การตลาดแบบ affiliate

การตลาดแบบ affiliate กำลังเป็นที่นิยมมากในขณะนี้ ทำไมเหรอ? ก็เพราะมันสามารถทำเงินมหาศาลให้กับคุณนั่นเอง และยัง ทำเงินให้คุณเรื่อย ๆ ทุก ๆ เดือน ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดถึงกับพูดว่า เรียนรู้การตลาดแบบ affiliate ก่อนและทำให้มันสำเร็จ แล้วค่อยคิดสร้างผลิตภัณฑ์ของคุณเอง แล้วการตลาดแบบ affilate น้้นต้องทำอย่างไรละ ผมจะบอกคุณให้ ลองทำตามขั้นตอนข้างล่างนี้ดูสิ:

ขั้นตอนที่ 1 - ค้นหาช่องทางทางการตลาด (niche market).

ค้นหาช่องทางทางการตลาดให้เจอ แล้วลงมือทำ สิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกคุณคือ หลีกเลี่ยงช่องทางที่ว่า "ทำเงินออนไลน์" ช่องทางนี้ มีคนทำกันเยอะและยากที่มือใหม่จะแทรกเข้าไปสำเร็จ คุณควรจะลองช่องทางอื่นดูก่อน แล้วค่อยลองช่องทางนี้

มีช่องทางอีกเป็นพัน ๆ ที่คุณสามารถลองได้นอกจาก "ทำเงินออนไลน์" และยังทำเงินได้มากกว่าอีกด้วย

แล้วจะค้นหาช่องทางการตลาดได้อย่างไรละ?

อย่าลืมว่าช่องทางทางการตลาดไม่ใช่คีย์เวิร์ดหรือเป็นผลิตภัณฑ์ แต่มันคือกลุ่มของคนที่มีปัญหาเหมือนกัน ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ค้นหากลุ่มที่มีปัญหา แล้วค้นหาวิธีแก้ปัญหานั้น ซึ่งวิธีแก้ปัญหาก็คือผลิตภัณฑ์ที่คุณสามารถนำมาทำการตลาดแบบ affiliate ได้นั่นเอง นี่คือวิธีการหาเงินของคุณ สิ่งที่ต้องค้นหานั้นอาจคือปัญหาอย่างเช่น การนอนกรน หรือ ความชอบ เช่น ตั๋วคอนเสิร์ต

**วิธีการสร้างไอเดียในการค้นหาช่องทางทางการตลาด 7 วิธี มีดังนี้:

1. มองกระจกดูสิ คุณอาจเป็น niche ของคุณเอง คุณใช้จ่ายไปกับอะไรบ้างในการแก้ปัญหาให้กับตัวเอง? อะไรที่คุณชอบมากและ คุณได้ซื้อมันไป?
2. ดูโทรทัศน์ มีไอเดียเป็นร้อย ๆ อย่างแค่ดูโฆษณาทีวีอย่างเดียว
3. อ่านนิตยสารหรือแมกกาซีนที่คุณชอบ
4. ลองดู affiliate โปรแกรมจากไดเรกทอรี อย่างเช่นไดเรกทอรีของ IG-affiliate หรือ Clickbank
5. ลองเข้าไปดู blog ไดเรกทอรี แล้วดูว่าคนอื่นเขา blog เกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง
6. ลองดู Google Hot Trends แล้วดูว่าอะไรที่กำลังมาแรงในขณะนี้
7. ลองดูข่าวบ้างว่า ข่าวอะไรที่ทุกคนกำลังพูดถึงกันขณะนี้ ลองเข้าไปที่โฮมเพจของไซท์อย่างเช่น CNN, Yahoo และ MSN

ขั้นตอนที่ 2 - ค้นคว้าเกี่ยวกับ niche ของคุณ

ถ้าคุณข้ามขั้นตอนนี้ไป คุณกำลังจะเสียเวลาที่มีค่าของคุณไป ถ้าคุณไม่ทำ research เกี่ยวกับ niche แล้วคุณจะไม่รู้ว่าความต้องการของผู้ซื้อคืออะไร อะไรคือสิ่งที่เขาชอบหรือสินค้าอะไรที่เขากำลังใช้อยู่

ประโยชน์ที่ได้รับอีกอย่างหนึ่งก็คือ คุณจะกลายเป็นคนรอบรู้ในตลาดที่คุณได้ทำการค้นคว้านั้น อย่างเช่น วิธ๊การพูดของคุณหรือการใช้ศัพท์ที่ ใช้พูดกันในวงการนั้น ๆ คุณจะพูดได้อย่างพวกเขาและคุณจะถูกมองว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ

ในการทำการค้นคว้าเกี่ยวกับ niche ของคุณ สิ่งที่คุณต้องทำนั้นก็คือการเข้าไปคลุกคลีเว็บไซต์ที่ ๆ ตลาดของคุณอยู่ เช่น ฟอรั่ม, blog, social network

พยายามเข้าไปในวงการกอล์ฟหรือ? เข้าไปดูฟอรั่มที่เกี่ยวกับกอล์ฟดู แล้วลองสมัครเป็นสมาชิก blog ที่เกี่ยวกับกอล์ฟ อ่านทุก ๆ โพสท์ กับคอมเมนท์ แล้วลองดู forum threads ที่มีคนตอบมากที่สุด แล้วคุณจะพบปัญหาและแนวทางในการแก้ปัญหา ที่คุณสามารถจะใช้เป็นแนวทางในการทำการตลาดที่เกี่ยวกับ niche นั้น ๆ

บทความข้างล่างนี้ จะช่วยให้คุณเข้าใจการทำรีเสิร์ชเกี่ยวกับ niche market มากขึ้น

5 Steps to Becoming an Expert in Your Niche

นอกจากนั้น บทความนี้จะช่วยให้คุณรู้วิธีการทำรีเสิร์ชเกี่ยวกับ niche market โดยใช้ Yahoo Answers: how I use Yahoo Answers to do Niche Research.


ขั้นตอนที่ 3 - การทำการค้นคว้าเกี่ยวคีย์เวิร์ด (Keyword Research)

คุณไม่ต้องใช้เครื่องมือราคาแพง ๆ เครื่องมือที่ช่วยคุณค้นคว้าเกี่ยวกับคียว์เวิร์ดที่ดีที่สุดคือ Google Adwords External Keyword Tool

https://adwords.google.com/select/KeywordToolExternal

คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการป้อนคีย์เวิร์ด "กอลฟ์" แล้วระบบจะโชว์คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง คีย์เวิร์ดนี้ช่วยให้คุณทราบว่าปัญหาที่เกี่ยวข้องมีอะไร บ้าง นอกจากนั้นถ้าคุณได้ทำรีเสิร์ชมา คุณก็คงจะรู้ว่าปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ niche ของคุณมีอะไรบ้าง เติมคีย์เวิร์ดเหล่านี้ลงไปใน Google keyword tool แล้วดูว่าคุณจะได้ผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้าง

อย่าใช้คีย์เวิร์ดที่กว้างเกินไปเหมือนกับที่คนอื่น ๆ ทำ คุณต้องการคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับ niche คุณ ลองคิดดูว่าผู้ใช้เว็บคุณจะคิดถึงอะไรบ้างเมื่อเขาพิมพ์คีย์เวิร์ดลงไปใน Google

ผู้ใช้ปกติจะต้องใช้เวลาในการตัดสินใจในแต่ละขั้นตอน เริ่มต้นจาก การทำรีเสิร์ช แล้ว ทำการตัดสินใจ แล้วถึงจะซื้อสินค้าของคุณ สิ่งที่คุณควรทำคือการมุ่งความสนใจไปยังขั้นสุดท้ายซึ่งคือการซื้อสินค้า

คุณคงพอจะทราบคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับการซื้อสินค้าเพราะว่าปกติแล้วจะเป็นชื่อสินค้าแล้วตามด้วย คำอื่น ๆ ที่อยู่ก่อนหรือหลังคำนั้นอย่าง เช่น:

buy
purchase
review
free shipping
cheap

คุณคงคุ้นเคยกับคำเหล่านี้อยู่แล้ว คำเหล่านี้จะใช้สำหรับคนที่กำลังจะซื้อสินค้าแล้ว

ขั้นตอนที่ 4 - หาวิธการโปรโมทสินค้า

คุณอาจจะใช้วิธีโฆษณาแบบ PPC (Pay-per-click) หรือ การทำมาร์เก็ตติ้งด้วยการเขียนบทความ หรือการใส่เนื้อหาโปรโมทสินค้าลงบนเว็บไซต์ หรือการโพสท์ข้อความโฆษณาลงบน forum หรือบน blog หรือบน social network แต่ อย่าทำพร้อมกันหมด คุณจะต้องเลือกวิธีใดวิธีหนึ่งแล้วเรียนรู้มันเป็นอย่างดีแล้วจึงใช้มันเพื่อการโปรโมทสินค้าของคุณ

ใครได้รับเงินมากกว่ากันระหว่างหมอทั่วไปกับหมอที่เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดสมอง? จงเป็นผู้เชี่ยวชาญในสิ่ง ๆ หนึ่งก่อนแล้วค่อยเรียนรู้สิ่งต่อ ๆ ไป

สำหรับผมแล้ว ผมชอบวิธีโปรโมทโดยใช้คำว่า "ฟรี" กับการทำการตลาดโดยการเขียนบทความเพื่อโปรโมทสินค้านั้น

หลังจากคุณได้ทำตามขั้นตอนก่อนหน้านี้แล้ว สิ่งที่คุณจะทำต่อไปก็คือ:

โชว์โปรโมชั่นของคุณบนเว็บไซต์ของคุณ ถ้าคุณ ไม่มีเว็บไซต์ของตัวเอง ให้ใช้ blog หรือใช้เว็บที่ให้บริการฟรีเว็บไซต์อย่างเช่น Weebly.com

คุณจะต้องทำ SEO ให้กับบทความของคุณ และทำให้เพ็จนั้นติดอันดับหน้าแรกบน Google คุณจะทำได้ก็ต่อเมื่อคุณเลือกคีย์ เวิร์ดที่มีการแข่งขันต่ำ

ในการหาคีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันต่ำนั้น คุณสามารถทำได้จากการใส่คีย์เวิร์ดของคุณลงไปใน Google โดยใส่เครื่องหมาย quote (") รอบคีย์เวิร์ด ตัวอย่างเช่น "กอล์ฟ" แล้วดูว่ามีผลการเสิร์ชนั้นโชว์เว็บไซต์เป็นจำนวนเท่าใด ถ้าผลการเสิร์ชทีได้มี เว็บไซต์น้อยกว่า 10,000 ถือว่าใช้ได้

เพื่อที่จะให้ได้อันดับสูง ๆ บน Google คุณต้องใช้เว็บไซต์ที่ติดอันดับสูง ๆ บน Google อยู่แล้ว ไซท์เหล่านี้ได้แก่ Blogger, WordPress, Ezinearticles, Hubpages, Goarticles, Squidoo etc.

คุณต้องการ backlink หรือลิงค์ที่ชี้มายังเว็บของท่าน เพื่อที่จะเพิ่มอันดับให้แก่บทความของคุณ คุณควรสร้างกลุ่มของบท ความนี้แล้วให้แต่ละเว็บลิงค์เข้าหากัน และลิงค์ทุก ๆ บทความมายังหน้าโปรโมชั่นหลักของคุณ นอกจากนั้นคุณยังโพสท์ลิงค์ไปยังบทความ เหล่านี้บน social network ของคุณ หรือบนเว็บอื่น ๆ ที่รับฝากลิงค์ของท่าน

เมื่อคุณเริ่มมีรายได้จากการขาย นั่นหมายความว่า niche ที่คุณเลือกนั้นดี นอกจากนั้้น คุณยังสามารถโปรโมทสินค้าคุณโดย การสร้างโปรแกรมโฆษณาอย่างเต็มรูปแบบ เช่น การใช้ affiliate marketing ทั้งแบบ PPC (Pay-Per- Click) หรือวิธีการอื่น ๆ

เริ่มสร้าง subniche หรือ niche ย่อยที่แยกมาจาก niche หลัก โดยคราวนี้คุณจะเริ่มจากอันดับสูง ๆ เนื่องจาก คุณประสบความสำเร็จกับ niche หลักนั้นแล้ว หรือ คุณอาจเริ่มจาก niche ใหม่
เลยก็ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

ร่วมเป็นสมาชิก Blogseothai คุณคือตัวจริง !