อเรื่อง SEO กันครับ พอเรามี เว็บที่ติด โฆษณาแล้ว....ขั้นต่อไปคือการโฆษณาเว็บ ห้ามโฆษณาแบบ surf หรือแลกกันดูเว็บนะครับ เพราะง่ายเกินไปเข้าข่ายการซื้อ traffic หรือคนเข้าเว็บได้ และไม่เป็นผลดีกับการต้องการผู้ที่สนใจจริงๆเข้าเยี่ยมชม ดูข้อมูลในเว็บเราด้วย

.... มาสู่หัวใจหลักการให้ผู้สนใจเข้าชมเว็บ เป็นธรรมชาติที่สุด... ให้เราไป add website เรา ตามเว็บไซต์รวมเว็บต่างๆ การที่เว็บเรามีลิ้งค์อยู่ตามเว็บไซต์ต่างๆ หรือเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม มีจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมมากๆ ก็มีโอกาสที่เว็บเราจะ ติด search engine ในระดับสูงๆ และที่สำคัญอย่าลืม add หรือ submit เว็บไซต์เราตาม search ต่างๆด้วยนะครับ ถ้าเราคิดไม่ออกจะ add เว็บไหนบ้าง ก็ลอง search คำว่า add your url , add url , submit ดูนะครับ มีให้ add มากมายครับ เว็บไหนแยกประเภท ก็ add ให้ถูกประเภทด้วยนะครับ

ได้เทคนิค 2 อย่างแล้วนะครับ คือ keyword กับการ add website และเกี่ยวกับ keyword ในการทำเว็บไซต์ ควรจะทำเว็บไซต์ที่คาดว่า จะมีโฆษณาราคาแพง เพราะ โฆษณา adsense ที่ปรากฎ จะขึ้น ตามเว็บไซต์ที่ทำ เช่น ทำเกี่ยวกับรถยนต์ โฆษณา adsense ก็จะขึ้นเกี่ยวกับรถยนต์ ....การที่โฆษณาราคาแพง เมื่อมีผู้สนใจ เราก็จะได้ % ในราคาแพงเช่นกัน

...ต่อมาก็เป็นการ สมัครเว็บไซต์จัดอันดับต่างๆ ในเว็บไซต์จัดอันดับต่างๆ พอสมัครแล้ว เว็บเราจะมีชื่อ และรายละเอียด อยู่ใน list จัดอันดับ ก็จะมีโอกาสที่จะมีผู้ที่สนใจอ่านรายละเอียด และเข้าชมเว็บไซต์เราได้

...การทำหลายๆเว็บไซต์เราอาจจะทำเว็บเดียว ให้เป็นที่นิยมก่อน แล้วค่อยทำลิ้งค์ไปหาเว็บไซต์ต่างๆ หรือในกรณีที่เรากลัวว่าการพัฒนาเว็บ เพื่อเพิ่มคนเข้าเว็บ มีโอกาสที่จะทำผิดกฎของ google adsense ได้ ก็ ให้ทำเว็บไซต์หลักขึ้นมา แต่ไม่ติด code adsense และในเนื้อหาในเว็บไซต์นั้น ก็ทำลิ้งค์ไปยังเว็บต่างๆของเราที่ติด adsense ...การตั้งชื่อรูปในเว็บไซต์ ก็มีส่วนสำคัญให้เราติดอันดับดีๆใน search engine ได้นะครับ เช่น ถ้าทำเว็บเกี่ยวกับ รถ อาจจะตั้งชื่อไฟล์รูปต่างๆที่เอามาทำเว็บเป็น car.jpg เป็นต้น

...การทำเว็บไซต์ที่ดีและน่าสนใจ จะมีโอกาสให้เว็บต่างๆ ทำลิ้งค์มาหาเว็บเราได้ จะทำให้เว็บเราดูมีค่า และติดอันดับดีๆใน search engine ได้

...ว่ากันถึงเรื่องการที่มีผู้ทำลิ้งค์มาหาเว็บเรา จะมีตัววัดค่าซึ่งเรียกกันว่า PR หรือ PageRank ในการวัดคะแนน ของการลิ้งค์มาจากเว็บอื่นๆและมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่จะมีคนมาเจอเว็บของเรา
ซึ่งใน google toolbar ที่มีมาพร้อมกับ บาวเซอร์ FireFox จะมีเมนู PR วัดคะแนนนี้ด้วย 

...การรู้ค่า PR ทำให้รู้ว่า เว็บที่เราจะไปฝาก ลิ้งค์ด้วย มีคะแนน PR มากน้อยแค่ไหน มีโอกาสที่คนเข้าเว็บนั้นมากแค่ไหน ก็จะเป็นผลให้มีโอกาสที่จะมีผู้เข้าเว็บเราได้เช่นกัน ถ้าเราไป add website ที่เว็บนั้น สำหรับการเช็ค ค่า PR ของเว็บไซต์เราที่ติด adsense อย่าลืมเอา code adsense ออกก่อนนะครับ เดี๋ยวจะเหมือนว่าเป็นการโหลดเพื่อเพิ่มการโชว์ ads จะมีโอกาสถูกแบนได้

....พอรู้ถึงเทคนิคการทำ SEO แล้ว จะเห็นว่าการที่มี traffic เข้ามาในเว็บคุณ จะเป็นอะไรที่มีค่ามาก และสนุกในการทำงาน เพื่อให้เว็บเป็นที่นิยม ซึ่งเราสามารถตรวจสอบ ผู้ที่เข้าเว็บเราได้ด้วย ว่ามาจากไหน ประเทศอะไร ip อะไร วันที่เท่าไหร่ เวลาเท่าไหร่ ใช้บาวเซอร์อะไร ใช้วินโดว์อะไร เข้ามาเว็บไซต์เราโดยมีลิ้งค์มาจากเว็บไหน โดยการสมัคร Free Tracker http://extremetracking.com สมัครง่าย ไม่ต้องกรอก e-mail ตั้งแค่ username กับ pass ก็จะมี code ให้นำมาติดเว็บ

....ด้วยเทคนิค SEO นี่ จะทำให้ผู้เข้ามาในเว็บไซต์เรา
คือผู้ที่สนใจหาข้อมูลทางเน็ตแท้จริง และเป็นประโยชน์มากสำหรับการทำ makemoney ในรูปแบบต่างๆ บางระบบ เป็นการ เป็นตัวแทนในการโฆษณา พอมียอดซื้อขายเกิดขึ้น เราก็ได้ส่วนแบ่งกำไร ทำเงินได้มากเช่นกัน ดังได้แนะนำในhttp://www.makemoney-school.com/all.html แต่ที่ต้องการเน้นให้ทำ bidvertiser ก่อน เพราะเป็นการเรียนรู้และพัฒนา ความเข้าใจในหัวใจหลักการโฆษณาได้เป็นอย่างดี มีระบบ ระเบียบ และมีค่า ไม่ต้องลงทุน ใช้การศึกษาทำความเข้าใจ และพัฒนา

เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำ SEO คือ การที่มีเว็บต่างๆทำลิ้งค์มาหาเรา
เรียกว่า Link Popularity
ซึ่งในส่วนนี้ มีเครื่องมือที่ช่วยในการตรวจสอบได้ว่า ตาม search ชื่อดังต่างๆ มีเว็บลิ้งค์มาหาเรามากน้อยแค่ไหน

@ คุณสามารถเช็คได้ที่เว็บไซต์ http://tools.marketleap.com/publinkpop/
เข้าแล้วใส่ชื่อเว็บ และใส่ อักษรสุ่มที่ปรากฎ แล้วคลิก GENERATE REPORT
@ หรือใช้โปรแกรมหาได้ที่ http://www.checkyourlinkpopularity.com
วิธีใช้พอใส่ชื่อเว็บที่ต้องการแล้ว เลือกที่ Update Selected ก็จะแสดงผลการตรวจสอบ

@นอกจากนั้น http://tools.marketleap.com/publinkpop/ ไว้ตรวจสอบ เว็บที่มีค่า PR สูงๆว่า ได้ ลิ้งค์มาจากเว็บไหนบ้าง เป็นแนวทางที่เราจะไป add เว็บไซต์ตามที่นั้นๆ พยายามเช็คค่า PR เว็บต่างๆ หรือเว็บ topsite ต่างๆ เว็บไหนค่า PR สูงๆ ก็ตรวจดูนะครับว่า ได้คนเข้ามาจากลิ้งค์ไหนบ้าง เป็นแนวทางในการทำ SEO ได้ดีเลยทีเดียว
เกี่ยวกับการเช็คค่า PR ในบาวเซอร์ FireFox Google toolbar ก็จะมีคะแนน PR ให้เห็นทันที ที่เราเข้าเว็บนั้นๆเลยครับ
นอกจากนั้นยังมีระบบความปลอดภัยป้องกัน Spyware
แต่การจะเช็คค่า PR เว็บเรา ให้ระวังเรื่องการโหลดดูเว็บเองนะครับ
ถ้าอย่างไรแนะนำให้เอา adsense ออกก่อนโหลดดูค่าู PR เว็บของเราครับ


การลิ้งค์เว็บแบ่งได้ 2 กรณี
1.การที่มีเว็บต่างๆลิ้งค์มาหาเว็บเรา แต่เราไม่ได้ลิ้งค์กลับไปหาเว็บนั้น
Search Engine จะให้ความสำคัญมาก เพราะเป็นลิ้งค์ที่เกิดจาก เว็บเนื้อหาดี จึงมีผู้ทำลิ้งค์มาหา

2.การที่ทั้ง 2 เว็บ ต่างก็ทำลิ้งค์หากัน จะได้ความสำคัญน้อยกว่าในกรณีแรก
รวมเว็บจัดอันดับ Blog ต่างๆ 
เข้าดูแล้วก็ลองดูนะครับ
ว่าเว็บหรือ blog ต่างๆ ที่มี list ในการจัดอับดับดีๆ
มีเทคนิคอะไรบ้างในการ ทำให้เป็นเป็นที่รู้จักครับ

http://www.blogtopsites.com
http://www.worldtopblogs.com
http://directory.seo-supreme.com
http://www.getblogs.com
http://www.relmaxtop.com
http://www.bloggernity.com
http://www.blogcatalog.com
http://www.top100categories.com
http://www.topnemo.com

ยังมีอีกเยอะครับ วิธีการหาไม่ยากเลย
เราเข้าดู blog หรือเว็บ จัดอันดับต่างๆ ดูเว็บอันดับดีๆว่า ในเว็บเค้าติดอะไรบ้าง
เข้าไปจัดอันดับไว้ที่ไหนบ้างครับ เราก็เข้าไปสมัครแล้วก็นำมาติดเว็บไซต์นะครับ

แล้วอย่างลืม add website ที่เราทำ ตามเว็บ directory ต่างๆด้วยนะครับ
จะได้เป็นหนทางให้ มีคนรู้จักเว็บเราครับ

การ add เว็บไซต์ตามเว็บต่างๆ หรือ search ต่างๆ บางเว็บจะให้เรา ทำลิ้งค์หาเว็บเค้าก่อนนะครับ
หรือมีหัวข้อ Reciprocal Link URL: หมายถึง หน้าเว็บที่จะทำลิ้งค์ หรือเอา code เว็บเค้าไปติดครับ 
จะรวมเว็บ add จะ Update เรื่อยๆนะครับ
http://www.google.com/addurl/?continue=/addurl
http://dmoz.org/add.html
http://www.scrubtheweb.com/addurl.html
http://www.exactseek.com/add.html
http://www.smartylinks.com/directory/addurl.html
http://directory.seo-supreme.com/
https://client.enhance.com/ols/index.do?network=webcrawler
http://www.gigablast.com/addurl add ง่ายๆ
http://bblmedia.com/addurl.html มี search ให้เลือก add เยอะ
http://www.surfgopher.com/addurl.htm
ยังมีอีกมากนะครับ ลอง search คำว่า add url, addurl, add website, add site, submit your site ดูครับ จะมีทั้งแบบเสียเงินและฟรีครับ อันไหนเสียเงินก็ข้ามไปก่อนก็ได้ครับ
รวมเครื่องมือต่างๆในการทำ SEO 

เทคนิคอีกอย่างในการทำ SEO คือการสมัครเป็นสมาชิกเว็บบอร์ดต่างๆ
ในเว็บบอร์ดต่างๆ จะมีให้เขียนกำกับ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวต่างๆ
หรือเรียกว่า ลายเซ็นต์ และการที่เราแสดงความคิดเห็นในกระทู้หรือหัวข้อต่างๆ
ก็จะมีลายเซ็นต์เรา หรือข้อมูลส่วนตัวเราปรากฎไปด้วย
ข้อมูลส่วนตัวเรา ก็เขียนเว็บไซต์ที่เราต้องการแนะนำ
หลังจากได้ทดลองทำ SEO กันคร่าวๆแล้ว ผมจะเข้มเรื่อง SEO ชนิดทุกขั้นตอน
ที่แนะนำแบบคร่าวๆก่อน เพราะเมื่อมาเข้าใจหลักการเข้มๆ แล้ว จะเห็นความสว่างมากมาย และสนุกในการทำ SEO
จะได้เข้าใจกันอย่างละเอียดครับ
SEO SCHOOL
มาเริ่มต้นกันเลย SEO ในส่วนนี้ เป็นส่วนหลักการขอเรียกว่า SEO School นะครับ ...และยังขอย้ำ สิ่งที่เคยย้ำคือ internet พึ่งมีมาประมาณ 10 ปีเศษ
วิชาเหล่านี้จึงเป็นของใหม่ อาจไม่แพร่หลายรู้จักในระบบการศึกษาทั่วไป
แต่มันเป็นวิชาที่ไร้พรหมแดน สู่หนทางทำเงินมากมาย
อยากให้ตั้งใจศึกษา เหมือนกับตั้งใจเรียนครับ ไม่มีอะไรดีไปกว่าวิชา ทำเงินหน้าจอ กับโลกไร้พรหมแดนอีกแล้วครับ
ใครที่ยังสงสัยเรื่องการจ่าย ขอย้ำเหมือนที่เคยย้ำมาตลอด internet ก็เหมือนโลกนอกจอ มีทั้งจริงและหลอก ควรทำเงินกับเว็บไซต์ ที่น่าเชื่อถือได้ และมีเหตุผลการจ่ายเท่านั้น ซึ่งก็มีมากมาย แต่การทำเงินก็ไม่ยากและไม่ง่าย มีระบบวิธีและ เหตุผลในการทำเงิน ...และหนทางทาง SEO ก็เป็นหนทางในการทำเงินได้อย่างมากมาย ไม่เชื่อลองดูเช็คที่เว็บ นี้ได้ http://www.seoelite.com 2 สัปดาห์ทำเงิน 7 ล้านกว่าบาท เป็นการทำเงินในระบบ affiliate โปรแกรม หรือระบบแนะนำให้ซื้อสินค้า โดยอาศัยหลักการทาง SEO คือ ทำเว็บ และทำให้ ติด ระดับ ดีๆใน search ทำให้มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมในเว็บไซต์ และมีความเป็นไปได้ที่จะสนใจซื้อสินค้าแนะนำในเว็บ ...แต่ระบบแนะนำสินค้า ผมอยากให้เป็นเรื่องรองก่อน เพราะเรื่องที่ง่ายกว่านั้น ก็คือระบบที่ผู้เยี่ยมชมเว็บ สนใจเข้าดูโฆษณาในเว็บที่เรานำมาติดเว็บ หรือระบบของ bidvertiser จะทำยอดได้ง่ายกว่า แล้วพอมีผู้เข้าเยี่ยมชมจำนวนมาก ก็ค่อย นำ affiliate โปรแกรมต่างๆมาลงครับ
...ทั้งหมดนี้ หัวใจสำคัญก็คือการให้ผู้คนทั่วโลกได้ เข้ามาในเว็บไซต์เราครับ โดยหนทางทาง SEO

SEO School

เริ่มต้นเลย คือการคิดจะทำเว็บไซต์ ...เราจะทำเว็บอะไรดี หัวใจสำคัญก็คือการตั้งชื่อเว็บไซต์ เพราะชื่อดีๆ ตามคำที่คนนิยมค้นหาทั่วโลก มีสิทธิที่จะติดลำดับดีๆใน Search ได้โดยง่าย
คำที่คนนิยมค้นหานี้ เราเรียกในภาษา internet ว่า คีย์เวิร์ด keyword เหมือนเวลาที่เราจะค้นหาข้อมูลอะไร เราเปิดเว็บ search แล้วเราก็พิมพ์ คีย์เวิร์ด หรือคำที่ต้องการค้นหาลงในช่องค้นหา แล้วกด search
...นั่นแหละครับ keyword จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเริ่มต้นครับ และเราจะรู้ได้งัยว่า คนนิยมค้นหาคำไหนกันมาก ? ...ต้องใช้โปรแกรมช่วยหาครับ
โปรแกรมแนะนำคือ goodkeywords สามารถเข้าดาวน์โหลดได้ฟรีครับ พอดาวน์โหลดแล้ว setup ลงเครื่องแล้ว เปิดโปรแกรมขึ้นมา แล้วใช้เมนู Keyword Suggestions ในการค้นหาความนิยมใน keyword ต่างๆ
ฐานข้อมูลที่นิยมใช้กันมากก็คือ Overture Us นะครับ ..แล้วเราก็ พิมพ์ keyword เรื่องที่เราต้องการทำ เช่น ต้องการทำเกี่ยวกับ ท่องเที่ยว เราก็พิมพ์ travel แล้วคลิก Go! ผลการค้นหา ก็จะออกมาให้เห็น ความนิยมในการค้นหาต่อเดือน เรียงลำดับให้เห็น 100 ลำดับ เราก็วิเคราะห์ว่า เราจะใช้ keyword อะไรในการตั้งชื่อเว็บดี และในการเริ่มต้นไม่ควร ใช้ keyword อันดับที่ 1 หรืออันดับสูง เพราะการแข่งขันจะสูง จนเราไม่สามารถอยู่อันดับต้นๆได้เลย อาจจะใช้ keyword ลำดับที่ 40-50 ก็ไม่ถือว่า คิดผิดครับ
เราก็ใช้ชื่อเหล่านั้น ในการตั้งชื่อเว็บไซต์ ..สำหรับ เว็บไซต์ จะ dot อะไร หรือ เป็น blog ก็มีค่าเท่ากันในการพิจารณาการจัดลำดับครับ

..สำหรับการค้นหา keyword โดยผ่านเว็บไซต์เลยสามารถค้นหา ได้ที่
http://inventory.overture.com/d/searchinventory/suggestion/

หรือจะค้นหาพร้อมรายงานผลว่า เว็บไซต์ dot ต่างๆมีว่างหรือไม่ก็เว็บนี้ครับ
http://www.webconfs.com/keyword-rich-domain-suggestions.php
หลังจากที่เราได้ keyword ที่เราพึงพอใจแล้ว ลองใช้ keyword นั้นๆ search ดูในเว็บ search ในที่นี่จะเน้นที่ google เพราะมีผู้นิยมใช้มากที่สุดนะครับ ... ก็จะเห็นจำนวนเว็บไซต์มากมายที่ทำเกี่ยวกันเรื่องนี้ครับ
เราก็เลือก วิเคราะห์ที่เว็บไซต์อันดับ 1 เลยครับ แต่ก่อนวิเคราะห์เรามาดูหลักการต่างๆ กันก่อนครับ เพื่อนำหลักการต่างๆเหล่านี้ มาวิเคราะห์ว่าเว็บที่ติดอันดับ 1 บกพร่องหลักการต่างๆเหล่านี้หรือไม่ครับ ..สำหรับ keyword ที่เราเลือก เราก็เลือกมาอีก 2-3 keyword เพื่อเป็น keyword รอง เพื่อเสริมในเว็บครับ

เราได้ keyword แล้ว ก็เริ่มสร้างเว็บได้เลย
จุดสำคัญของการสร้างเว็บอีกอย่างคือ Title ของเว็บ เวลาเราเข้าเว็บต่างๆ Title จะอยู่แถบบนสุดในเว็บครับ หรือการเขียน blog ต่างๆ ก็เขียนไว้ใน เมนู Title ได้เลย ซึ่ง Title นี้เป็นส่วนสำคัญรองลงมาจากชื่อเว็บเลยล่ะครับ โดยถ้าจะให้ได้ผลน่าพอใจใน Title ควรมี keyword หลักที่เราใช้ทำเว็บด้วยอยู่ 2 คำ แต่พึงระวัง การใส่ keyword ต้องเป็นการใส่หรือเป็นการบรรยายที่มีเหตุผล เหมาะสมกับเว็บ ไม่ใช่ ทำเรื่อง travel ก็จะเขียน title ว่า travel travel ......... ไปหลายๆคำแบบนี้ มีโอกาสถูก search แบนออกจากระบบได้ครับ(เรียกได้ว่า เป็นการ spam ครับ) พอถูกแบบคนก็ไม่มีโอกาสจะ search หาเว็บเราเจอครับ
เทคนิคเกี่ยวกับการวาง keyword หรือการใช้ keyword พยายาม ให้มี keyword อยู่เรื่อยๆ เช่นทำเรื่องท่องเที่ยว ก้พยายามใช้คำว่า travel อยุ่เรื่อยๆ แต่ก็พึงระวัง ใช้ให้มีเหตุผลด้วย ไม่ใช่ใช้อย่างไม่มีเหตุผล จะถูก search แบนออกจากระบบได้( หมายถึงว่าเว็บเรายังอยู่ เว็บเรา เรามีสิทธิทำไรก็ได้ เพียงแต่ ไม่มีเว็บเราในฐานข้อมูล search ก็หมดสิทธิที่จะมีผู้ search มาเจอครับ)
การวาง keyword ที่ขาดไม่ได้ คือการวางที่เริ่มต้น และเกือบท้ายสุดในเว็บ และถ้าเว็บมีรูปภาพ ใส่คำอธิบายรูปภาพ และมี keyword เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งการใส่คำอธิบายรูปภาพใช้คำสั่ง <alt> ในโปรแกรมเขียนโฮมเพจ จะมีทุกโปรแกรม หรือในการเขียน post ใน blog ก็ไปที่เมนู แก้ไข html แล้วดูที่ลิ้งค์รูปภาพ ก็จะมีคำสั่ง atl ให้เราใส่คำอธิบายภาพครับ ..การใส่คำอธิบายภาพ ก็พึงระวังอย่างให้ถูกมองว่า spam ได้ครับ ..เพราะจุดประสงค์หลักของ การใส่คำอธิบายภาพนี้ คือการอธิบายภาพในกรณีที่ ผู้เข้าดูเว็บและ รูปโหลดไม่ได้ รูปโหลดช้า หรือผู้ใช้ ใช้บาวเซอร์แล้วกำหนด ไม่โชว์ภาพเป็นต้น เราอาจจะใส่คำว่า image หรือ graphic กำกับ เป็นต้น เช่น travel to thilosu waterfall image เป็นต้น เป็นการอธิบายรูปว่า รูปนี้คือรูปท่องเที่ยวน้ำตกทีลอซู ..ในบาวเซอร์ firefox ระหว่างโหลดภาพจะเห็นคำอธิบายเหล่านี้ สำหรับในบาวเซอร์อื่นๆ เมื่อเอาเมาส์ชี้ที่ภาพเหล่านี้ ก็จะมีคำอธิบายขึ้นมาให้อ่านครับ

...ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจในหลักการทำ SEO กันก่อน ใน search engine ต่างๆ
จะใช้หลักการในการจัดลำดับเว็บด้วย องค์ประกอบ 2 อย่างคือ
1. on-page factor , on-page factor คือองค์ประกอบส่วนประกอบต่างๆของเว็บ 
2. off-page factor , off-page factor คือองค์ประกอบส่วนประกอบต่างๆ ที่ได้รับจากเว็บอื่นๆ เช่นการทำลิ้งค์มาหาเป็นต้น
...ใน google จะให้ความสำคัญของ onpage ไม่มากเท่า offpage แต่ onpage ก็ขาดไม่ได้ที่เราจะปรับแต่งเพื่อให้ถูกต้องตามหลัก SEO

1.มาดูการทำ on-page factor กัน หรือการปรับแต่งเว็บให้ถูกต้องตามหลัก SEO
1.1 ชื่อเว็บไซต์ ต้องมี keyword หลักอยู่ด้วย
1.2 ที่ Title เว็บไซต์ ต้องมี keyword หลักอยู่ด้วย และถ้ามี keyword รองหรือคำอธิบายอื่นๆ ให้ใช้เครื่องหมาย | กั้น
เครื่องหมายนี้ อยู่ข้างบนปุ่ม Enter นะครับ ลองหาดู ดูตัวอย่าง เว็บอื่นๆที่ใช้เครื่องหมายนี้เช่น http://www.seoelite.com 
1.3 ที่ header tags หรือ คำสั่ง <h> ในโปรแกรมเขียนโฮมเพจ ในส่วนการปรับแต่งตัวอักษร หรือสี ก็จะมีให้เลือก Format หรือ header หรือหัวข้อสำคัญของเรื่องครับ ก็พยายามให้มี keyword อยู่ใน header ด้วย และ set เลือกทางซ้าย
1.4 การเน้นตัวอักษรตัวหนา(bold) ตัวเอียง(italicuze) หรือการขีดเส้นใต้(under link) ก็มีส่วนในการทำให้ keyword มีความสำคัญ แต่ติดอันดับดีๆใน search ได้ครับ
1.5 ใส่ keyword หลักในข้อความเริ่มต้นของเว็บไซต์
1.6 ใส่ keyword หลัก ในส่วนท้ายของเว็บไซต์ หรือจะใส่ในส่วนของ copyright ก็ได้
1.7 ในส่วนของคำอธิบายรูปภาพ คำสั่ง <alt> ก็ควรมีคีเวิร์ดหลักอยู่ด้วย และควรเขียนกำกับด้วยว่า image หรือ graphic เพื่อไม่ให้ถูกมองว่าเป็นการ spam หรือถูกมองว่าโกง ในการใส่ keyword มากจนเกินความจำเป็น มากจนไม่มีเหตุผล
1.8 รูปภาพต่างๆที่นำมาทำเว็บ จะต้องตั้งชื่อก่อน ให้เกี่ยวข้องกับ keyword ต่างๆด้วย เช่น ทำเว็บท่องเที่ยวน้ำตกทีลอซู ก็ตั้งชื่อภาพว่า travel-thilosu-waterfall.jpg เป็นต้น
1.9 หน้าต่างๆ ที่เชื่อมโยง ในเว็บไซต์ จะต้องมี keyword ด้วย เช่น travel-thilosu-waterfall.html เป็นต้น
1.10 การเขียนคำอธิบาย หัวข้อลิ้งค์ต่างๆ ที่เชื่อมโยงเป็นข้อมูลในเว็บไซต์เรา ยิ่งมี keyword ยิ่งดีครับ

off-page หรือองค์ประกอบจากภายนอก สำคัญมากครับ เพราะ google จะให้ความสำคัญกับ off-page มากกว่า on-page มาก ...แต่สำหรับ search yahoo หรือ msn จะให้ความสำคัญ on-page มากกว่า เพราะฉะนั้น เราควรให้ความสำคัญกับการทำทั้ง on-page และ off-page

off-page factor จะส่งผลให้เว็บเราติดอันดับได้อยากดี แล้วส่งผลให้คนเข้าเว็บได้จำนวนมาก เกิดจาก
1.website ต่างๆที่ทำลิ้งค์หาเรา และ google ยอมรับ
การตรวจสอบโดย เข้า search google
วิธีที่ 1 พิมพ์ link:ตามด้วยเว็บของเรา
วิธีที่ 2 พิมพ์ link : ตามด้วยเว็บไซต์เรา
สังเกตระยะห่างนะครับ ถ้าใช้คำสั่งแรก แล้วพบลิ้งค์ต่างๆ เว็บเราจะยิ่งได้ลำดับดีๆใน search ครับ

2.จำนวนเว็บที่ลิ้่งค์มาหาเรา

3. ค่า PR ที่ลิ้งค์มาหาเรา ค่า PR หรือ Page Rank
ค่า PR เป็นค่าที่ google ให้คะแนนกับเว็บไซต์หน้าต่างๆ แต่ละหน้าเว็บไซต์จะมีค่าต่างกัน
การที่เว็บไซต์หน้าแรกเรามีค่า PR สูงๆ ก็สามารถใช้เป็น ข้อต่อรองในการแลกลิ้งค์ได้เป็นอย่างดีครับ
สำหรับการเช็คค่า PR สามารถเช็คได้โดยใช้โปรแกรม บาวเซอร์ Fire Fox ซึ่งจะมี Google toolbar มาด้วย
ซึ่งจะมีค่า Page Rank มาด้วย ในการเข้าเว็บต่างๆ คะแนน PR ก็จะขึ้นเป็นแทบสีเขียวพอเอาเมาส์ชี้
ก็จะปรากฎคะแนน PR ขึ้นมา ท่านใดที่ยังไม่มีโปรแกรม บาวเซอร์ Fire Fox สามารถโหลดมาใช้ได้ฟรีครับ และยังสามารถช่วยให้เข้าเว็บต่างๆได้เร็วอีกด้วย
มีให้ดาวน์โหลดใน SEO ภาคแรกครับ http://seo-makemoney.blogspot.com

หรือเราจะเข้าเว็บตรวจสอบ PR ก็เข้าได้ที่
http://www.prchecker.info/check_page_rank.php
ซึ่งในเว็บไซต์ ยังมี HTML CODE ให้ สามารถนำมาติดเว็บไซต์เราได้ ซึ่งจะแสดงค่า PR ให้เห็นในหน้าที่เราติด Code ครับ
แต่ในการเข้าเว็บต่างๆ เพื่อวิเคราะห์ค่า PR การมี google toolbar จะสะดวกในการวิเคราะห์ได้เร็วและไม่ยุ่งยาก

4. Page Title ของเว็บที่ลิ้งค์มาหาเรา
ควรประกอบด้วย Keyword หลักของเว็บเรา ..เราสามารถกำหนดได้ ในกรณีที่เราต้องการแลกลิ้งค์ กับเว็บต่างๆ เว็บต่างๆเหล่านั้น จะให้เรากรอก Page Title หรือ Title ของเว็บไซต์เรา

5.คำที่เขียนในการลิ้งค์มาหาเว็บเรา
ในการแลกลิ้งค์ ในส่วนนี้ เราก็ควรกำหนดเขียน ให้มี keyword และคำอธิบายที่เหมาะสม

6.จำนวนและชนิดของลิ้งค์ที่ลิ้งค์มาหาเว็บไซต์เรา
การได้ลิ้งค์จากเว็บไซต์ ที่มีเนื้อหาในทำนองเดียวกัน จะมีคุณภาพสูง กว่าได้จากเว็บเนื้อหาคนละเรื่องกันครับ และ search engine สามารถแยกออกได้ว่า ลิ้งค์นั้นมาจากเว็บไซต์ หรือมาจาก webboard การได้มาจากเว็บบอร์ด จะไม่ได้คุณภาพเท่าไหร่ แต่ก็เป็นหนทางที่ทำให้สมาชิกเว็บบอร์ด ได้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บเราได้

7.จำนวนของลิ้งค์ที่เว็บนั้นๆที่ลิ้งค์หาคุณ ลิ้งค์ออกไปหาเว็บอื่นๆอีก
เช่น เว็บ directory ต่างๆ จะมีจำนวนลิ้งค์มากมาย จะมีคุณสมบัติไม่เท่ากับ เว็บไซต์ ธรรมดา ที่ทำลิ้งค์มาหาเรา
และเว็บไซต์นั้น ถ้ายิ่งเป็นเว็บไซต์เรื่องราวในทำนองเดียวกับเว็บเรา ยิ่งดีครับ

8.จำนวนของลิ้งค์ต่างๆที่ลิ้งค์ในเว็บไซต์ที่ลิ้งค์มาหาคุณ
คือจำนวนของลิ้งค์ต่างๆที่เว็บไซต์นั้นลิ้งค์ออกไป จำนวนของลิ้งค์ภายในเว็บไซต์
ยิ่งเว็บนั้นมีลิ้งค์น้อย และลิ้งค์มาหาคุณ ยิ่งดีครับ

9.ความน่าเชื่อถือ ของเว็บไซต์ที่ลิ้งค์มาหาคุณ ที่ google ยอมรับ
แต่เว็บไหนที่ไม่มีคุณภาพ แต่ลิ้งค์มาหาคุณ ก็ไม่มีส่วนทำให้คะแนนคุณ หรือลำดับลดลงแต่อย่างไรครับ

10. ip address ของเว็บไซต์ที่ลิ้งค์มาหาคุณ
ยิ่งได้จากหลายๆเว็บและหลาย ip ยิ่งดีครับ
ตรงนี้ผมลองเช็คดู ถ้าเป็น blogspot.com จะ ip เดียวกันหมดครับ
เว็บนี้ใช้เช็ค ip โฮสเว็บไซต์ต่างๆครับ ใส่อย่างน้อย 2 เว็บในการเช็คนะครับ
http://www.webrankinfo.com/english/tools/class-c-checker.php


การทำให้เว็บไซต์ติด มีรายชื่อใน google ได้อย่างรวดเร็ว ภายใน 24 ชม.

ตามหลักการที่ผมศึกษามา เค้าบอกว่าการที่ google จะ index เว็บ หรือ เก็บเว็บเกิดใหม่ไว้ในฐานข้อมูล
บางครั้งอาจใช้เวลานาน ไม่รู้ว่าล่าสุดจะนานหรือป่าว ปกติผมทำก็ไม่นานก็ index เข้าไปแล้ว
การจะตรวจสอบว่า google จะ index เว็บเราหรือยัง ,
และยังสามารถเช็คได้ด้วยว่า เว็บนั้นๆโดนแบนจาก google หรือไม่ หลักการคือ

เข้า search google แล้วพิมพ์คำสั่ง http://ตามด้วยชื่อเว็บที่เราต้องการตรวจสอบ
ต้องพิมพ์ http:// ด้วยนะครับ ... ผลการ search ถ้าเว็บถูกเก็บข้อมูลโดย google แล้ว ก็จะพบเว็บไซต์ และ รายละเอียดของเว็บไซต์ที่ google ทำอธิบายไว้ ...แต่ถ้าไม่พบ มี 2 กรณีคือ
1.โดน google แบนจากระบบ อาจเป็นเพราะ spam keyword หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่ search รังเกียจ
2.ยังเป็นเว็บใหม่ พึ่งสร้าง
...มาเรื่องเกี่ยวกับค่า PR ในการตรวจสอบเว็บ ถ้าเว็บไหน ไม่มีค่า PR (ปกติค่า PR จะอยู่ที่ 0-10)
ก็ไม่ใช่ว่า จะโดนแบนนะครับ อาจยังไม่ถูกเก็บข้อมูลวิเคราะห์ค่า PR ก็เป็นได้ ถ้าเว็บไหนโดนแบน
ก็คือ search ตามหลักการข้างบนแล้วไปเจอเว็บนั้นครับ
...สำหรับอีกคำสั่ง คือคำสั่งเช็คว่า มีเว็บไหนที่ ลิ้งกับเว็บเรา และ google เก็บข้อมูลไว้
ให้เข้าไปที่ search google แล้ว พิมพ์ ชื่อเว็บที่ต้องการตรวจสอบเลย โดยไม่ต้องใส่ http:// นำหน้า
ก็จะพบข้อมูลต่างๆ ยิ่งมีเยอะ ยิ่งดีครับ

...กลับมาเรื่อง การทำให้เว็บมีรายชื่อใน Google ได้เร็วภายใน 24 ชม.
ไม่ต้องไป submission ที่ google.com/addurl.html
ในตำรา e-book ที่ศึกษามาเค้าบอกว่า ห้ามใช้ บอกว่า จะ index ช้า ประมาณ 4 สัปดาห์
เค้าแนะนำดังนี้
ให้ไปแลกลิ้งค์กับ เว็บที่มี PR สูงๆ
ถ้าคุณมีลิ้งค์อยู่ในเว็บที่มี PR 5 คุณจะ index google ภายใน 3 วัน
ถ้าคุณมีลิ้งค์อยู่ในเว็บที่มี PR 6 ขึ้นไป คุณจะ index google ภายใน 24 ชม.

...มาเสริมกันตรงนี้หน่อยนะครับ แล้วเว็บสูงๆนั้นเค้าจะให้เราลิ้งค์ได้ง่ายๆเหรอ เรารู้จักเค้าเหรอ
มีบางเว็บ จะลิ้งค์ด้วย ยังต้องเสียเงินลิ้งค์ด้วย
ผมมีวิธี ...ง่ายๆก็คือ ให้เรา add เว็บหรือ blog ในเว็บจัดลำดับต่างๆ
เพราะจะมีลิ้งค์เราอยู่ทันที http://www.bloggernity.com PR 6
http://www.bloggernow.com PR 5
http://www.top100categories.com PR 5
http://extremetracking.com ตัวติดเว็บ ตรวจสอบคนเข้าเว็บ PR 8

เป็นอันว่าหัวข้อนี่จบนะครับ ไปเรื่องต่อไปกันดีกว่า

วิธีการทำให้เว็บขึ้นอันดับได้ดีๆ

ให้เราใช้ keyword หลักของเรา search ใน google แล้ว ดูเว็บที่ได้อันดับ 1
แล้วเข้าไปวิเคราะห์ ว่า เว็บนั้น ทำไมถึงได้อันดับ 1
เข้าไปดู ว่าเว็บนั้นทำตามหลัก SEO ครบหรือไม่ เข้าไปตรวจสอบลิ้งค์
ว่ามีเว็บไหนทำลิ้งค์มาหาเว็บเค้าบ้าง โดยใช้คำสั่งตรวจสอบลิ้งค์ต่างๆคือ
link:ตามด้วยเว็บไซต์อันดับ1ที่เราต้องการตรวจสอบ
แล้วก็เข้าไปพยายามติดต่อ ขอแลกลิ้งค์กับเว็บนั้นๆ
การแลกลิ้งค์ หลักที่เราจะต้องเขียน หรือเว็บต่างๆ ส่วนใหญ่ ถ้ามีการแลกลิ้งค์ก็จะมีีเมนูให้เขียนแลกลิ้งค์
Title เขียนตาม Title ที่เราใช้ในเว็บดีที่สุดแล้วครับ
Description รายละเอียดด็ควรมี keyword รองเข้ามาปนด้วยครับ
Url ก็ที่อยู่เว็บไซต์เรา
สำหรับ วิธีการเทคนิคการตรวจสอบเว็บก็ตามเนื้อหาที่ผ่านมานะครับ
ง่ายๆก็คือ วิเคราะห์เว็บที่ได้อันดับ 1 และพยายามทำตาม ปัจจัยต่างๆในส่วนของ off-page
ที่เว็บที่ได้อันดับ 1 ได้รับครับ
ขอเพิ่มเติมคำศัพท์ที่เราอาจจะเจอ นิดนึงครับ
Inbound links คือ การได้รับลิ้งค์จากเว็บต่างๆ
Out bound links คือ การทำลิ้งค์ออกสู่เว็บต่างๆครับ

มาคุยเรื่ืองการโดนแบนจาก Search 

เนื้อหาไม่มีอะไรมากครับ ถ้าคุณไป spam keyword มากๆ ไม่ว่าส่วนไหนในเว็บ
มากจนเกินความจำเป็น มากแบบไม่มีเหตุผล มีสิทธิโดนได้ทั้งนั้นครับ
ไม่ว่าจะเขียนแล้วทำให้ keyword เป็นสีขาวหรือสีเดียวกับเว็บ จนมองไม่เห็น
search engine รู้ครับ โดนแน่ๆ ...การตรวจสอบเรื่องโดนแบนหรือไม่
เอากลับมาทวนอีกทีคือ
เข้า search google แล้วพิมพ์คำสั่ง http://ตามด้วยชื่อเว็บที่เราต้องการตรวจสอบ
ต้องพิมพ์ http:// ด้วยนะครับ
 แล้วกด search ถ้าเว็บไซต์เคย มีข้อมูลใน search
แล้ว พอตรวจสอบด้วยคำสั่งนี้ แล้ว ไม่พบ คือโดนแบน หนึ่งร้อยเปอร์เซอร์ครับ

มาดูพลังของ off page กันครับ

เข้า google แล้ว search คำว่า click here
พบเว็บอันดับ 1 มั๊ยครับ คือเว็บ http://www.adobe.com
เว็บข่ายใหญ่ทำโปรแกรมต่างๆ acrobat หรือ กราฟฟิกต่างๆ
ติดอันดับ 1 คำว่า click here ทั้งๆที่ ในเว็บไซต์ ไม่ได้ เน้น keyword คำว่า click here เลย
ที่ Title เว็บก็ไม่มี
...แล้วอะไรล่ะครับ ที่ทำให้ adobe ติดอันอับ 1 ด้วยคำว่า click here
ทั้งๆที่ ตามหลักการ on-page หรือการตกแต่งภายในเว็บ ไม่ได้เน้น keyword click here เลย
...นั่นเป็นเพราะ อิทธิของ off-page หรือองค์ประกอบภายนอก ที่มีเว็บไซต์
จำนวนมากทำลิ้งค์มาหาเว็บนี้ ด้วยคำว่า click here ครับ
และนี่คือ อิทธิพลของ off-page ที่ google ให้ความสำคัญมากกว่า on-page

มาถึงเทคนิคในการ หาเว็บคุณภาพในการ add directory ครับ น้อยคนจะรู้ครับ

เข้า google แล้ว พิมพ์ตามนี้ครับ
Keyword "Please also suggest my link to the LinkPartners.com Directory."
หมายถึง คีย์เวิร์ดในเรื่องที่ต้องการ add แล้วตามด้วย
"Please also suggest my link to the LinkPartners.com Directory."
ยาวๆแบบนี้แหละครับ แล้วก็กด search จะพบเว็บ ให้ add directory ที่มีคุณภาพตามต้องการครับ

..สำหรับการแลกลิ้งค์ อีกแบบก็คือ การเข้าเป็นสมาชิกของเว็บ http://www.linkmetro.com
สมัครฟรีครับ ในเว็บนี้ จะมีเว็บต่างๆมากมาย เราสามารถเข้าดูเว็บต่างๆเพื่อขอแลกลิ้งค์ได้ แต่เค้าจะขอแลกหรือไม่ก็อีกเรื่องนะครับ ในทางกลับกัน เมื่อเค้าเห็นเว็บเรา เค้าก็สามารถมาขอแลกลิ้งค์ได้ครับ เราอยากจะแลกหรือไม่ก็เรื่องของเราอีกเช่นกันครับ คล้ายๆว่า เป็น ศูนย์รวม ผู้สนใจในการแลกลิ้งค์ครับ


ข้อควรระวังในการทำ link หาเว็บอื่น

google จะไม่ลงโทษ การกระทำ off-page ใดๆจากเว็บอื่นๆ ที่ทำมาหาเราครับ
เช่น เว็บที่โดน google แบนทำลิ้งค์มาหาเรา เราก็ไม่เสียหายอะไรครับ
หรือลิ้งค์ต่างๆจากระบบ link farm ระบบ FFA ( Free For All ) ซึ่งระบบนี้ เป็นระบบเก่า ในสมัยนานมาแล้ว
ก็คือ ระบบนี้จะเอาลิ้งค์เราไปใส่ตามลิ้งค์ต่างๆมากมาย แต่เป็นลิ้งค์ที่ ไม่มีความหมาย หรือทำขึ้นมาแบบไม่มีความหมาย
เพื่อให้มีลิ้งคืมากๆทำมาหาเว็บที่ต้องการระบบ FFA จะได้ขึ้นอันดับได้ดีใน search ซึ่งสมัยนี้ search ฉลาดมากครับ ลิ้งค์จาก ระบบ FFA ไม่นำมาคิดครับ ...ถ้าใครคิดจะสมัคระบบ FFA ก็ไม่รู้ว่า search จะมีระบบตรวจพบว่า เว็บไซต์นั้นๆไปสมัคร ระบบ FFA หรือป่าว อาจถูกลงโทษแบนได้ครับ ...แต่จะอย่างไรก็แล้วแต่ ลิ้งค์ที่ไม่มีคุณภาพต่างๆ ถ้าทำมาหาเว็บเรา เราไม่เสียหายอะไรครับ

แต่ที่สำคัญก็คือ การที่เราทำ ลิ้งค์หาเว็บไซต์ที่ถูกแบน เราจะถูกลงโทษจะ search
อาจถูกลดคะแนน PR หรือ โดนแบนจาก search ได้ครับ ..และด้วยหลักการนี้เอง มีด้านมืดของระบบเกิดขึ้น
ก็คือพวกที่ แลกลิ้งค์กับเว็บต่างๆ พอแลกได้แล้ว มาภายหลังพยายามทำให้เว็บตัวเองถูกแบน
เว็บต่างๆที่มี ลิ้งค์ของเว็บนี้อยู่ก็จะซวยไปด้วยครับ เพราะฉะนั้น ก่อนแลกลิ้งค์
1.ตรวจสอบเว็บนั้นก่อนว่า ถูกแบนหรือป่าว
( เข้า search google แล้วพิมพ์คำสั่ง http://ตามด้วยชื่อเว็บที่เราต้องการตรวจสอบ )
2.หลังจากแลกลิ้งค์แล้ว พยายามตรวจสอบดูเรื่อยๆ ว่าเว็บต่างๆ ที่เราทำลิ้งค์หา
เว็บนั้นยังสบายดีอยู่ หรือถูกแบนหรือไม่

...โปรแกรม ที่ช่วยในการวิเคราะห์ ขั้นตอนต่างๆได้อย่างรวดเร็วคือ SEO Elite ครับ ราคาประมาณ 160 เหรียญ

จบแล้วครับ SEO ยากมั๊ย ? @^_^@

1 ความคิดเห็น:

Blogger กล่าวว่า...

Are you trying to earn cash from your traffic with popunder ads?
In case you are, have you tried using Clickadu?

ร่วมเป็นสมาชิก Blogseothai คุณคือตัวจริง !