แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ blogger แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ blogger แสดงบทความทั้งหมด

สร้างกล่อง ถูกใจในเฟสบุ๊ค Like Box for Blogger



ทํากล่องถูกใจในเฟสบุ๊ค มาใส่บล็อกเกอร์ 

(Like Box for Blogger)

Facebook Fanpage Like box หรือ กล่องถูกใจของเฟสบุ๊คแฟนเพจ คือ กล่องหรือช่องที่เปรียบได้ว่าเอา เฟสบุ๊คแฟนเพจที่เราสร้าง, ที่เราสนใจ หรือ มีเนื้อหาใกล้เคียงกับบล็อกของเรา มาใส่ไว้ในบล็อกของเรา อันที่จริงจะเอา Facebook Fanpage ของใคร มาใส่บล็อกเราก็ได้ แต่แนะนำว่าเป็นของตัวเองดีที่สุดครับ โดยสามารถเลือกปรับขนาดให้พอดี เพื่อมาใส่ไว้ในบล็อกของเรา


วิธีการนี้จะแตกต่างกับการทำปุ่มถูกใจของเฟสบุ๊คใส่บล็อกเกอร์ เพราะเมื่อใครที่กด Like หรือ ถูกใจ บทความจะถูกแชร์ในเฟสบุ๊คเท่านั้น แต่วิธีการทำกล่องถูกใจของเฟสบุ๊ค เมื่อมีคนมา Like บล็อกของเราก็จะถูกแชร์ใน Facebook เช่นกัน แต่เราก็จะได้คนที่ติดตาม เฟสบุ๊คแฟนเพจของเราด้วย ซึ่งถ้าเราโพสหรืออัพเดทข่าวสาร คนที่ติดตามเราก็จะได้รับด้วย

วิธีการตั้งค่าโดเมนที่ Godaddy วิธีสมัคร Hostgator


วิธีการตั้งค่าโดเมนที่ Godaddy 



คราวที่แล้วได้พูดถึง วิธีตั้งค่าโดเมนที่จดกับ Netfirms เพื่อนำมาใช้กับ Blogger (blogspot) ไปแล้ว วันนี้จะมาแนะนำวิธีการตั้งค่าโดเมนที่ Godaddy เพื่อนำมาใช้กับ Blogger กันบ้างนะคะ จะอธิบายกันแบบละเอียดยิบๆเลยนะคะ มาเริ่มกันเลยจ้า….
ก่อนอื่นก็ต้อง log in เข้าไปที่ godaddy ก่อนนะคะ จากนั้นก็ไปที่ My Account ค่ะ
godaddy-blogger-custom-domain1
เมื่อเข้ามาในส่วนของ My Account แล้ว หน้านี้จะมีรายชื่อโดเมนของเราแสดงอยู่ ถ้าโดเมนที่คุณต้องการจะนำมาใช้กับ Blogger ปรากฎอยู่ตรงนี้ก็คลิกที่ Advanced Details ที่อยู่ด้านหลังชื่อโดเมนนั้นๆเลยก็ได้ค่ะ แต่ถ้าไม่มีโดเมนที่คุณต้องการแสดงอยู่ตรงส่วนนี้ (ตรงนี้จะแสดงแค่ 5 รายชื่อ) ก็ให้คลิกไปที่ View Domain Manager นะคะ

สร้าง blogger อย่างไรให้ขายของ amazon ได้


สร้าง blogger อย่างไรให้ขายของ amazon ได้

บทความนี้เขียนไว้ที่ thaiseoboard มาก่อนครับ แต่เห็นกระทู้ตกไว เลยเอามาไว้ที่นี่ดีกว่าเห็นช่วงนี้มีถามกันเรื่อง blogger ว่าทำยังไงให้ขายของได้ ก็เลยมาเสนอแนวทางแบบมั่วๆ ของผมที่ผ่านมา ที่เคยทำแล้วมันขายได้มาฝากครับ


1. ถ้าใครยังไม่เคยขายของ amazon ได้ก็ให้นึกก่อนว่าจะขายอะไร มองดูของใกล้ตัวก่อนก็ได้ครับ แล้วไปที่เว็บนี้
http://www.google.com/insights/search/?hl=en-US#

(ส่วนใครที่พอขายได้บ้างแล้ว ก็เอาของที่ขายได้นั้นแหละครับ มาค้นต่อ จะได้แตกคีย์ได้อีก)

ตรงเมนูขวามือ เลือก Filter ดังนี้
+ Product search
+ United State
+ Last 12 month

ใส่คำสินค้าที่สนใจ จะคำกลางๆ หรือ niche ก็ได้ครับ ที่ช่องซ้ายมือ แล้วกด search


จากนั้น ให้ดู trend ของกราฟครับ ถ้ามันเป็นแนวตรง หรือได้เป็น trend เพิ่มขึ้นยิ่งดีครับ

จากนั้น ลงไปดูด้านล่างของจอ ที่ผมวงแดงๆ ไว้ อันนั้นและครับ ถ้าอันไหนว่าง ก็จัดไปเป็นชื่อ และ url ของ blog เราเลยครับ
กรณีเป็นชื่อยี่ห้อ ลองเอาไปค้นดูใน google ดูว่า มีเว็บอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของจดชื่อยี่ห้อในโดเมนมั้ย ถ้ามี และเราใจกล้าหน่อยก็จัดเป็นโดเมนเราของ blogger เลยครับ

2. มาถึงตอนสร้าง blogger แนะนำว่า 1 acc เอาพอประมาณ ทยอยสร้างวันละ 1-2 blog ครับ อย่าไปสร้างตูมเดียวเยอะๆ โอกาสโดนเก็บมีสูง theme ถ้าหา theme สวยๆ ได้ก็เอามาใช้ครับ แต่ถ้าไม่มี ก็เอา theme ที่มันมีอยู่แล้วนี่แหละครับ ถ้า kw โดนจริง ก็ขายได้ครับ ใครจะใส่ plugin ขาย amazon ของ blogger ก็ได้ครับ แต่ส่วนตัวผมไม่ใส่ หุๆๆ

3. post มือหรือใช้เครื่องมืออะไรก็แล้วแต่ เอาวันละ 1-2 เรื่องก็พอครับ อย่าใจร้อน จากนั้นเอา url โดเมนเราไป post ที่บอร์ดหรือเว็บไหนที่ bot เยอะๆ ทำเป็นสะพาน bot ให้เว็บเรา index ครับ ถ้า bot เยอะ อีกวันนึงก็จะ index จากนั้น เราก็ค่อยหาลิงค์ใส่วันละนิดละหน่อย ให้มันโตครับ อย่าใส่ตูมเดียว ช่วงนี้พี่ goo เค้าเข้มจัดครับ

ทำซ้ำไปเรื่อยๆ ลองทำไปซัก 20 blog up ผมว่าก็น่าจะขายได้แล้วครับ ลองดูนะครับ ผมเองตอนนี้มีประมาณ 50 blog แต่ที่ขายได้ยังแค่ 4-5 blog ครับ แต่ก็ไม่ได้ถอดใจ ก็สร้างไปเรื่อยๆ คิดไว้ว่า อันที่ยังขายไม่ได้ มันยังโตไม่พอ และยังไม่ถึงเวลาของมันครับ
เท่าที่สร้างมาแบบไม่ใจร้อน ก็ยังอยู่ครบดีหมดทุก blog ทุก acc แถมบาง blog ขายของแพงได้บ่อยกว่าเว็บ .com ด้วยซ้ำ หุๆๆ

หวังว่า ประสบการณ์ที่บอกเล่ามานี่น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ให้มีกำลังใจมากขึ้นนะครับ
ช่วงนี้ผมก็แวะมาดูเรื่อยๆ ครับ แต่อาจจะไม่ค่อย ment ไม่ต้อง pm มาถามเพิ่มนะครับ มีอะไร ถามในกระทู้นี้ อันไหนตอบได้ก็จะตอบครับ และที่ ment ในกระทู้นี้ ก็เพราะเผื่อมีท่านอื่นช่วยตอบได้ก่อนครับ และมีเทพอีกหลายท่านอาจแวะมาแจมด้วย จะได้ประโยชน์กันหลายๆ ท่านเลย

เพิ่มเติม

คำถามที่ 1 : 1 acc กี่ blog และ 1 acc สร้างได้กี่ blog และเท่าไหร่ถึงจะปลอดภัย
ผมตอบตรงๆ ว่าไม่รู้ครับ
แต่ผมเอง 1 acc ไม่เกิน 10 blog ผมมีประมาณ 12 account ณ เวลานี้ ดังนั้น ครบ 120 เมื่อไหร่ ผมก็หยุดสร้างครับ หรือไม่ก็สมัคร acc ใหม่ บางคนบอกได้เป็น 100 อันนี้ใครใจกล้าก็ลองได้เลยครับ แต่พอดีผมขี้เกียจสร้างใหม่ เอาแบบว่าพอมีพอกินน่ะครับ เพราะเวลาโดนแบนทีมันเหนื่อยตอนจะสร้างใหม่ หุๆๆ

คำถามที่ 2 : content ประมาณไหน ลิงค์ไป amazon กี่จุด
ผมลืมบอกไปว่า post content ผมใช้ สคริปต์ที่ขายในบอร์ดนี้นะครับ (ลองค้นดูครับ post amazon ใส่ blogger มีไม่กี่เจ้า) อีกอันนึงคือ bmg ครับ แต่ที่ขายได้ตอนนี้เป็นสคริปต์ตัวที่บอก bmg พึ่งรู้ว่าทำได้ ก็เลยพึ่งยิงใส่ (555++ แบบว่าฟังก์ชันมันเยอะเลยทยอยศึกษาน่ะครับ) แต่อย่างที่เทพหลายๆ ท่านบอก อยากได้อันดับดีๆ ต้องเขียนเองครับ แต่ผมขี้เกียจ เน้น kw เข้าว่า
ส่วนลิง์ไป amazon กี่จุด ประมาณ 3 ลิงค์ต่อ 1 บทความครับ

1. รูปภาพ
2. detail (อันที่ประมาณเขียนเป็นหัวข้อว่า product details)
3. Buy now

ลองตามนี้ดูนะครับ

http://www.thaicreateblog.com/2011/05/blogger-amazon.html

Meta Tag ของ Blogger ให้มีประสิทธิผลสูงสุด


บทความนี้ พยายามที่จะทำให้ง่าย ทั้งการนำไปใช้ปฏิบัติจริง 
และการทำความเข้าใจกับแท็ก header ของ bloggerสำหรับ
การทำ Search engine optimization (SEO) ในส่วนของ Onpage Optimize
ทบทวนกันก่อน สำหรับ Meta Tag หลักๆสำหรับการทำ SEO


รูปจากคู่มือแนะนำการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหาของ google จะสังเกตได้ว่า Meta Tag ที่ header มีเพียง Title Tag และ Meta Description เท่านั้น ถึงแม้จะขาด Meta Keyword เนื่องจาก google ไม่ได้ให้ความสำคัญ แต่ถึงอย่างไร ก็ยังมี Search Engine ตัวอื่นที่ยังใช้อยู่ เพราะฉะนั้นก็ใส่ๆไปเถอะ และเพิ่ม Tag canonical (แท็กที่บอก bot ว่า URL นี้ที่เราให้ความสำคัญ)
สรุป ก็คือเราต้องการจะให้ มี 4 แท็ก ดังนี้
  1. Title Tag
    <title></title>
  2. Meta Description
    <meta content="description" name="description" />
  3. Meta Keyword
    <meta content="keywords" name="keywords" />
  4. Canonical
    <link href="URL" rel="canonical" />
ตามค่าพื้นฐาน Templates ของ Blogger นั้น จะมี Meta Tag เพียง Title Tag เท่านั้น และก็เป็น title ที่ซ้ำๆ กันทุกหน้า ทีนี้เราจะมาปรับตรงส่วนของ Title Tag ไม่ให้ซ้ำกันมาก และเพิ่มแท็ก Description , Keyword และ Canonical ให้ส่วนของเมต้าของแต่ละหน้ามีความแตกต่างกัน
วิธีการ
  1. ล็อกเข้าไปที่หน้า Layout (1.) –> Edit HTML(2.)
  2. มองหาแท็ก
    <title><data:blog.pageTitle/></title>
  3. แล้วก๊อปปี้โค้ดด้านล่างนี้ไปใส่แทน 
     
    <b:if cond='data:blog.pageType == &quot;index&quot;'>
    <title><data:blog.pageTitle/></title> 
    <meta expr:content='data:blog.pageTitle' name='description'/>
    <meta expr:content='data:blog.pageTitle' name='keywords'/>
    <link expr:href='data:blog.url' rel='canonical'/>
    </b:if>
     
    <b:if cond='data:blog.pageType == &quot;item&quot;'>
    <title><data:blog.pageName/></title>
    <meta expr:content='data:blog.pageName' name='description'/>
    <meta expr:content='data:blog.pageName' name='keywords'/>
    <link expr:href='data:blog.url' rel='canonical'/>
    </b:if>
     
    <b:if cond='data:blog.pageType == &quot;archive&quot;'>
    <title><data:blog.pageName/></title>
    <meta expr:content='data:blog.pageName' name='description'/>
    <meta expr:content='data:blog.pageName' name='keywords'/>
    <link expr:href='data:blog.url' rel='canonical'/>
    </b:if>
ความหมายของแต่ละวรรค





  • - วรรคแรก ถ้าเป็นหน้า index จะแสดงในส่วนของหน้าแรก (หน้า hame page)







  • - วรรคสอง ถ้าเป็นหน้า item จะแสดงในส่วนของหน้าเดี่ยว หรือหน้าของโพสต์







  • - วรรคสาม ถ้าเป็นหน้า archive จะแสดงในส่วนของหน้ารวมบทความ หรือหน้าคลังบทความ







  • - ในส่วนของแท็กหน้าที่เป็น URL หน้า Label นั้น จะอิงตามหน้า index คือจะเหมือนหน้า index แต่งจะเพิ่มตัว Label เข้ามาด้วย



  • ตามวิธีการนี้จะเป็นการเรียก title ของแต่หน้า ขึ้นมาแสดงในส่วนของ meta ทั้งหมด คือเป็นทั้ง title , description และ keywords ซึ่งผมคิดว่าเป็นวิธีการที่ง่ายดี ท่านใดมีวิธีที่ดีกว่าก็ชี้แนะได้ครับ.

    เราควรใส่ keyword ในเว็บเพจตรงใหนดี ?

    เราควรใส่ keyword ในเว็บเพจตรงใหนดี ?



    1. ใช้ keyword ที่บริเวณ ชื่อหน้าเพจ (Title) ให้เราใส่ Keyword ที่เราต้องการจะใส่โดยให้น้ำหนักจากการเรียงจาก ซ้ายไปขวา อันนี้สำคัญที่สุด ห้ามขาดหรือลืมใส่เด็ดขาด เพราะจะทำให้ Search Engine ไม่ทราบว่าเนื่อหาของเราเกี่ยวกับอะไร โดย search engine จะ Title เป็นข้อหัวหลัก แล้วเอาเนื้อหามาเป็นตัวเพิ่มคะแนนของเว็บเพจนั้นๆ
    2. ใช้ keyword ที่บริเวณชื่อหัวข้อของเนื้อหา (Heading tag) โดยการใช้ H1,H2,H3 เป็นต้น แต่ไม่ควรใส่ keyword ในทุกๆ H ใส่แค่ H1 หรือ H2 ก็พอ
    3. ใช้ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาในส่วนแรก (First Content) ให้ใส่ Keyword ไว้ในตำแหน่ง 20 คำแรกโดยประมาณ ให้ชัดเจน หรืออาจจะใช้ตัวอักษรลักษณะเอียงก็ได้
    4. ใช้ keyword ที่บริเวณ ลิงค์เชื่อมโยงมาตรฐาน (Standard Text Link) คือการเชื่อมโยงในลักษณะ การใช้ Text link เป็นตัวเชื่อมโยง แล้วแทรก Keyword ผสมเข้าไปด้วย
    5. ใช้ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาในส่วนสุดท้ายของหน้า (The last content) เพื่อเน้นย้ำหรือใช้ในการสรุปเนื้อหา อาจจะใช้เป็นลักษณะตัวเอียงหรือหนา (แนะนำให้ใช้ tag <b>คีย์เวิร์ด</b> แทน <strong>คีย์เวิร์ด</strong> เพราะ Search Engine ชอบ HTML แบบเก่ามากกว่าแบบใหม่) ก็ ได้ครับ
    6. ใช้ keyword ที่บริเวณ เมนูเลื่อนลง (Drop Down Menu) Drop down menu นี้เป็นที่ซ่อน Keyword ที่ดีอีกที่ที่ไม่ควรมองข้าม
    7. ใช้ keyword ตั้งชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ (Folder name, File name) วิธีนี้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจพอสมควรครับกับการทดลองใช้ในหลายๆ เว็บที่ผมลอง หากต้องใช้ Keyword มากกว่า 1พยางค์ ควรใช้เครื่องหมาย ?-? เป็นตัวคั่นกลาง
    8. ใช้ keyword ที่บริเวณ คำอธิบายรูปภาพ (Images alt tag) การใช้ tag alt เข้าช่วยนั้นเพราะว่า Search Engine นั้นไม่รู้จักรูปภาพเราสามารถบอก Search Engine ให้รู้ว่าภาพนั้นเป็นภาพของอะไรได้โดยใช้ tag alt=?keyword? นี้เข้าช่วย
    9. ใช้ keyword ที่บริเวณ คำอธิบาย ลิงค์ (Text link title) การใช้ text link title นั้นคลายการใช้ tag alt เพียงแต่ tag นี้ใช้อธิบาย link
    10. ใช้ keyword จด Domain name ด้วย Keyword (Domain name register) การใช้ Keyword หลักของเว็บในการจด Domain name นั้นหากทำได้ดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้วครับ
    11. ในส่วนของเนื้อหา ให้เน้น keyword ด้วย tag <b>คีย์เวิร์ด</b> ซัก 2-3 แห่ง แต่ต้องระวังไม่ใส่มากเกินไป
    12. ในช่วย ย่อหน้าแรกๆ ควนใส่คีย์เวิร์ด ใน tag < p> ประมาณ 2 ครั้ง จะเป็นการดี

    http://www.seoido.com/seo-website/useing-keywords-in-webpage-100.html#more-100

    On page SEO สำหรับ Blogger

    On page SEO Blogger




    On page SEO สำหรับ Blogger นั้นหมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ Search Engine สามารถมองเห็นได้จากบล็อกของเรา ซึ่งประกอบไปด้วย

    ► Keyword in Domain Name
    ► Keyword in Title Tag
    ► Keyword in Description Meta Tag, Keyword Meta Tag
    ► Keyword in URL
    ► Keyword in H1, H2 and H3
    ► Keyword Density in Body Text
    ถ้าเราปรับแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ เหล่านี้ให้ดีบล็อกของคุณก็จะมีโอกาส ติด Index ได้ง่าย โดยหลังจากที่ใช้เวลาทดลองอยู่ประมาณ 6 เดือนก็พบว่าบล็อกที่ผมสร้างนี้ติด Index ในหลาย ๆ Keyword แม้ว่าอาจจะไม่ติดอันดับ 1 แต่ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในหน้าแรก ผมจึงนำมาเรียบเรียงและเสนอแนะการปรับแต่งในบทความนี้ ตามสไตล์ของผมเอง ซึ่งคุณจะทำตามหรือไม่ทำตามก็ได้ โดยผมจะค่อย ๆ นำเสนอไปทีละอย่างที่พอจะปรับแต่งกันได้พร้อมทั้งอธิบายเหตุผลเพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรจะทำตามดีหรือไม่

    แนวทางสร้าง Blogger มือใหม่

    Blogger มือใหม่


    สำหรับ blogger ที่พยายามสร้าง Back link จากภายนอก สร้างไปสร้างมา index หายหมด
    ผมขอเสนอให้เราหันมาทำ link ภายใน blog ของตัวเองโดยการเชื่อมโยงบทความต่างๆภายใน blog ของเราให้โยงในไปมาและมีความสัมพันธ์กัน

    การทำแบบนี้ผมเรียกว่า Serial article ผมได้ต้นแบบมาจากอาจารย์ Pat Flynn นั่นเองครับ
    การทำ Serial article นั้นต้องมีการทำการบ้านพอสมควร คือ วางแผน contents เป็นเซ็ตๆ ว่าคุณจะเขียนเรื่องอะไร สมมุตคุณทำเว็บเกี่ยวกับ career development คุณคิด serial contents มาสองซีรี่

    >> ซีรี่แรก วิธีสมัครงานสำหรับคนจบใหม่
    >> ซีรี่สอง วิธีค้นหาตัวเองให้เจอในปีแรกของการทำงาน

    แจกฟรี มีดีก็บอกกัน Free Blog !!

    แจกฟรี Blog free


      freebloghosts.PNG
    So it seems all we ever speak about is WordPress, but don’t forget that you have options when choosing a blog platform. Here are 40 free ways to get started.
    Danga Software Powered
      Livejournal
    GreatestJournal.com – Based on the same software as LiveJournal, offers free voice posts, 1GB of photo hosting, and space for up to 2,000 user icons.
    InsaneJournal.com – Another site based on the Danga software that runs LiveJournal, offers free and paid accounts, paid benefits are only enhancements.
    JorunalFen.net – Runs on the Danga platform, very much directed towards various “fandoms” (i.e. Harry Potter, various Television shows) and is meant for users 18 and older.
    LiveJournal.com – One of the most well known of the blogging hosts. Offers multiple account types such as ad-supported and paid. The center of a few controversies recently.
    Themed Blog Sites
      Blogabond
    Blogabond.com – A site dedicated to travel blogs with map integration and more.
    BlogCheese.com – A video blogging website.
    BusyThumbs.com – A blog site specifically for your text messages and camera phone images.
    Freevlog – Designed for video blogging and completely free.
    Trippert.com – Create and share blogs of your travels.
    Ufem.com – Blogging site specifically geared towards women. Offers multiple themes and plugins.
    Word Count Journal.com – A new blogging format that is also part challenge. Write one word on the first day, two words on the second day and so on, at the end of the year you’ll have written 66,795 words.
    Xanco.com – Another moblogging site for you to share all your mobile communications with friends and family.
    WordPress Powered
      WordPress
    Blogetery.com – Offers multiple templates, anti-spam, free sub-domain and more.
    BlogRox.com – Runs on WordPress and offers 50MB of free online space.
    Blogsome.com – Based out of Ireland, this site uses the WordPress MU platform, large choice of themes.
    Edublogs.com – WordPress powered blogging for educators.
    WordPress.com – Not only can you install WordPress on your own sites, you can use the same software on their site and save yourself all of the technical work.
    Various Platforms
      Blogger
    Blog.com – Offers free blog hosting with unlimited bandwidth for their free package, more benefits for paid members.
    Blog Ladder.com – All blog entries show up on the main ladder as well as inside your own blog.
    Blogger.com – A great starting site to get a taste of blogging, very easy to use.
    Blogr.com – Allows you to blog, host photos & videos, and podcasts.
    BlogSpirit.com – European based blogging site, offers 30-day trial and subscription thereafter, but offers quite a bit of storage.
    Blogster.com – Offers free image hosting in addition to free blogs.
    BlogYx.com – Blogging site with extras such as chat boxes so you can interact with your readers.
    Bloki.com – Lets you build a blog site and even open it up for collaboration.
    Bravenet.com – Free blog hosting with RSS feeds and more.
    ClearBlogs.com – Free blog hosting and offers templates, friends only posts, IP-Banning and more.
    Etribes.com – Based in Europe, allows you to create all sorts of websites including a blog.
    Multiply.com – Mixes blogging and social networking, with photo galleries and more.
    Netcipia.com – Free blog and wiki for private or public display with 2GB of storage.
    Open Diary.com – Offers unlimited storage and posts, low cost subscription rates for advanced features.
    ShoutPost.com – A platform for creating blogs with a focus on generating traffic.
    SoulCast.com – Have something you want to talk about, but want to say it anonymously? This may be the blogging site for you.
    Squarespace.com – Lets you build your blog with numerous themes, also allows you to add other site features.
    Terapad.com – Offers blogs as well as features such as an integrated store.
    Tooum.com – Fully integrated blog and forum which allows for seamless discussion between the two.
    Tumblr.com – A blog platform with a focus on allowing media-rich posts.
    Weebly.com – Allows you to create a site and blog, free hosting and change designs on the fly.
    Windows Live Spaces – Free blogging with your MSN account, only drawback is readers have to have an account also.
    Vox.com – Part of the SixApart family of blogging sites, very much geared towards the personal journal types of blogs.
    Xanga.com – Part social network, part blogging, all free.
    Yahoo 360 – Part of your Yahoo account and features easy publishing.
    Zoomshare.com – Free blog hosting with 250MB of free storage.

    เทคนิค Blog เพื่อสร้างแรงดึงดูด

      เทคนิคในการดึงความสนใจ การสร้าง Blog

    Seothai



    seo4u



    Head html




                   จากการสังเกตุในช่วงที่ผ่านมา เห็นว่ามีหลายๆ Blog ที่น่าสนใจอยากเข้าไปอ่าน แต่เวลาคงไม่มีพอสำหรับทุกเรื่อง ทุก blog ในฐานะคนเสพ Blog ก็รอดูว่าจะมีเรื่องอะไรที่น่าสนใจ Pop up ขึ้นมาใน 10 เรื่องล่าสุดบ้าง (บางทีก็มองไม่ทัน เพราะเปลี่ยนเร็วมาก หรือไม่ก็เปิดหน้าจอแช่ไว้ไม่ได้ refresh บางเรื่องก็เลยไม่เห็นก็มี) เรื่องอะไรที่ทีมงานแนะนำบ้าง Blog ของคนที่ดังๆเขามีเรื่องอะไรใหม่ๆบ้าง ว่าแล้วก็ไปBlog เพื่อนๆที่คุยสนุกก่อน
              การที่จะมานั่งหาเรื่อง(อ่าน) (ไม่ใช่หาเรื่องคนอ่านนะคะ ฮิฮิ) โดยการไปดูรายการยาวเหยียดใน more_blog นั่นก็มีบ้าง แต่ก็ยังน้อย เมื่อเทียบกับแบบข้างบน ดังนั้น การที่ Blogger แต่ละคนใช้ลูกเล่นต่างๆมาเรียกความสนใจจากเรานั้น ก็เป็นเรื่องน่าศึกษา คุณๆก็สามารถนำมาใช้ได้ตามโอกาส แต่เรื่องเทคนิคพิเศษ (35 บาทแถมลูกชิ้นจัมโบ้)ส่วนตัวนั้น เทคนิคใครก็ของใคร คงต้องเจาะลึกดูกันเอาเอง
              ในที่นี้ จะบอกถึงเทคนิคทั่วๆไป ที่มีการนำมาใช้กัน จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ไม่เป็นไร เพราะมองที่ผลลัพธ์มากกว่า ถ้า feedback ออกมาในรูปคนเขาชม (แล้วชมจริงๆ จะชมแบบบอกกล่าวหรือชมในใจก็ตาม) ไม่ใช่คนด่า ก็ถือว่าเรื่องนั้นผ่าน แต่บางเรื่องก็ไม่ได้ต้องการคนชม แต่ต้องการคนมาแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล ความคิดเห็นในเรื่องที่โพส ถ้าได้รับการตอบรับด้วยการเขียนความเห็นกันมากๆ ก็จะได้พบความหลากหลาย ลุ่มลึก เพิ่มดีกรีความน่าเชื่อถือได้มากขึ้น บางบล็อกยังกลายเป็นห้องสนทนากลายๆไปแล้ว
              ในฐานะคนอ่าน blog แนะนำว่าเวลาไปเยี่ยมชมเรื่องใน blog ใคร หากไม่ติดขัดเรื่องเวลา หรือ ปัญหาทางเทคนิคใดๆ (แปลง่ายๆว่า กรณีหาข้อแก้ตัวได้ อิอิ) อยากจะโปรโมทว่า ให้ทิ้งข้อความสั้นๆไว้ให้เจ้าของ blog ได้ทราบเป็น feedback หรืออย่างน้อยก็ทักทายกันให้รู้ว่า เราเองนะที่มาอ่าน ถ้าทำแบบนี้ได้ ก็จะช่วยให้เจ้าของ blog เห็น แล้วกลับเข้าไปเยี่ยมคารวะ ทักทาย อ่านเรื่องใน blog ของคุณบ้าง แล้วก็จะได้ประโยชน์มากมายมหาศาลกับ สังคมใน Oknation.net เอง
              ต่อไปนี้เป็นเทคนิคง่ายๆ ที่ใช้ได้ทั่วไป ในการทำ Blog นะคะ ท่านใดเข้ามาอ่านแล้วอยากจะเพิ่มเติมก็ได้นะคะ เพราะเขียนขึ้นจากประสบการณ์ที่ oknation นี่เอง ไม่ได้ไปดูที่อื่น (แต่ คงไปดูๆเขาบ้าง เมื่อมีเวลา คงจะได้อะไรๆมาฝากกันอีกค่ะ)
    seo

    Blogger มือใหม่กับ amazon ยังได้อยู่

    มาแชร์แนวทางครับ สำหรับมือใหม่
    เอาแบบสั้นๆ ง่ายๆ นะครับ ก่อนอื่นให้ดูสถิติของ blog ผมก่อนเลย (blog อายุ 1 เดือนนะครับ)
    จะเห็นว่า traffic มาจากการ search ด้วยภาพทั้งนั้น




    *ขอไม่โชว์ยอดอันน้อยนิดนะครับ 

    วิธีการ
    * 1 blog 1 สินค้า *
    1. เลือกสินค้าที่คิดว่าจะมีคน search ด้วยภาพ (ไม่แนะนำคีย์โหดนะ หุหุ)
    2. ก็อปภาพจากสินค้าจาก amazon มาแล้วเปลี่ยนชื่อไฟล์ให้เป็นชื่อสินค้าทั้งหมด เช่น สินค้าชื่อ ABC มีทั้งหมด 5 ภาพ ก็เปลี่ยนชื่อภาพเป็น ABC1, ABC2 ถึง ABC5 เป็นต้น
    3. อัพรูปทั้งหมดลง blog ตั้งชื่อ blog ให้ตรงคีย์ ทำ landing page ก็อปข้อมูลจาก amazon มาใส่ (ราคาไม่ต้องนะ) หารีวิวมาใส่ประมาณ 500 คำ (เอาจากใน amazon ก็ได้)
    4. ใส่ปุ่ม buy now หรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วใส่ลิ้งค์สินค้าลงไป (แม้แต่ปุ่มผมก็ยังเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อสินค้าก่อนอัพด้วย)
    5. แค่นั้นแหละ ที่เหลือปล่อยให้พี่ blogger โชว์ความแรงเอง

    อยากแรงกว่านี้ขอแนะนำ facebook คุณลองหาด้วยภาพแล้วจะพบว่าภาพจาก facebook ที่มีชื่อตรงคีย์นั้น อยู่อันดับต้นๆ หลายคีย์เลย (สร้างเฟสตามคีย์เลย แล้วใส่ลิ้งค์ของ blog ไว้ด้วย)


    http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,285127.msg3907615/topicseen.html#new

    SEO Vocabulary Keyword

    SEOTHAIBLOG
    คำแปลเหล่านี้อาจจะไม่ได้ถูกหลักวิชาการนะครับเพราะผมแปลเอาเองตามความเข้าใจที่ได้สะสมมา ผิดพลาดยังไงต้องขออภัยล่วงหน้าครับ และหวังว่าคงพอเป็นแนวทางในการทำความเข้าใจเรื่อง SEO ให้กับคนที่เริ่มต้นได้


    1. SEO : คำนี้ย่อมาจาก Search Engine Optimization ซึ่งเป็นกระบวนการการทำให้บล็อก/เว็บไซต์ของคุณถูกค้นพบโดยเครื่องมือค้นหาบนโลก Internet ได้ง่ายขึ้น

    2. SE : ย่อมาจาก Search Engine คือเครื่องมือค้นหาข้อมูลบนโลก Internet (ในที่นี้เราจะพูดถึงบล็อกและเว็บไซต์)

    3. Bot : ย่อมาจาก Robot เป็นเหมือนผึ้งงานที่คอยมาเก็บข้อมูลต่าง ๆ บน โลก Internet ที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มปริมาณของข้อมูลขึ้น และที่สำคัญ  Bot ของ Search Engine  ชอบจะไปเยี่ยมบล็อก/เว็บไซต์ที่มีการ update บ่อย ๆ

    4. Keyword  : ในเรื่อง SEO หมายถึงคำสำคัญที่คนมักใช้ค้นหาจาก Search Engine เช่น คำว่า ผลฟุตบอล  บอลโลก 2010 เป็นต้น

    5. Niche keyword  : หมายถึง Keyword  ที่มีโอกาสสูงที่คนจะใช้ค้นหากับ Search Engine   และมีคู่แข่ง (ปริมาณผลการค้นหา) ไม่มากนัก

    Tips And Techniques Do The Successful Bloggers Follow To Build Links?


           


    Blogger
    Blogseothai



    Link building is the task that consumes most of the time and is the most result driving when you want to do SEO for your website or blog. If you want to keep your blog ahead of the million other blogs in the same industry, you have to continue building back links for your blog. This scope of this post here will remain confined in the tips for link building that many top bloggers use for their niches.

    In this article, I will talk about only those tips that work well with the latest changes in algorithms brought about by Google. These tips are expected to work just fine with any version of Google Penguin Update and Google or other search engines should not penalize you for any over optimization if you employ these techniques to build your links.

    Download free templates blogger 2012


    สำหรับใครที่กำลังเขียนบล็อกของตัวเองอยู่ โดยใช้ blogger
     บริการบล็อกฟรีของ Google และต้องการตกแต่งบล็อกให้ดูสวย
     สอดคล้องกับเนื้อหาของบล็อกที่เขียน โดยไม่ต้องทำ templates ขึ้นมาเอง
     ผมขอแนะนำ ฟรี templates blogger ยอดนิยมประจำปี 2012 ให้ดาวน์โหลดแบบฟรี ๆ ครับ 

    MODERN PHOTOGRAPHY FREE BLOGGER TEMPLATE
    ฟรี templates blogger

    GERMANIUMIFY FREE BLOGGER TEMPLATE

    ฟรี templates blogger

    วิธีเพิ่มปุ่ม like-blogspot-facebook


    วิธีทำปุ่ม Like ให้ Blogger

    ช่วงนี้กลับมาเห่อ blogger รู้สึกว่ามันน่าใช้ขึ้นจริงๆ แต่พูดก็พูด Google เองคงไม่ปลื้มและคงไม่เชียร์ Facebook เท่าไหร่ เพราะพี่แกก็อยากเดอะโซเชียลกับเค้าบ้าง (กะครองโลกว่างั้น) ก็เลยมีอี G+ ออกมาแข่ง
    ปุ่มแชร์ที่ให้มากับ Blogger ผมว่ามันกากมาก ซึ่งสำหรับคนอ่านบล๊อก ผมว่ามันดูยุ่งยาก แถมขนาดก็กระจึ๋งเดียว เป็นขาวดำอีกตะหาก ไม่เหมือนปุ่ม like กดทีเดียวก็ไปโผล่ที่ Profile คนอ่านทันที
    วันนี้ก็เลยมี วิธีทำปุ่ม Like ให้ Blogger มาฝากกัน
    เริ่มกันโลด นี่คือสำหรับ code ที่จะนำไปใช้นะครับ (มือใหม่ค่อยๆทำนะครับ ไม่ยาก เชื่อผม)
    <b:if cond='data:blog.pageType == &quot;item&quot;'>
    <iframe allowTransparency='true' expr:src='&quot;http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=&quot; + data:post.url + &quot;&amp;layout=standard&amp;show_faces=false&amp;width=100&amp;action=like&amp;font=arial&amp;colorscheme=light&quot;' frameborder='0' scrolling='no' style='border:none; overflow:hidden; width:450px; height:40px;'/>
    </b:if>

    การแบ่ง Header ของ Blogger ออกเป็นสองส่วน


    การแบ่ง Header ของ Blogger ออกเป็นสองส่วน




     

    ใน Template มาตรฐานของ Blogger ที่มีให้เลือก (ไม่รวมที่ Download จากเว็บไซต์อื่นๆ) จะมีเพียง 1 Section หรือ 1 แถบยาวเท่านั้น แต่ถ้าต้องการแบ่ง Header ออกเป็น 2 Section ก็ต้องทำการใส่โค้ด Html และ Css เพิ่มเติมครับ


    Blogger Blogspot New มือใหม่ทำบล็อก


                 มือใหม่ที่ใช้ blogger.com ทำบล็อกนะครับเคยสงสัยไหมว่า

    เมื่อทำ atom.xml แล้ว google ไม่อินเด็กหรืออาจจะนานมากผิดปกติเท่าที่ทำมาเจออยู่อย่างเดียวนะครับคือการใช้ Label ทำให้บอทมาติดอยู่แค่ที่ label ไปต่อไม่ได้ โดยส่วนตัวผมก็เอา label ออกแล้วไปใช้ link list แทนหากเทพท่านใดเคยเจอปัญหาอื่นก็เอามาบอกันบ้างนะครับหรือใช้อะไรที่ดีกว่า link list วันนี้เสร็จงานต้องกลับบ้านแล้วที่บ้านก็ไม่ได้ติดเน็ตเห้อ Lips Sealed 

              ส่วนวิธีการทำแผนที่ให้บล็อกของเรานะครับตามนี้เลย พอดีนึกได้ให้ url ไป submit แต่ไม่บอกวิธี Tongue เลยขอแก้ตัวเอามาเพิ่มให้นะครับ
    ของ google ครับ http://itoeblog.blogspot.com/2009/05/sitemap-blogger.html  
    ของ bing ครับ http://www.108blog.net/archives/2461 
    และของ yahoo http://forums.thaisem.com/index.php?topic=4028.0 
    ขี้เกียจทำเองขอเอาของคนอื่นมาลงและกันนะ

    แนะนำวิธีการนำโดเมนฟรี .co.cc มาใช้กับ Blogger


    แนะนำวิธีการนำโดเมนฟรี .co.cc มาใช้กับ Blogger


    เขียนไว้ที่บล็อกนะคะ เลยเอามาแชร์ เผื่อจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆค่ะ
    เอาของ .co.cc มาลงอันเดียวนะคะ เพราะลงหมดมันยาวมากอะค่ะ รูปเยอะด้วย

    ของ Godaddy ไปดูได้ที่นี่นะคะ
    โค๊ด:
    http://www.youaremysmile.com/2011/03/godaddy-blogger-blogspot.html

    ส่วนอันนี้ของ Netfirms ค่ะ
    โค๊ด:
    http://www.youaremysmile.com/2011/02/netfirms-blogger-blogspot.html

    วันนี้จะมาแนะนำวิธีการนำโดเมนฟรี .co.cc มาใช้กับ Blogger ค่ะ
    ค่าโฮสก็ไม่ต้องเสียเพราะใช้ Blogger ค่าโดเมนก็ไม่ต้องเสียอีก หุหุ
    แต่อย่าทำเป็นเล่นไปนะคะ ของฟรีๆอย่างนี้ละหลายคนใช้ทำเงินกันได้มากมายเลยทีเดียว

    การใช้โดเมนของเราเองกับบล็อกที่เราสร้างไว้ที่ Blogger แบบนี้
    เวลาเราทำ seo เราก็ทำให้กับโดเมนของเรา ไม่ต้องไปทำ seo ให้กับ url ของ blogspot
    หากเกิดอยากจะย้ายโดเมนไปใช้โฮสของตัวเอง ก็สามารถย้ายไปได้
    โดยสิ่งที่เราทำ seo เอาไว้กับโดเมนของเราก็จะไม่สูญเปล่าไปค่ะ
    จะโดน Blogger Mark ว่าเป็น Spam ก็อย่าได้แคร์ อิอิ

    มาเริ่มขั้นตอนการตั้งค่าโดเมน .co.cc เพื่อนำไปใช้กับ Blogger กันได้เลยจ้า…

    ก่อน อื่นเราก็ต้องมีโดเมน .co.cc เอาไว้อยู่ก่อนแล้วนะคะ
    เมื่อมีโดเมน .co.cc ในชื่อที่เราต้องการแล้ว
    ให้ sign in เข้าไปที่ account ที่เว็บ co.cc นะคะ
    พอ sign in เข้ามาแล้วจะเจอหน้า Domain Settings ตามแบบในรูปนะคะ ให้คลิกที่ Set up ค่ะ

     

    จากนั้นจะเข้ามาสู่หน้า Manage Domain ให้คลิกที่ปุ่ม Set up ที่อยู่ด้านหลังชื่อโดเมนของเราค่ะ

    What is Numbered Page Navigation ?


    What is Numbered Page Navigation ?


    In blogger, by default, you see Older posts, Newer Posts links near the bottom of the page which is useful to your blog visitors to navigate to other posts of your blog. But, the problem is.. people hardly notice those newer and older posts links.. which means.. less pageviews to your blog.

    So, to increase your blog pageviews you can use this cool looking, advanced numbered page navigation to your blog.



    So, how to add this to your Blogger blog ?
    (first backup your blog template before editing anything)

    1. Sign into your Blogger account » Settings » Formatting
    Choose the number of posts you want to display on homepage

    set the amount of posts to be displayed on the homepage

    cBlogger เวอร์ชั่น 2 โพสข้อมูล Amazon ลง Blogger



    Feature ของโปรแกรมว่าทำอะไรได้บ้าง
    1. ดึงข้อมูลจาก Amazon ด้วย keyword หรือ asin
    2. สามาถโพสข้อมูลลง Blogger
    3. สามาถปรับเปลี่ยน Template ได้เอง (แล้วแต่ความสามารถในการปรับแต่งของแต่ละท่าน)
    4. มี TAG ให้เลือกใช้กับ Template มากพอสมควร เช่น {title} ก็จะดึง title จาก amazon หรือ {reviews} ก็จะดึง customer reviews มาแสดง
    ส่วนที่ปรับเปลี่ยนจาก version เดิม
    1. ท่านสามารถ config ค่าได้ที่หน้า index ซึ่งเหมาะแก่การใช้ imacro รันข้อมูล
    2. โปรแกรมจะ Random ข้อมูล keyword และจะไม่ดึงค่าซ้ำมาโพสข้อมูล
    3. ท่านสามารถปรับเปลียน Template ได้ที่หน้าเว็บ ไม่ต้องแก้ไขในไฟล์ config
     
    ดาวโหลดที่นี่
    http://www.ziddu.com/download/16889756/cBloggerV2.rar.html
    ตัวอย่าง
    http://testcblogger.blogspot.com/
     
    วิธีติดตั้ง
    ขอบคุณ คุณ gilbert

    Tags : cBlogger เวอร์ชั่น 2 โพสข้อมูล Amazon ลง Blogger , Amazon ลง Blogger , Amazon to Blogger

    SEO Blogger Templates


    เสาะหา Blogger Templates อยู่นานหลายเจ้าด้วยกัน แล้วผมจะเลือกเจ้าไหนดีล่ะ บางเจ้าแค่ตัว DEMO ที่ทำไว้อวดชาวบ้านเขายังหน้าตาเพี้ยนๆ เลย แล้วผมจะกล้าโหลดมาใช้ได้เยี่ยงไรกัน กว่าจะเจอเว็บที่เขาทำไว้สวยๆ และพอมีถูกใจบ้างก็เล่นเอาเหงื่อตกเหมือนกัน ใครเป็นสาวก Blogger ก็แนะนำเจ้านี้เลย
    จากที่ทดลองมาแล้วไม่ทำให้ผิดหวัง






     Blogger Templates



    บริการรับออกแบบเว็บไซด์




    ร่วมเป็นสมาชิก Blogseothai คุณคือตัวจริง !