บทความ ความรู้ เบื้องต้น พื้นฐาน ความรู้ความเข้าใจ และการทำ SEO การทำฺ Blog การสร้างบล็อก คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต keyword
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ keywords แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ keywords แสดงบทความทั้งหมด
SEO check lists การให้คะแนน SEO
1 Keywords ใน <title> tag
จุดสำคัญที่สุดจุดหนึ่งที่จะใส่ Keywords ของเราคือ Keywords ใน <title> tag เพราะ Keyword จะถูกโชว์ใน search results ในฐานะ page title ตัว title tag ควรจะสั้นๆ (6 or 7 คำสูงสุด) และ Keyword ควรจะอยู่ใกล้จุดเริ่มต้นประโยค +3
2 Keywords ใน URL
Keywords ใน URLs ช่วยได้ เช่น. - http://domainname.com/seo-services.html, จะเห็นว่า “SEO services” เป็น keyword phrase ที่เราพยายามจะเน้น แต่ถ้าในเอกสารของคุณไม่มี Keyword คำนี้อยู่ การใส่ Keywords ใน URL ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก
+3
3 ความหนาแน่นของ Keyword ในเว็บ
ความหนาแน่นของคีย์เวิร์ดที่ดีควรจะ check ให้อยู่ราวๆ 3-7 % สำหรับ Keyword หลัก, 1-2% สำหรับคีย์อวิร์ดรอง. แต่ถ้าความหนาแน่น ของ Keyword นั้นมากกว่า 10% จะดูเยอะเกินและเหมือนกับยัดคีย์เวิร์ดซึ่งจะส่งผลไม่ดี
+3
4 Keywords ใน anchor text
นี่ก็เป็นสิ่งสำคัญมาก the anchor text of inbound links, เพราะว่าถ้าคุณมี keyword เป็นคำ anchor text ที่ลิงค์เข้ามาจากเว็บอื่นๆ ก็จะเปรียบเทียบได้กับการได้รับการ vote จาก site นั้นๆไม่ใช่แต่เฉพาะทั้งเว็บตามปกติ, แต่จะเกี่ยวกับ keyword ด้วย
+3
5 Keywords in headings (<H1>, <H2>, etc. tags)
อีกจุดหนึ่งที่ให้น้ำหนัก Keyword ด้วยอย่างมาก. แต่ก็ให้แน่ใจด้วยว่าในหน้าเว็บนั้นๆของคุณก็มี text ที่เป็น Keyword นี้ด้วยเช่นกัน
+3
6 Keywords ในจุดเริ่มต้นของ เอกสาร
ถึงแม้คะแนนจะไม่มากเท่า anchor text, title tag หรือ headings. อย่างไรก็ตามให้นึกไว้เสมอว่า จุดเริ่มต้นของเนื้อความใน document ไม่จำเป็นต้องหมายถึง ย่อหน้าแรกเสมอไปนะครับ – เช่นถ้าเราใช้ tables, ข้อความหลักน่าจะอยู่ที่ column ที่สอง row สองมากกว่า.
+2
7 Keywords ภายใน <alt> tags
Spiders จะไม่รู้จักรูป images แต่มันสามารถอ่าน textual descriptions ใน <alt> tag ได้, เพราะฉนั้นถ้าคุณมีรูป, ให้ใส่ keyword บางตัวใน <alt> tag ด้วย
+2
8 Keywords ใน metatags
่ไม่น่าเชื่อว่าตอนนี้ความสำคัญในส่วนของ meta ได้ลดลงมาบ้าง (แต่ก็ยังต้องใส่อยู่), เพราะว่า Google. Yahoo! และ MSN ก็ยังพิจารณาส่วนนี้อยู่, โดยเฉพาะ Yahoo! กับ MSN, การใส่ keyword ใน meta ก็ยังดีกว่าไม่ใส่เลยนะครับ
+1
9 Keyword proximity
Keyword proximity เป็นตัววัดความใกล้กันของตัว text ใน keywords ซึ่งจะให้ผลดีที่สุดถ้า keyword ตัวนึงอยู่ต่อกับอีกตัวนึงพอดี (เช่น “dog food”), ที่ไม่มีคำอื่นใดไปแทรกกลางระหว่างมัน. ตัวอย่างเช่นถ้าเรามีคำว่า “dog” ในย่อหน้าแรกและ “food” ในย่อหน้าที่สาม , Google ก็จะนับ keyword ให้เหมือนกันแต่ก็จะไม่ได้ให้น้ำหนักมากเท่า“dog food” ที่ไม่มีอะไรแทรกกลางเลย. Keyword proximityจะเหมาะกับ keyword ที่มีคำมากกว่าสองคำอยู่ด้วยกันครับ
+1
10 Keyword phrases
ในบาง Keyword เราสามารถที่จะ optimize ตัว keywordที่ประกอบด้วยคำหลายคำได้ เช่น “SEO services” จะเป็น keyword phrases ที่น่าจะเป็นที่นิยมในการค้นหา เพราะผู้เซิร์ทหลายคนน่าจะพิมพ์ทั้งสองคำนี้ลงไปตรงๆ แต่ในบางโอกาส การแยก keyword เป็น 2หรือ 3 คำ เช่น “SEO” และ “services” ก็อาจจะทำให้เจอได้ในบางครั้งเช่นกัน เพียงแต่จะมีน้ำหนักที่น้อยกว่าบ้าง +1
11 Secondary keywords
การ Optimizing สำหรับ keywords ที่รองลงไป (บางทีเป็น sub categories ของ keyword หลัก) ก็เป็นความคิดที่ดี เพราะแน่นอนว่าทุกๆคนพยายามที่จะ optimizing keywords ที่ดังๆ และค่อนข้าง General ทำให้ keyword ที่รองลงมาอาจไม่ค่อยได้ถูกโฟกัส นั่นหมายความว่าถ้ามีคน search ก็กลับจะดีกว่า ยกตัวอย่างเช่น “boutique hotel pattaya” นั้นมีคนเซิร์ทน้อยกว่า “boutique hotel” เป็น พันๆเท่าแน่นอน แต่ถ้าคุณทำธุรกิจนี้ในพัทยา ถึงแม้คุณจะมีคนเซิร์ทเจอน้อยกว่าแต่คนที่เจอก็เป็น targeted traffic แน่นอน
+1
12 Keyword stemming
สำหรับภาษาอังกฤษ การใส่คำที่มีความหมายในทางเดียวกัน เช่น dog, dogs, doggy,และอื่นๆ จะถูกคิดว่ามีความสำพันธ์กันถ้าคุณมีคำว่า “dog”อยู่ใน pageของคูณ, เว็บอาจจะถูเซิร์ทเจอเพราะคำว่า “dogs” หรือ “doggy”ได้เหมือนกัน อย่างไรก็ตามสำหรับภาษาไทยนั้นการใส่ keyword ที่คล้ายๆกันไปด้วยก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นเพราะ search engine ยังไม่รู้จักรากของคำดีพอ (ถึงแม้ช่วงสองเดือนที่ผ่านมา google สามารถที่จะตัดแยกคำไทยที่เขียนติดกันได้แล้วก็ตาม)
+1
13 Synonyms
สำหรับภาษาอังกฤษ การ Optimizing คำที่มีความหมายเดียวกัน (synonyms)ของ target keywords, ก็จะให้ผลดีด้วยเพราะ search engine นั้นมีความฉลาดพอที่จะรู้เรื่องนี้แล้ว แต่สำหรับภาษาไทยนั้น search engine ยังไม่รู้จักคำเหมือนนะครับ
+1
14 Keyword Mistypes
การสะกดผิดเป็นเรื่องที่เป็นกันบ่อย หรือแม้แต่การตั้งใจเขียนให้มีความหมายคล้ายกันแต่เขียนให้ส้นลง เช่น Christmas กับ Xmas ซึ่งเราก็อยากจะ optimize ทั้งคู่ซึ่งแน่นอนว่าเราก็จะได้ Traffic ที่เพิ่มขึ้น แต่การแกล้งพิมพ์ผิดหรือพิมพ์เพี้ยนในเว็บไซต์นั้นอาจจะทำให้เว็บไม่ค่อยน่าประทับใจ ทางที่ดีใส่แค่ใน meta ดีกว่า
0
15 Keyword dilution
ถ้าคุณพยายามที่จะ optimizing keywords หลายคำเกินไป, โดยเฉพาะอย่างยิ่งคีย์เวิร์ดที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย จะทำให้ performance ของ keywords รวมทั้งตัวหลักๆนั้นเจอจางลงไปเช่นเดียวกับการมี text อยู่เท่านั้น
-2
16 Keyword stuffing
การตั้งใจใส่ keywords ที่เยอะเกินไปจนผิดธรรมชาติ (มากกว่า 10% ของคำทั้งหมดใน page)เรียกว่า stuffing และจะทำให้เว็บของคุณเสี่ยงต่อการถูกแบนโดย search engine
-3
Links – internal, inbound, outbound
17 Anchor text of inbound links
การถูกลิงก์จากเว็บไซต์อื่นเข้ามา โดยมี text ของลิงก์ตรงกับkeyword เป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดของประสิทธิภาพ keywords( แต่ถึงจะไม่มี anchor text ตรงๆกับ keyword ก็ยัง OK นะครับ)
+3
18 Origin of inbound links
เช่นเดียวกับanchor text, คุณภาพ (reputable)ของเว็บที่ลิงก์เข้ามานั้นก็สำคัญมากเช่นกัน โดยปกติเว็บที่มี Google PR ที่ดีก็มักจะมี reputable ดีด้วยเช่นกัน
+3
19 Links from similar sites
ลิงก์จากเว็บที่คล้ายๆกันก็มีประโยชน์อย่างมากเช่นกัน เพราะมันแสดงถึงว่าคู่แข่งของคุณกำลังโหวตให้คุณ และคุณกำลัง popular ใน community นั้นๆ
+3
20 Links from .edu and .gov sites
ลิงก์เหล่านี้มีมูลค่ามากทีเดียว เพราะว่าเว็บประเภท .edu และ .gov นั้นจะมี reputable สูงกว่า .com .biz .info หรืออื่นๆ และอีกอย่างก็คือ ลิงก์ออกจากเว็บเหล่านี้ก็มีไม่เยอะซะด้วย
+3
21 Number of backlinks
แน่นอนว่ายิ่งมีคนลิงก์เข้ามาเยอะก็ยิ่งดี ถึงแม้ว่า คุณภาพของเว็บที่ลิงก์จะมีความสำคัญมากกว่าจำนวนก็ตาม
+3
22 Anchor text of internal links
การใส่ anchor text สำหรับลิงก์ภายในเว็บของเราเองก็ให้ผลดีและเป็นสิ่งสำคัญที่ทำได้ไม่ยาก
+2
23 Around-the-anchor text
text ที่อยู่ก่อนและหลังของ anchor text ก็มีความสำคัญเช่นกัน เรามันจะเป็นตัวบอกความตั้งใจในการใส่ลิงก์ของคุณ ว่าใส่อย่างผิดธรรมชาติหรือ flow อยู่ข้างในกลุ่ม text หรือไม่
+2
24 Age of inbound links
อายุของ ลิงก์ เข้ามาจากเว็บอื่นยิ่งมากยิ่งดี เพราะว่าการได้ลิงก์จำนวนมากเข้ามาในระยะเวลาไม่นานนั้นแสดงให้เห็นว่าคุณน่าจะซื้อมันมากกว่า
+2
25 Links from directories
การใด้ลิงก์จากเว็บ Directory ก็สำคัญเช่นกันและขึ้นอยู่กับคุณภาพของ Directory นั้นๆด้วย เช่นการให้ลิงก์จาก DMOZ ,Yahoo นั้นจะให้ผลที่ดีมากๆ แต่การมีลิงค์จำนวนมหาศาลจาก Directory ที่มี PR-0 นั้นกลับไร้ประโยชน์ และยังอาจเสี่ยงต่อการถูกคิดว่าเป็น spam links อีกด้วยถ้าคุณมีเป็นร้อยเป็นพันลิงก์
+2
26 Number of outgoing links on the page that links to you
เว็บที่ลิงก์เข้ามาให้คุณนั้น ถ้ามีลิงก์ออกไปที่อื่นยิ่งน้อยยิ่งดีเพราะว่ามันแสดงถึงความสำคัญของเว็บคุณต่อเค้านั่นเอง อันนี้เป็นหลักการของการให้ pagerank โดยปกติ
+1
27 Named anchors
Named anchors บริเวณเป้าหมาย ลิงก์ภายในไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับ navigation ภายใน แต่ยังสำคัญกับ SEO ด้วยเพราะเป็นการเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของ ย่อหน้าหรือ text นั้นๆ สำหรับ code, named anchors เช่น: <A href= “#dogs”>Read about dogs</A> และ “#dogs”ก็คือ named anchor.
+1
28 IP address of inbound link
Google denies Google นั้นจะไม่ให้ความสำคัญและไม่ให้น้ำหนักจากลิงก์ที่มาจาก IP address เดียวกัน แต่ MSN และ Yahoo นั้นอาจจะไม่รับ ลิงก์ที่มาจาก IP address เดียวกัน ด้วยซ้ำ ดังนั้นเป็นการดีที่จะได้ลิงก์เข้ามาจาก IPs ที่ต่างกัน
+1
29 Inbound links from link farms and other suspicious sites
การได้รับลิงก์มากจากเว็บรวมลิงก์ (links farm) นั้นจะไม่ส่งผลอะไรต่อเว็บของคุณเลย และก็ไม่ถูกทำโทษด้วยเพราะว่ามันไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่ยังไงก็ตาม อยุ่ห่างๆจากเว็บพวกนี้ก็ดีครับ
0
30 Many outgoing links
Google จะไม่ชอบเว็บ page ที่มีลิงก์ออกเป็นจำนวนมาก เพราะฉนั้นคุณต้องพยายามไม่ให้ลิงก์ออกจากเว็บเกิน 100 ต่อหนึ่งหน้า มิเช่นนั้นจะส่งผลเสียต่อเว็บของคุณ
-1
31 Excessive linking, link spamming
ถ้าเว็บคุณมีลิงก์หลายอันไปที่เว็บๆเดียว หรือได้ลิงก์เข้ามาหลายๆอันจากเว็บๆเดียว (แม้ว่าเว�32 Outbound links to link farms and other suspicious sites
ถ้าคุณมีลิงก์ออก (outbound) ไปที่เว็บที่ถูกทำโทษไปแล้วหรือไปที่ link farm จะทำให้ถูกตัดแต้มอย่างมาก ดังนั้นต้องหมั่นเช็คลิงก์ขาออก จากเว็บของคุณเสมอเพราะบางทีเว็บที่ดีก็มีการเปลี่ยนไปเป็นเว็บที่แย่ได้เหมือนกัน (bad neighbors )
-3
33 Cross-linking
ตัวอย่างของ Cross linking เช่นเว็บ A ลิงก์ออกไปที่เว็บ B และเว็บ B ลิงก์ออกไปที่เว็บ C และ เว็บ C ลิงก์กลับมาที่เว็บ A การกระทำอย่างนี้ก็เหมือนเป็นการซื้อขายแลกเปลี่ยนลิงก์จำนวนมากเช่นกัน แม้และจะโดนตัดแต้มอย่างมาก (กรณีที่ซับซ้อนกว่านี้ google ก็ยังสามารถเช็คได้ดังนั้นทำอะไรให้เป็นธรรมชาติด้วยจำนวนลิงก์ที่เหมาะสมเช่นเพื่อนแนะนำเพื่อนในกลุ่มเดียวกันก็ไม่เป็นไร)
-3
34 Single pixel links
ถ้าพยายามทำลิงก์ที่มีขนาดแค่ pixel เดียวหรือมีขนาดที่คนทั่วไปไม่สามารถมองเห็นเพื่อหวังผลว่าจะหลอก search engine ก็จะถูกตัดแต้มด้วยเช่นกัน
-3
Metatags
35 <Description> metatag
Metatags เริ่มมีความสำคัญน้อยลงไปเรื่อยๆแต่ก็ยังมีผลอยู่เช่นกัน ซึ่งจะมีทั้ง <description> และ <keywords> ถ้าเราต้องการอธิบายเว็บของเราให้ใส่ <description> ( yahoo และ msn ยังคงให้ความสำคัญมากอยู่) และบางครั้ง description ก็จะขึ้นใน search results เช่นกัน
+1
36 <Keywords> metatag
<keyword> metatag นั้นยังมีผลต่อ google เวลาใส่ metatag ให้ใส่ด้วยความยาวที่เหมาะสมคือประมาณ 10-20 keywords และอย่ายัด keyword ที่ไม่มีในหน้า page ของคุณลงไปเพราะจะส่งผลเสียแทน
+1
37 <Language> metatag
ถ้าเว็บไซต์ของเราต้องการ specific ภาษา ก็อย่าให้ tag ภาษาว่างเปล่า ถึงแม้ว่า search engine จะมีกรรมวิธีที่ซับซ้อนกว่าในการวิเคราะห์ภาษาแต่ก็ยังต้องคำนึงถึง <language>metatag
+1
38 <Refresh> metatag
<refresh>metatag เป็นทางเดียวที่จะ redirect จากเว็บของคุณไปที่อื่น ให้ทำในกรณีที่คุณเพิ่งย้ายเว็บไซต์ไปยังชื่อ domain ใหม่เท่านั้นและควรทำเป็นการชั่วคราว เพราะถ้า redirect เป็นเวลานานจะทำให้แต้มตก ในกรณีนี้การ redirect ไปที่ 301 นั้นจะดีกว่า
-1
Content
39 Unique content
ยิ่งเว็บเรามีเนื่อหามากเท่าไหร่ และเนื้อหามีความแตกต่างจากเว็บอื่นๆทั้ในแง่ของ wording และ Topics จะยิ่งทำให้ ranking ดีขึ้นเท่านั้น
+3
40 Frequency of content change
การปรับเปลี่ยนเนื้อหาอยุ่เป็นประจำนั้นยอดเยี่ยมเช่นกัน และดีที่สุดถ้าเว็บมีเนื้อหาใหม่ๆตลอดเวลา (ดีกว่าการปรับเปลี่ยนเนื้อหาที่มีอยู่แล้วนิดหน่อยๆ)
+3
41 Keywords font size
เมื่อเนื้อความที่เป็น keywords ในเว็บของคุณมีขนาดตัวอักษรที่ใหญ่เมื่อเทียบกับตัวอักษรตัวอื่นๆในเว็บ ซึ่งจะทำให้เป็นที่สังเกตได้ง่ายขึ้นและแสดงถึงความสำคัญก็จะช่วยให้ keyword นั้นๆได้แต้มด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับการใส่ <h1>,<h2> ที่ heading
+2
42 Keywords formatting
เช่นเดียวกันกับด้านบน ถ้าเราเน้นตัวอักษรที่เป็น keyword ด้วยวิธีอื่นๆเช่นตัวเอียง ตัวหนา ก็จะได้แต้มด้วยเช่นกัน แต่ก็อย่าใช้มากเกินไป
+2
43 Age of document
เอกสารที่ออกใหม่ๆ หรือเอกสารที่อัพเดทบ่อย ก็จะได้รับความสำคัญมากกว่าเช่นกัน
+2
44 File size
ปกติ page ที่มีข้อความยาวมากๆเกินไปนั้นก็ไม่ได้ให้ผลที่ดีมากนัก เพราะถ้าเรามี หน้าสั้นๆ 3 หน้าก็ยังดีกว่า หนึ่งหน้ายาวๆใน Topic เดียวกัน เพราะฉนั้นให้แยกบทความยาวๆเป็น บทความสั้นๆหลายๆหน้าจะดีกว่า
+1
45 Content separation
ถ้าเป็นมุมมองทางการตลาก การแยกประเภทของเนื้อหาตามกลุ่มต่างๆภายใต้ IP หรือ ชนิดของ Browser หรืออื่นๆ นั้นน่าจะดีเพราะตรงกลุ่มเป้าหมาย แต่กลับส่งผลเสียต่อ SEO แทนเนื่องจากเมื่อคุณมีแค่ URL เดียวแต่กลับมี เนื้อหาที่ต่างกันจะทำให้ search engine งงว่าอันไหนเป็นเนื้อหาที่แท้จริง
-2
46 Poor coding and design
Search engine เป็นคนบอกเองว่า พวกมันไม่ต้องการเว็บไซต์ที่มีการดีไซน์ที่แย่และมีการเขียน code ที่ไม่ดี ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมี เว็บที่ถูกแบนเนื่องจากกรณีดังกล่าว (messy code และ รูปที่น่าเกลียด) แต่เว็บที่ดีไซน์ไม่ดีและ code ไม่ดีก็จะไม่ถูก index เลยทำให้ส่งผลเสียแน่นอน
-2
47 Illegal Content
การใส่เนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์ของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตนอกจากจะผิดกฎหมายแล้วคุณก็ยังจะถูก search engine เขี่ยออกไปอีกด้วย
-3
48 Invisible text
นี่เป็นกรณีของ black hat SEO (สายดำ) ถ้า spiders ตรวจจับได้ว่าคุณใส่ text ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยสายตาก็อย่าแปลกใจที่จะโดยทำโทษ
-3
49 Cloaking
Cloaking เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่สามารถโดนตัดแต้มได้ เพราะเป็นการแยกส่วน content หลอกให้ spider เห็น page ที่ทำ optimize หวังผล ในขณะที่ผู้เข้าชมปกติกลับเห็นอีกเวอร์ชั่นของ page นั้นๆ
-3
50 Doorway pages
การสร้าง page โดยตั้งใจที่จะหลอก spiders ว่าเว็บไซต์ของคุณนั้นเป็นเว็บที่สำคัญดี (highly-relevant) ทั้งๆที่ไม่ใช่ ก็เป็นอีกทางที่ search engine จะเขี่ยคุณออก
-3
51 Duplicate content
เมื่อคุณมีเนื้อหาที่เหมือนกันในหลายๆหน้าบนเว็บ แทนที่จะทำให้เว็บดูใหญ่ก็กลับทำให้ถูกลงโทษในฐานะ duplicate content แทน การวิเคราะห์การทำซ้ำนั้นก็มีหลายดีกรี แต่ก็ไม่ใช่ทุกอันที่จะถูกแบน เช่น บทความจาก mirror sites นั้นไม่เป็นไร
-3
Visual Extras and SEO
52 JavaScript
ให้ใช้ java อย่างฉลาดเพียงเพื่อดึงดูดความน่าสนใจเท่าที่จำเป็น แต่ถ้าเนื้อหาหลักของเว็บถุกแสดงผ่าน Javascript ทั้งหมด จะทำให้ spiders ติดตามได้ยาก และอาจติดตามไม่ได้เลยถ้า code Javascript นั้นเขียนมาแย่ แน่นอนว่า rating จะตกได้
0
53 Images in text
เว็บที่มีแต่ตัวอักษรก็ดูน่าเบื่อแต่ถ้ามีรูปเยอะไปก็ไม่ดีกับ SEO เช่นกัน อย่างไรก็ตามให้ใส่ <alt>tag ด้วยคำที่เป็นความหมายที่เหมาะสมกับรูป แต่ก็อย่ายัด keyword จำนวนมากใส่รูปโดยไม่เกี่ยวข้องกันเช่นกัน
0
54 Podcasts and videos
Podcast และวีดีโอกำลังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆทุกวัน แต่ก็ทำให้ ไม่ค่อยมี text ในเว็บและ search engine ก็เจอยาก เพราะฉนั้นถ้าเป็นไปได้ จะถอดเทปและเขียนเป็น text กำกับไว้ในหน้านั้นๆก็ได้ครับ
0
55 Images instead of text links
การใช้รูปเป็นตัวลิงก์แทนตัวอักษรนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จะยิ่งแย่เมื่อไม่ได้ใส่อะไรใน <alt>tag เลย แต่แม้ว่าคุณจะใส่ <alt>tag แล้วก็ยังให้ผลได้ไม่ดีเท่ากับการลิงก์ด้วยตัวอักษรที่เป็นตัวหนา ,ขีดเส้นใต้ หรือมีขนาด ใหญ่ เพราะฉนั้นคุณควรจะใช้ รูปในการทำ navigation ที่ขึ้นกับ graphic lay-out ของเว็บคุณเท่านั้น
-1
56 Frames
Frames เป็นสิ่งที่ส่งผลเสียต่อ SEO มาก ให้หลีกเลี่ยงยกเว้นจำเป็นจริงๆ
-2
57 Flash
Spiders จะไม่ index เนื้อหาที่เป็น Flash (ภาพเคลื่อนไหว) ถ้าจำเป็นต้องมีก็ควรใส่ alternate textual description ด้วย
-2
58 A Flash home page
การทำ flash homepage โดยไม่มี html เลยส่งผลไม่ดีต่อ SEO อย่างมากแน่นอน
-3
Domains, URLs, Web Mastery
59 Keyword-rich URLs and filenames
การที่มี keywords หรือชื่อของไฟล์ อยู่ใน URLs ก็เป็นสิ่งสำคัญมาสำหรับ SEO โดยเฉพาะอย่างยิ่งกบ Yahoo! และ MSN
+3
60 Site Accessibility
การเข้าเว็บไซต์ได้ทั้งเว็บตลอดเวลาก็เป็นสิ่งสำคัญ ปกติเว็บจะถือว่า unaccessible เมื่อ ลิงก์ตาย,404 errors, บริเวณในเว็บที่ต้องใส่ password และจะทำให้เว็บไม่ถูก index
+3
61 Sitemap
การมี sitemap,เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว คุณควรมี site map ที่สมบูรณ์และ update เสมอ(ไม่ว่าจะเป็นแบบ HTML ธรรมดาหรือ Google site map formatt เพราะว่า spiders จะชอบ
+2
62 Site size
โดยปกติเว็บยิ่งใหญ่ก็จะยิ่งดี เพราะSpiders นั้นชอบเว็บไซต์ใหญ่ๆ อย่างไรก็ตามเว็บที่ใหญ่ก็จะมีปัญหาใช้งานยากขึ้นและมี navigation ที่แย่ลงทำให้บางทีต้องแยกเป็นเว็บที่เล็กลง แต่ในทางปฎิบัติ ยังไม่ค่อยมีเว็บไหนที่ถูกลงโทษเพราะมีหน้าเกินหมื่นหน้า เพราะฉนั้นอย่าแยกเว็บไซต์เพียงเพราะว่ามันใหญ่ขึ้นทุกวัน
+2
63 Site age
older sites are respected more.เว็บไซต์ยิ่งมีอายุมากแล้วยิ่งได้รับความเชื่อถือมากขึ้น เพราะแสดงว่าไม่ใช่เว็บ pop-up ใหม่ๆแล้วหายไป
+2
64 Site theme
site theme ก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน และสำคัญมากต่อ ranking ถ้าเราทำ site ให้เข้ากับ theme หนึ่งๆแล้ว ถ้ามี page อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับ theme นี้จะช่วย boost เว็บไซต์ทั้งหมด
+2
65 File Location on Site
ตำแหน่งของ file ในเว็บไซต์ ( ชื่อไฟล์ด้านหลังเช่น www.ipattt.com / xxx) ถ้าอยู่ใกล้กับ root directory จะมีแนวโน้มที่มี rank ดีกว่าไฟล์ที่อยู่ลึกเข้าไปห้าระดับ (เช่น www.ipattt.com/nnn/nnn/nnn/nnn/xxx )
+1
66 Domains versus subdomains, separate domains
การมี domain ต่างหากน้นดีกว่า เช่นแทนที่จะมี ipattt.blogspot.com ก็ควร register เป็น ipattt.com
+1
67 Top-level domains (TLDs)
TLDs ( .xxx) นั้นมีความแตกต่างกันอยู่ โดย .com นั้นดีกว่า .ws, .biz, .info อยู่มากแต่ก็ไม่มีอะไรสู้ .edu กับ .org ที่จดทะเบียนมานานแล้วได้
+1
68 Hyphens in URLs
เครื่องหมาย ( – ) ระหว่าง URLs นั้นช่วยให้อ่านง่ายขึ้นและมีผลต่ ranking สามารถใช้ได้กับทั้ง domain name และ ที่เหลือ ใน URLs
+1
69 URL length
ปกติ URLs ที่ยาวมากๆจะเริ่มดูเหมือน spam เพราะฉนั้นควรหลักเลี่ยงการมี URLs ยาวเกิน 10 คำ ( 3 ถึง 4 คำสำหรับ domain name และ 6 คำสำหรับที่เหลือนั้นยังพอรับได้)
0
70 IP address
IP address จะมีผลไม่ค่อยดีต่อเมื่อมีการ shared hosting หรือเมื่อเว็บไซต์นั้น host กับ free hosting provider อีกกรณีคือ IP หรือ C-class ของ IP address ทั้งหมดติดแบล็คลิสต์เนื่องมาจากการถูกลงโทษด้าน spamming หรือ ด้าน กฏหมาย
0
71 Adsense will boost your ranking
Adsense นั้นอาจจะช่วยให้คุณมีรายได้แต่ไม่ได้มีผลอะไรกับ SEO ranking Google ไม่ได้ให้ ranking bonus เพราะว่า hosting adsense ads
0
72 Adwords will boost your ranking
เหมือน Adsense , ตัว Adwords นั้นช่วยให้คนเข้ามาดูเว็บของคุณได้ง่ายขึ้นแต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับ SEO ranking เช่นกัน
0
73 Hosting downtime
Hosting downtime มีความสัมพันธ์โดยตรงกับ accessibility เพราะว่าถ้าเว็บ down บ่อยๆจะไม่สามารถทำ indexed ได้ factor นี้จะเห็นผลเสียก็ต่อเมื่อ hosting provider ไม่ค่อยน่าเชื่อถือและมี uptime ต่ำกว่า 97-98%
-1
74 Dynamic URLs
Spiders นั้นชอบ static URLs แม้ว่าคุณจะเคยเห็น dynamics pagesจำนวนมาก การมี URLs ยาวๆ(เช่นเกิน 100ตัวอักษร)จะส่งผลเสียต่อทั้งคนท่องเว็บและ SEO และเราควรจะใช้เครื่องมือบางตัวช่วยเช่น rewrite dynamic URLs
-1
75 Session IDs
ยิ่งแย่กว่า Dynamics URLs การใช้ session IDs นั้นจะไม่ทำให้ spiders ทำ indexed
-2
76 Bans in robots.txt
ถ้าเว็บไซต์ของเรามีบางส่วนที่ถูกแบน มันก็มักจะส่งผลถึงส่วนอื่นๆที่ไม่โดนแบนทั้งหมดด้วยเนื่องจาก spiders จะวิ่งเข้ามาน้อยถ้าเป็น “noindex” site
-2
77 Redirects (301 and 302)
redirects จะส่งผลเสียมากถ้าใช้อย่างไม่ถูกต้อง บางทีหน้าที่ต้องการนั้นก็ไม่สามารถเปิดได้ หรือแย่ยิ่งกว่านั้นคือ บางครั้ง redirect อาจถือว่าเป็นการทำ SEO แบบ black hat คือเมื่อผู้เยี่ยมชมเข้ามากลับถูกโยนไปที่อื่นแทน
-3
ขอบคุณhttp://www.ipattt.com
เพิ่มคะแนนให้เว็บไซต์เพื่ออันดับ SEO
เพิ่มคะแนนให้เว็บไซต์เพื่ออันดับ SEO
Add New ContentWebsites are all about content. SEO is no different. In fact, if you want a higher ranking, Google recommends that you pay more attention to web content than anything else. This makes sense because Google exists to provide users with the best search results. You may have heard that having a high keyword density is important for search engine rankings, but nothing could be further from the truth. Google ranks content. Using an excessive amount of keywords against Google’s advice will only have a negative effect on your rankings.
While having quality content is important, it’s equally important to keep it fresh. If your rankings aren’t what they should be, then updating your content every few months will cause the search engines to take another look. You can buy content or write it yourself, but it needs to be worth reading.
เพิ่มบทความใหม่
เว็บไซต์นั้นขึ้นอยู่กับเนื้อหา SEO ก็ไม่ต่างกัน ความจริงแล้วถ้าคุณต้องการที่จะเพิ่มอันดับของเว็บไซต์ Google แนะนำให้คุณเน้นความสนใจไปที่เนื้อหามากกว่าสิ่งอื่นใด เพราะ Google ต้องการแสดงผลการค้นหาที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน คุณอาจเคยได้ยินมาว่าความหนาแน่นของ keywords ที่มากนั้นมีความสำคัญต่ออันดับของ Google นั่นอาจเป็นสิ่งที่ผิดเพราะว่าถ้าหากคุณมีความหนาแน่นของ keywords ที่มากเกินไปนั้นจะทำให้ส่งผลต่ออันดับคุณในทางลบอย่างแน่นอน
ในขณะที่บทความคุณภาพนั้นมีความสำคัญพอๆกับความสดใหม่ของบทความ ถ้าอันดับของเว็บไซ์คุณไม่เป็นไปตามที่มันควรจะเป็น คุณอาจจะอัพเดตบทความในทุกๆ 2-3เดือน หรือซื้อบทความมาก็ได้แต่บทความเหล่านั้นต้องมีคุณภาพ เพื่อที่บอทจะได้รู้ว่ายังมีความเคลื่อนไหวอยู่
Optimize Your Title Tags
Title tags are crucial to your ranking, and it pays to get them right. Creating your own title tag for each page will help to ensure that you get the maximum number of visitors to your site. For best results, include your company’s name and a couple of keywords.
เพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Title Tags
Title Tags คือส่วนที่สำคัญสำหรับอันดับของคุณ และจะเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน โดยการสร้าง title tags ให้กับแต่ละหน้าเว็บไซต์ของคุณจะช่วยให้มั่นใจว่าคุณสามารถเรียกผู้เข้าชมได้มากที่สุด และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั้นคุณอาจจะใส่ชื่อบริษัทและ keywords ลงไปด้วยก็เป็นได้
Meta Descriptions are Still Important
While meta descriptions don’t directly affect your ranking, they do affect it indirectly. The reason for this is that a meta description provides information about your site that can cause someone to click on it or pass it by. One of the most important factors that search engines use to determine your ranking is your site’s popularity. If your listing contained the name of your company and nothing else, viewers wouldn’t know what to expect. A well-written meta description will give potential visitors an idea of the quality of your content. If they like your meta description, they’re more likely to visit your site.
Meta Descriptions ยังคงมีความสำคัญอยู่
Meta Descriptions นั้นจะไม่ได้ส่งผลต่ออันดับโดยตรง แต่จะส่งผลในทางอ้อม ด้วยเหตุที่ว่า Meta Descriptions นั้นจะแสดงข้อมูลภายในเว็บไซต์ของคุณอย่างย่อให้ผู้ค้นหาได้อ่านกัน คนจะเข้าหรือไม่เข้าเว็บไซต์คุณก็อยู่ที่ตรงนี้แหละ หนึ่งในปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับก็คือความนิยมของเว็บไซต์คุณ ถ้าหาก Meta Descriptions ของคุณไม่มีความน่าสนใจหรืออธิบายสั้นเกินไป ผู้ค้นหาก็จะไม่รู้ว่าภายในเว็บไซต์ของคุณนั้นมีอะไรอยู่บ้าง แต่ถ้าหากคุณแจ้งข้อมูลด้วยความชัดเจนและน่าสนใจก็จะทำให้ผู้ค้นหานั้นเข้ามายังเว็บไซต์คุณได้อย่างไม่ยากเย็นเลย
Make Your URLs Count
If your site has moved or you use several URLs, then you may be getting a lower ranking than you should. URL normalization will give you a preferred URL or domain for search engines and visitors alike. Google recommends 301 redirects.
Remember that each URL should be easy to remember while containing your chosen keyword. This is important because users tend to avoid URLs that are too long or have too many symbols. Also, remember that, unlike other separators, hyphens are universally recognized. You should use them exclusively.
นับ URLs ของคุณ
ถ้าหากคุณย้ายหรือใช้หลาย URLs เว็บไซต์ของคุณอาจจะมีอันดับที่แย่ลง สิ่งที่ต้องทำคือรีบทำให้มันกลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุดโดย Google แนะนำให้ใช้
301 redirects (อะไรก็ไม่รู้ T T)
คุณต้องพึงระลึกไว้ว่าชื่อ URL นั้นต้องง่ายต่อการจำ และควรหลีกเลี่ยงชื่อ URL ที่ยาวมากๆและมีสัญลักษณ์จำนวนมาก และเมื่อต้องคั่นคำให้ใช้เครื่องหมายยติภังค์ (-) จะดีที่สุด
Use Internal Links
Along with site maps, internal links provide visitors with a convenient way to get around your site. They also help search engines to rank your content. When creating internal links, the following rules should be observed:
- Don’t use too many links
Search engines don’t like excessive links.
- Don’t use a static text link for each page
If not done properly, static text links can have a negative effect on your rankings.
- Use anchor text
This isn’t just for external links.
- Avoid putting links in frames
Framed links can impede the progress of spiders. This goes for I-Frames as well.
ใช้ Internal Links
การใช้ Internal Links นั้นจะช่วยให้คนดูนั้นวนเวียนอยู่ในเว็บเรานานขึ้น และยังช่วยให้การจัดอันดับนั้นดีขึ้นด้วย แต่เมื่อคุณต้องการจะใช้ Internal Link นั้นคุณควรจะทำตามกฏระเบียบนิดหน่อยนั่นคือ
- อย่าใช้เยอะเกินไป
SE ไม่ชอบลิ้งค์ดูเยอะเกินไป
- อย่าใช้ลิ้งค์คงที่ในทุกๆหน้า
ลิ้งค์คงที่จะส่งผลในทางลบให้กับอันดับของคุณ
- ใช้ anchor text
ไม่จำเป็นต้องใช้กับ External Links เท่านั้น
- หลีกเลี่ยงการใส่ลิ้งค์ในเฟรม
เพราะการใส่ลิ้งค์ในเฟรมจะทำให้ไปขัดขวาง spider
ที่มา :http://www.thaiseoboard.com/
http://webaraideeonline.blogspot.com
การหา keywords
คีย์เวิร์ด (keywords) ถือว่าเป็นกุญแจสำคัญในการที่จะบอกว่า เราจะรุ่ง หรือจะร่วง กับการทำ Internet marketing ไม่ว่าจะทำ AdSense , Affiliate, Amazon หรือแนวอื่น ๆ ที่ขึ้นตรงต่อ Search Engine ฉนั้นควรเลือก Keywords ให้เหมาะสม ก่อนลงสนามแข่งขัน
ในทางปฏิบัติมีวิธีการมากมายที่จะได้มาซึ่ง Keywords ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นบริการหา Keywords จากผู้ให้บริการต่าง ๆ ทั้งเสียเงิน และฟรี หรือซอฟแวร์ช่วยหา Keywords ที่มีทั้งฟรีและเสียเงินเช่นกัน แต่คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ถ้าหา Keywords ดี ๆ ได้และฟรีด้วยจะดีที่สุด (Keywords ดี ๆ จะเรียกกันว่า Niche Keywords ออกเสียง "นิช คีเวิด" ซึ่งหมายถึง Keywords ที่ยังมีช่องทางในการทำเงินได้ดี)
"ของฟรีดี ๆ ไม่มีในโลก" อันนี้ก็ไม่จริงซะทีเดียว ของฟรีดี ๆ ก็มีให้เห็นกันมาก แต่คนมักจะไม่ค่อยเห็นค่าของฟรีมากนัก เนื่องจากมันฟรี แต่ถ้าลองได้เสียเงินแล้ว จะใช้ให้คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ทีเดียว
Q : แล้วจะใช้เครื่องมือตัวไหนถึงจะหา Keywords ดี ๆ ได้หล่ะ จะรู้ได้อย่างไรว่า Keywords ไหนเป็น Keywords ทองคำ
A : ไม่มีหรอกเครื่องมือที่จะหา Keywords ทองคำได้ แต่อาจจะช่วยนำทางไปหา Keywords ดี ๆ ได้ คำตอบที่ดีที่สุดคือ "ทดลอง" ถึงจะเห็น Keywords ทองคำจริง ๆ (แต่ก็ไม่ทองคำตลอดไป)
"อ่านมายาวแล้วนะ เมื่อไหร่จะบอกวิธีหา หรือจะใช้เครื่องมืออะไรก็ว่ามา"
หลายคนคงใจร้อนอยากรู้แล้วว่าเทคนิคการหา Keywords แบบอ้างอิง Goo (เกิ้ล) เป็นแบบไหน งั้นก็เข้าเรื่องกันเลย
แนวคิดมีอยู่ว่า Google คือผู้กุมความลับเกือบทั้งหมดของการค้นหา แน่นอนว่าข้อมูลที่ได้จาก Google น่าจะเชื่อถือได้มากกว่า 80% (ไม่ทุกกรณี บ้างครั้ง Google ก็โกหกเราแบบ 100%) โดยเราจะอาศัยเครื่องมือในการหา Keywords จาก Google ที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันอยู่แล้ว นั้นคือ Keyword Tool ของ Google (https://adwords.google.com/select/KeywordToolExternal) แต่มีเทคนิคเพิ่มเติมที่จะทำให้เราได้ Keywords ที่ค่อนข้างดี ด้วยการนำ Keywords ที่ได้ มาวิเคาะห์เพิ่มเติม พอจะสรุปง่าย ๆ ได้ดังนี้
1. หา Keywords และปริมาณการค้นหา จาก https://adwords.google.com/select/KeywordToolExternal
2. หา Keywords ที่ราคาดี ๆ จาก https://adwords.google.com/select/TrafficEstimatorSandbox
3. หาคู่แข่งจาก Search Result (Google, Yahoo, MSN)
4. นำข้อมูลทั้ง 3 ข้อมาวิเคราะห์ (อันนี้ต้องใช้ common sense)
5. ทดลอง Keywords ที่หาได้ (ถ้าโชคดีก็จะเจอ Niche Keywords) ถ้าไม่ได้ก็กลับไปทำซ้ำตั้งแต่ข้อ 1.
เห็นไหมครับว่าขั้นตอนก็เดิม ๆ ไม่มีอะไรแปลกไหม่เท่าไหร่ แต่ถ้าใครได้ลองตามขั้นตอนนี้แล้วจะเห็นว่าต้องใช้เวลามากพอสมควร จึงจะได้ Keywords ออกมาแต่ละชุด ถ้าใช้เวลาและแรงงานเยอะอย่างนั้นคงไม่เรียกว่าเทคนิคแน่นอน
ลองมาดูเทคนิคเพิ่มเติมที่จะทำให้ได้ Keywords ดี ๆ ได้ในเวลาไม่มากนัก โดยไปตามขั้นตอนเหมือนเดิม
1. หา Keywords จาก https://adwords.google.com/select/KeywordToolExternal โดยตัวอย่างจะลองหา Keywords ที่เกี่ยวข้องกับ acne (สิว)
เสร็จแล้วก็คลิกที่ .csv (for excel) เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ Keywords 150 คำแรกมาเปิดโดย excel
ทำการเรียงลำดับจำนวนการค้นหาของแต่ละ Keywords จากมากไปหาน้อย
จากนั้นเลือก Keywords ตามจำนวนที่ต้องการ ตัวอย่างเลือกแค่ 20 คำ เพื่อที่จะไปขั้นตอนหา Keywords ที่ราคาดี ๆ เราไม่จำเป็นต้องเอาคำที่มีการค้นหามากสุดก็ได้ เลือกเอาในช่วงที่มีการค้นหาพอสมควร เช่นสัก 5000 - 100000 เพื่อที่จะได้ลดจำนวนคู่แข่งไปได้ เนื่องจาก Keywords ที่มีการค้นหาสูง คู่แข่งย่อมจะเยอะ เมื่อได้จำนวนตามต้องการแล้ว ก็ลบคำที่เราไม่ต้องการออก พร้อมทั้งเรียงรายชื่อใหม่ ตามตัวอักษรของ Keywords
จากนั้นก็ลบคำที่เราไม่ต้องการออก
2. ไปที่ https://adwords.google.com/select/TrafficEstimatorSandbox แล้วใส่ Keywords ทั้ง 20 คำ
เสร็จแล้วก็ทำการดาวน์โหลดมาเปิดด้วย excel
ทำการคัดลอกค่า Estimated Avg. CPC และ Estimated Click/Day ไปใส่ในไฟล์ excel ในข้อ 1.
3. หาคู่แข่งจาก Search Result (Google, Yahoo, MSN) ตรงนี้อาจจะเป็นปัญหาสำหรับหลายคน ว่าจะต้องหาทีละคำ ทีละ Search Engine โอ้โห้.... กว่าจะครบนี่เหงื่อตกกันพอดี บางคนอาจจะมีตัวช่วยให้ง่ายขึ้นด้วยเครื่องมือต่าง ๆ
4. วิเคราะห์ข้อมูลที่มีทั้งหมด เพื่อหา Keywords ที่น่าสนใจ โดยอาจจะทำการเรียงลำดับดังนี้
1 จำนวนคู่แข่งใน Google (เพราะเราสนใจ Google) หรือเลือกได้ว่าจะเอาคู่แข่งไหนเป็นหลัก อาจจะเอาค่ารวมก็ได้
2 จำนวนการค้นหา
3. ค่าของ Keyword แต่ละคำ หรือจำนวนการคลิกของแต่ละ Keyword
จากตัวอย่างเราก็จะได้ Keywords ที่น่าสนใจดังนี้
acne care
acne products
acne remedy
หรือขยายความสนใจให้กว้างขึ้น
acne remedy
cystic acne
clear acne
acne laser
acne product
cure acne
acne natural
acne products
acne control
rid acne
acne care
เราสามารถที่จะเอา Keywords เหล่านี้ไปหาต่อได้ โดยทำซ้ำตามขั้นตอนทั้งหมด
5. ขั้นตอนสุดท้ายคือการนำ Keywords ที่ได้ไปทดลอง โดยอาจจะไปลองกับเว็บปั่นดูว่า Keywords ไหนจะทำเงินได้ดีจริง ๆ ขั้นตอนนี้ก็ต้องอาศัยเทคนิคหลายอย่างเข้าช่วย คงต้องใช้เวลาสักพัก แต่ก็ต้องทำเพราะคงไม่มีใครมาบอกว่า Keywords ไหนทำเงินให้เขาจริง ๆ (จะบอกให้โง่ทำไม กว่าจะหาได้แทบรากเลือด)
เหนื่อยแล้ว... ใช้เวลาเขียนบทความนี้อยู่หลายชั่วโมงเลย บทความนี้ไม่ได้ถูกต้องทุกอย่าง เป็นเทคนิคที่อ้างอิง Goo (และGoogle) โดยต้องยอมรับเงื่อนไขว่าข้อมูลที่ได้จาก Google เชื่อถือได้ (ผมก็ค่อนข้างเชื่อข้อมูลการค้นหาจาก Google เพราะทดลองกับ Keywords แล้วปริมาณการค้นหาก็ใกล้เคียงกับที่ Google บอก
มือใหม่ ทำอันดับ SEO
Add New Content
Websites are all about content. SEO is no different. In fact, if you want a higher ranking, Google recommends that you pay more attention to web content than anything else. This makes sense because Google exists to provide users with the best search results. You may have heard that having a high keyword density is important for search engine rankings, but nothing could be further from the truth. Google ranks content. Using an excessive amount of keywords against Google’s advice will only have a negative effect on your rankings.While having quality content is important, it’s equally important to keep it fresh. If your rankings aren’t what they should be, then updating your content every few months will cause the search engines to take another look. You can buy content or write it yourself, but it needs to be worth reading.
เพิ่มบทความใหม่
เว็บไซต์นั้นขึ้นอยู่กับเนื้อหา SEO ก็ไม่ต่างกัน ความจริงแล้วถ้าคุณต้องการที่จะเพิ่มอันดับของเว็บไซต์ Google แนะนำให้คุณเน้นความสนใจไปที่เนื้อหามากกว่าสิ่งอื่นใด เพราะ Google ต้องการแสดงผลการค้นหาที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน คุณอาจเคยได้ยินมาว่าความหนาแน่นของ keywords ที่มากนั้นมีความสำคัญต่ออันดับของ Google นั่นอาจเป็นสิ่งที่ผิดเพราะว่าถ้าหากคุณมีความหนาแน่นของ keywords ที่มากเกินไปนั้นจะทำให้ส่งผลต่ออันดับคุณในทางลบอย่างแน่นอน
ในขณะที่บทความคุณภาพนั้นมีความสำคัญพอๆกับความสดใหม่ของบทความ ถ้าอันดับของเว็บไซ์คุณไม่เป็นไปตามที่มันควรจะเป็น คุณอาจจะอัพเดตบทความในทุกๆ 2-3เดือน หรือซื้อบทความมาก็ได้แต่บทความเหล่านั้นต้องมีคุณภาพ เพื่อที่บอทจะได้รู้ว่ายังมีความเคลื่อนไหวอยู่
Optimize Your Title Tags
Title tags are crucial to your ranking, and it pays to get them right. Creating your own title tag for each page will help to ensure that you get the maximum number of visitors to your site. For best results, include your company’s name and a couple of keywords.เพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Title Tags
Title Tags คือส่วนที่สำคัญสำหรับอันดับของคุณ และจะเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน โดยการสร้าง title tags ให้กับแต่ละหน้าเว็บไซต์ของคุณจะช่วยให้มั่นใจว่าคุณสามารถเรียกผู้เข้าชมได้มากที่สุด และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั้นคุณอาจจะใส่ชื่อบริษัทและ keywords ลงไปด้วยก็เป็นได้
Meta Descriptions are Still Important
While meta descriptions don’t directly affect your ranking, they do affect it indirectly. The reason for this is that a meta description provides information about your site that can cause someone to click on it or pass it by. One of the most important factors that search engines use to determine your ranking is your site’s popularity. If your listing contained the name of your company and nothing else, viewers wouldn’t know what to expect. A well-written meta description will give potential visitors an idea of the quality of your content. If they like your meta description, they’re more likely to visit your site.Meta Descriptions ยังคงมีความสำคัญอยู่
Meta Descriptions นั้นจะไม่ได้ส่งผลต่ออันดับโดยตรง แต่จะส่งผลในทางอ้อม ด้วยเหตุที่ว่า Meta Descriptions นั้นจะแสดงข้อมูลภายในเว็บไซต์ของคุณอย่างย่อให้ผู้ค้นหาได้อ่านกัน คนจะเข้าหรือไม่เข้าเว็บไซต์คุณก็อยู่ที่ตรงนี้แหละ หนึ่งในปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับก็คือความนิยมของเว็บไซต์คุณ ถ้าหาก Meta Descriptions ของคุณไม่มีความน่าสนใจหรืออธิบายสั้นเกินไป ผู้ค้นหาก็จะไม่รู้ว่าภายในเว็บไซต์ของคุณนั้นมีอะไรอยู่บ้าง แต่ถ้าหากคุณแจ้งข้อมูลด้วยความชัดเจนและน่าสนใจก็จะทำให้ผู้ค้นหานั้นเข้ามายังเว็บไซต์คุณได้อย่างไม่ยากเย็นเลย
Make Your URLs Count
If your site has moved or you use several URLs, then you may be getting a lower ranking than you should. URL normalization will give you a preferred URL or domain for search engines and visitors alike. Google recommends 301 redirects.Remember that each URL should be easy to remember while containing your chosen keyword. This is important because users tend to avoid URLs that are too long or have too many symbols. Also, remember that, unlike other separators, hyphens are universally recognized. You should use them exclusively.
นับ URLs ของคุณ
ถ้าหากคุณย้ายหรือใช้หลาย URLs เว็บไซต์ของคุณอาจจะมีอันดับที่แย่ลง สิ่งที่ต้องทำคือรีบทำให้มันกลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุดโดย Google แนะนำให้ใช้
301 redirects (อะไรก็ไม่รู้ T T)
คุณต้องพึงระลึกไว้ว่าชื่อ URL นั้นต้องง่ายต่อการจำ และควรหลีกเลี่ยงชื่อ URL ที่ยาวมากๆและมีสัญลักษณ์จำนวนมาก และเมื่อต้องคั่นคำให้ใช้เครื่องหมายยติภังค์ (-) จะดีที่สุด
Use Internal Links
Along with site maps, internal links provide visitors with a convenient way to get around your site. They also help search engines to rank your content. When creating internal links, the following rules should be observed:- Don’t use too many links
Search engines don’t like excessive links.
- Don’t use a static text link for each page
If not done properly, static text links can have a negative effect on your rankings.
- Use anchor text
This isn’t just for external links.ฟ
ลิ้งค์คงที่จะส่งผลในทางลบให้กับอันดับของคุณ
- ใช้ anchor text
ไม่จำเป็นต้องใช้กับ External Links เท่านั้น
- หลีกเลี่ยงการใส่ลิ้งค์ในเฟรม
เพราะการใส่ลิ้งค์ในเฟรมจะทำให้ไปขัดขวาง spider
เครดิต http://www.thaiseoboard.com
อันนี้ได้รับมาในอีเมล์และมาจากเว็บ http://www.constant-content.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)