สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ
ThaiSEOBoard พื้นที่ดีๆ พื้นที่แห่งการแบ่งปัน
SEO |
ต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้เก่งอะไรนะครับ เพียงแค่เอาแนวทางมาแชร์ประสบการณ์กันเล็กน้อย สำหรับบทความนี้ เป็นแนวคิดกลยุทธ์ที่ผมใช้อยู่ จากประสบการณ์เกือบปี ที่เริ่มเข้ามาทำ Internet Marketing ด้วยต้นทุนประมาณ พันกว่าบาท ค่าโดเมน 340 ค่าโฮส 800 แต่ก็ทำเงินแสนได้ภายในระยะเวลา สองเดือน เว็บไซต์แรก ที่ผมทำ เกี่ยวกับวาไรตี้ความบันเทิง ในช่วงแรก ติดโฆษณา Google Adsense ทำรายได้ต่อวันประมาณวันละ 1000 บาท ขึ้นไป แต่ก็น่าเสียดาย เว็บแนวนี้ มีจุดเสี่ยงสูง ไม่ว่าจะคลิปวิดีโอ ภาพ ล้วนแล้วแต่จะเสี่ยงต่อลิขสิทธิ์ เว็บไซต์เลยถูกแจ้งเตือนระงับโฆษณาไป น่าเสียดายอย่างยิ่ง ภายในสองเดือน ผมทำ UIP สูงสุดที่ 55K แต่เมื่อโดนปิดโฆษณา ช่วงนั้นบอกตามตรงว่า ท้อและเหนื่อยอีกทั้งยังส่งผลกระทบกับงานประจำที่ทำอยู่ เพราะวาไรตี้มันต้องอัพเดทอยู่เสมอ เลยตัดสินใจขายไป ช่วงนั้น หลายๆ ท่าน แอดมาหาผม ถามถึงแนวทาง SEO ซึ่งผมไม่มีอะไรจะบอกเลยจริงๆ เพราะผมทำมันตามธรรมชาติล้วนๆ ทำมันด้วยใจ เมื่อแอ็ดมา แล้วไม่ได้คำตอบที่ต้องการ ก็ด่าผมซะงั้น งงกันไปเลยทีเดียว เอาละครับ มาดูกัน ว่าที่ไร้ SEO นั้น เป็นอย่างไร
1. ตั้งเป้าหมาย - เป้าหมาย ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นสิ่งใหญ่ๆ สิ่งเล็กๆ ก็ได้ ก่อนที่ผมเริ่มจะทำเว็บดังกล่าว ผมเคยเห็นเว็บไซต์หนึ่ง จำชื่อไม่ได้ เค้ามีกล่องแชท โห... คนคุยกันแบบอ่านไม่ทันกันเลยทีเดียว เป็นกล่องแชทของ facebook แน่นอนว่า เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็เล่นเฟสบุก แชทกันได้ทุกคน ไม่ต้องมาสมัครสมาชิกให้วุ่นวาย เป้าหมายผมมีแค่ "เว็บไซต์มีคนคุยแชทกันแบบเรียลทาม" แค่นี้ละครับ เพียงแค่นี้จริงๆ ระยะแรกเริ่มที่เปิดเว็บใหม่ๆ เชื่อมั้ยว่า เงียบมาก มีคนออนไลน์ แต่ไร้คนคุย ทางออกของผมก็คือ ผมสมัคร facebook มา 3 ไอดี แล้วนั่งคุยเอง ถามเอง ตอบเองไปเรื่อย 55+ เมื่อคนเข้าเว็บ เค้าก็จะเริ่มโต้ตอบกับเราเอง ที่ผมแนะนำให้ตั้งเป้าหมายก่อน เพราะว่า คุณจะเพลินกับมัน และพยายามทุกวิถีทาง ที่จะให้เป้าหมายนั้นเป็นความจริง ภายใน 1 เดือนแรก เริ่มมีคนเข้ามาคุยในกล่องแชทมากขึ้น ใช่แล้ว บางคนไม่ได้เข้าเว็บมาดูอะไรหรอก แค่อยากจะมาคุยเท่านั้นก็มี สิ่งเล็กๆ สิ่งนี้ หลายคนมองข้ามมันไป ผมรู้สึกเสียใจนิดๆ ที่เจ้าของคนใหม่ไม่ให้ความสำคัญกับมัน ปล่อยกล่องแชทให้เงียบเหงาไปซะงั้น
หลายๆ เว็บไซต์ เพิ่งเริ่มทำใหม่ ก็บังคับให้ผู้ใช้งานสมัครสมาชิก กว่าจะแชทได้ กว่าจะคอมเม้นได้ ส่วนตัวคิดว่า นั่นเป็นการตัดโอกาศสำคัญเป็นอย่างมาก บางคนเข้ามาอยากโต้ตอบ แต่ระบบที่ยุ่งยาก ก็เลยคิดในใจ ช่างมัน ไม่เล่นก็ได้ว้า... หากเว็บยังไม่ดังจริงๆ ผมไม่ค่อยแนะนำให้ปิดกั้นเนื้อหา หรือปิดกั้นช่องทางอื่นๆ สำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิก ผมเป็นการตัดโอกาสไปเยอะเลยครับ
2. จงมีจุดยืนที่มั่นคง - เมื่อคุณตั้งเป้าหมายไว้แล้ว คุณจงทำตามความฝันที่มี จงมีจุดยืนที่มั่นคง เว็บแรกที่ผมทำ ผมไม่รู้นะ ว่าคิดผิดหรือคิดถูกที่ขายไป แต่ที่แน่ๆ เป้าหมายผม เขวไปแล้ว เมื่อมีปัจจัยเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง มันอาจเป็นตัวทำลายความฝันของเราได้ ตอนนั้น รายได้ต่อเดือนที่หายไปหลายหมื่น มันทำให้ผมขาดสติไป รีบขายเกิน ซึ่งเป็นทางที่ไม่แนะนำเป็นอย่างยิ่ง ควรสู้กับมันก่อน ลุยกับมันสักตั้ง อยู่บนจุดยืนที่เข้มแข็งเอาไว้ หากสู้ไม่ไหวจริงๆ ถึงค่อยถอนตัวออกมา
3. สร้างแบรนด์ - หลายๆ ท่าน จดโดเมน จะคิดถึงคีย์ก่อนเป็นหลัก อันที่จริงผมก็คิดนะ แต่แน่นอนว่า ถ้าให้ตรงคีย์ ชื่อก็จะไม่สวยและยาว ผมเน้นชื่อที่ไว้ใช้สำหรับสร้างแบรนด์มากกว่าครับ สั้นๆ พิมพ์ง่าย อ่านง่าย ผมคิดว่ามันเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ ที่จะทำให้ผู้เข้าใช้งานจดจำเว็บเรา คิดเอาง่ายๆ เลยครับ เว็บดังๆ ระดับประเทศ ระดับโลก ไม่ได้สนใจคีย์กันเลย เค้าเน้นสร้างแบรนด์มากกว่า Brand การสร้างแบรนด์มันทำให้ยั่งยืน เพราะในอนาคตผู้ใช้จะไม่เข้า Google จะเข้าตรงเลย เมื่อนั้นคุณก็จะสบายเพราะไม่ต้องเหนื่อยกับการทำ SEO Kapook sanook youtube yahoo อีกเยอะเลยครับ มาสร้างแบรนด์กันดีกว่า
4. ดูดี สะอาดตา - เว็บไซต์ที่ดูสะอาดตา ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญพอสมควร หากรกเกินไป โฆษณาเยอะเกินไป คนใช้ก็รำคาญ ยกเว้นว่า เว็บคุณดังแล้ว ติดตลาดแล้ว อันนี้ก็อาจไม่เป็นไรนัก แต่หากเป็นเว็บน้องใหม่หละก็ มันอาจสร้างความไม่พอใจเป็นอย่างสูง โดยเฉพาะเว็บที่มักขึ้นโฆษณาเด้งขึ้นมาเองมากๆ เครื่องคอมพิวเตอร์ของบางท่าน สเปคต่ำ ถึงกับค้างกันไปเลยก็มีครับ
5. เป็นตัวของตัวเอง - ระยะแรกเริ่มที่ผมทำเว็บไซต์ ก็ยอมรับว่า ดูของคนอื่นเยอะมาก มันก็มีผลดีที่เราได้แนวทาง แต่สุดท้ายแล้วไม่ได้นำมันมาใช้เลย ยิ่งดูมาก ยิ่งเสียเวลา ไม่ได้เริ่มทำพัฒนาของตนเองสักที เอาแต่ไปตามหลังคนอื่น แน่นอนว่า หากเว็บไซต์ใหม่ ทำตามเว็บไซต์ใหญ่ๆ ที่เกิดก่อน คุณไม่สามารถนำหน้าพวกเขาได้เลย ต้องมีสไตล์ ลีลาที่เป็นตัวของตัวเอง ทำในแบบที่ตนเองชอบก่อน คิดง่ายๆ เลย "หากเรายังไม่ชอบ แล้วคนอื่นจะชอบของเราได้ยังไง" เราอาจนำไอเดียของผู้อื่นมาประยุกต์ได้ แต่ต้องอยู่ในฐานที่เราชอบด้วยเสมอ เป็นตัวของตัวเองเมื่อไหร่ มันก็จะเกิดความต่าง สิ่งนั้นอาจแปลกใหม่ และถูกใจใครหลายคนก็ได้ครับ
6. ถูกใจ Like - เนื้อหาที่ดี ผู้ชม ผู้อ่าน อ่านจบแล้วรู้สึกว่า เต็มอิ่ม จบในหน้าเพจนี้ ไม่ต้องไปค้นหาเว็บอื่นแล้ว มันก็ให้เกิดการ Like หรือ ถูกใจ หรือ แชร์ แน่นอนว่า เมื่อมันเข้าสู่สังคม Social Network แล้วหละก็ อัตราการขยายตัว มันเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว คนแชร์ 1 คน อาจส่งผลให้อีก 10 คน เข้าชมต่อ อีก 10 คน ดังกล่าว อาจแชร์ ต่ออีก 1 คน ก็เพิ่มให้มีอีก 10 คนเข้าดูต่อ มันจะขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว สำหรับงานนี้ ผมก็ยังเห็นว่า facebook มีบทบาทสำคัญสูงมากๆ ส่วน Google+ นี้ ผมยังไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนัก แต่มีไว้ ก็ดีครับ
7. เวลา - หลายๆ ท่าน รีบเร่งที่จะประสบความสำเร็จ และมักไปเปรียบเทียบกับเว็บใหญ่ๆ เวลา เป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างสูงเช่นกัน ความน่าเชื่อถือ ความเก๋า ที่หาซื้อกันไม่ได้ นั่นก็คือ เวลา คุณจำเป็นต้องมีความเข้มแข็งและอดทน โดยเฉพาะ ผู้ที่ทำเว็บไซต์เฉพาะทาง แน่นอนว่า มันต้องใช้เวลาสูงกว่าจะเติบโต แต่อย่าเพิ่งท้อครับ ผู้ที่จะประสบความสำเร็จได้ ก็คือผู้ที่อดทน รอเวลาได้เท่านั้น คุณเชื่อมั้ยว่า เว็บไซต์ประเภทเดียวกัน มีคนเริ่มทำในช่วงเวลาเดียวกันมากมายยิ่งนัก แต่น้อยเว็บที่จะสู้หน้าและมีบทบาทต่อสังคมได้ เพราะส่วนใหญ่ มักท้อกันไปซะก่อน อยู่กับมันให้มากๆ ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ รอเก็บดอก เก็บผลครับต้นไม้กว่าจะได้ผล รอกันเป็นปี เว็บไซต์ก็เช่นเดียวกันครับ
สำหรับ กลยุทธ์ 7 ข้อนี้ เป็นเชิงแนวคิดในการทำงาน ตอนนี้ผมทำเว็บไซต์ใหม่ ก็ยังคงใช้หลักการเดิม แต่ควบคุม และมีจุดยืนที่เข้มแข็งมากขึ้น อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ ความยั่งยืน ย่อมอยู่บนฐานที่สังคมยอมรับได้ การเลือกทำเว็บไซต์ ผมไม่ได้ต่อต้านในการทำเว็บแนว 18+ นะครับ แต่แค่อยากแนะนำว่า เว็บแนวดังกล่าว มันทำงานยาก และมันก็เหนื่อยใจด้วยครับ กังวลว่าเมื่อไหร่จะถูกปิด จะถูกจับ อาจไม่คุ้มกับเงินที่ได้มา เพราะได้เงิน แต่ไร้ซึ่งความสุขทางใจ ทำเว็บที่สร้างสรรค์สังคม มันจะเติบโตช้า แต่มันยั่งยืนและอยู่รอดครับ ตอนนี้ ผมทำเว็บใหม่มาได้ 3 เดือน หลังจากที่ท้อใจกับเว็บเก่า และหยุดยาวไป 3 เดือน ก็เพิ่งมาเริ่มต้นใหม่ เป็นเว็บเฉพาะทาง อัพวันละ สองสามบทความ ไม่เหนื่อยเหมือนเว็บก่อน เว็บเฉพาะทางมันก็ดีตรงที่ เนื้อหามันไม่เก่า ใช้ได้อยู่เสมอ คนอ่านเปิดดูน้อย แต่เปิดดูได้ตลอด มันอาจไม่ได้เงินเยอะเหมือนเว็บก่อน แต่มันมีมูลค่าในอนาคตสูงกว่ามาก และยั่งยืน
เป้าหมายเว็บผมตอนนี้ คือ มี like fanpage 1 แสน user ใช่แล้วครับ มันเยอะมาก แต่ผมจะทำให้มันเป็นจริงให้ได้ ด้วยสไตล์ ที่เป็นตัวของเราเอง
และเป้าหมายในชีวิต เมื่อไหร่ ที่อินเตอร์เน็ต ออนไลน์ได้ทั่วประเทศ ผมก็จะลาออกจากงานประจำ แล้วก็มาทำ Internet Marketing เต็มตัว และเดินทางไปเรื่อยๆ ทั่วประเทศ หรืออาจทั่วโลก เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้กับชีวิต คนเราเกิดมา ไม่รู้จะตายกันไปเมื่อไหร่ อีก 10 ปี 5 ปี พรุ่งนี้ วันนี้ ก็ไม่แน่ไม่นอน ไม่อยากจมอยู่กับที่เดิมๆ งานด้านนี้ ดีนะ ทำที่ไหนก็ได้ ผมจะเดินทางไปเรื่อยๆ มีแค่คอมพิวเตอร์สักตัว ก็ทำงานได้ละ น่าจะสนุกไม่ใช่น้อย
หวังว่า บทความนี้ จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ บ้าง ไม่มากก็น้อย สู้ต่อไปครับ เกิดมาแล้ว ก็ต้องเป็นตัวของตัวเอง ทำในสิ่งที่อยากทำ อย่าให้คนอื่น หรือสังคม มาครอบงำความคิดของเรา และอย่าโลภมากจนเกินไป เอาแบบพอเพียง ขอให้ใจเราเป็นสุขก็เกินพอแล้วครับ หลายๆ คน เอาแต่เฝ้าหน้าจอคอม ผมก็เคยเป็นเช่นนั้น ลองถามตัวเราเองดูว่า เราจะอยู่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน แล้ว ตกลง เราเกิดมาทำไม ?
---------------------------------------
update ตอบข้อสงสัย เรื่องแบรนด์
รู้สึกดีใจมากๆ เลยครับ ที่การเขียนบทความเล็กๆ น้อยๆ นี้ มีประโยชน์และสามารถเป็นแรงผลักดันให้กับเพื่อนๆได้ไม่มากก็น้อย ผมเอาให้แฟนอ่าน แฟนน้ำตาซึมเลย เพราะเค้าเห็นการทำงานของผมอยู่ตลอด 555+ เดี๋ยวเอาไว้ โอกาสหน้า จะเขียนตอนต่อไปมาให้อ่านกันครับ รอบนี้ เขียนแบบว่า ไม่ได้เรียบเรียงหรืออ่านทวนเลย พิมพ์รอบเดียวจบ แล้วกดส่งเลย อิอิ ... ทีนี้ บางท่านสงสัยว่า แล้วถ้าไม่โปรโมท ไม่ลงทุนเลย จะสร้างแบรนด์ได้อย่างไร อืม.. ผมยืนยันว่า สามารถทำได้ 100% ครับ ยกตัวอย่างง่ายๆ บุคคลที่โด่งดัง ทำไมคนถึงรู้จักเขาทั่วประเทศ ก็ด้วยความเป็นตัวของตัวเองนี่หละครับ มันสร้างความต่าง เมื่อมีความต่างก็จำได้ง่าย ส่วนการโปรโมท สมัยนี้ ง่ายมากๆ ครับ มีสื่อให้เราโปรโมทผลงานเรา ตั้งเยอะแยะ ไม่เห็นต้องลงทุนสักบาทเดียว ขอให้มีไอเดียเด็ดๆ ก็พอละ เดี๋ยวเอาไว้ ผมมาเขียนรายละเอียดให้อ่านกัน ตอนต่อไป...
ปล.บทความนี้ มันเป็นแนวทางสำหรับต้นทุนน้อยๆ เอาไว้เป็นอีกทางเลือกนะครับ ยังไงซะ การทำ SEO มันก็มีผลที่ดีครับ ใช่ว่าไม่ดี อย่าเข้าใจผิดกัน แต่สำหรับผม ผมชอบแนวที่เป็นธรรมชาติ ยืนยันว่าไม่ได้ทำ SEO เลย ทำไม่เป็นด้วยครับ เคยศึกษาแล้ว ก็ยัง งงๆ กับมัน ค่าใช้จ่ายก็มาก ยกเว้นพวกการเล่นคำ การทำคีย์เวิร์ดภายในเนื้อหา อันนี้ต้องทำครับ เพราะไม่ต้องลงทุน ^^ ผมขอ "ก้าวไปเรื่อยๆ ก้าวอย่างสนุกและสร้างสรรค์ ก้าวย่างแห่งความสำเร็จ"
หาสไตล์ ความเป็นตัวตนให้เจอ สิ่งที่ตนรัก สิ่งที่ชอบ แล้วเราจะทำมันอย่างสนุก ทำให้ได้ดีสักอย่างก่อน เอาจริงกับมัน ให้เวลากับมัน หากทำสำเร็จสักเว็บ เว็บอื่นๆ ก็ไม่ยากละ เคยปลูกกุหลาบได้ ลีลาวดี คงไม่ยากเกินไป สู้ๆครับ
เป็นที่ฮือฮากันในวงการ Internet Marketing กับ กรณี โดนแบน Google Adsense กันเป็นจำนวนมาก แม้บางรายจะยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจน แต่ก็มีหลายๆ รายที่ผมพอจะทราบสาเหตุมาบ้างแล้ว ก็ยังคงคิดว่า Google ไม่ได้แบนมั่วเช่นเดิมครับ เพียงแต่ บางครั้ง เราอาจทำผิดกฏไป ผ่านไประยะยาว ยาว นานหลายปี จนคิดว่า คงไม่ผิดแน่ๆ ซึ่ง ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า Google จะตรวจสอบเว็บไซต์ของเราในช่วงระยะเริ่มต้น และสุ่มเป็นบางครั้ง และจะตรวจหนัก เมื่อโดนแจ้ง หากไม่มีใครแจ้งการละเมิดส่วนใดๆ ไป ก็น่าจะยังไม่มีปัญหา เพราะ Google ก็ยังคงได้รับผลประโยชน์จากเว็บไซต์ของเรา โดยเฉพาะ เว็บที่สามารถทำเงินได้มูลค่าสูง Google ย่อมไม่แบนง่ายๆ แน่นอน คิดง่ายๆ หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ ใครจะอยากตัดยอดกำไรตนเองหละ แต่ก็ต้องทำเพื่อความมั่นคงของระบบในระยะยาว ที่ผมเกริ่นนำมาแบบนี้ ก็เพื่อจะกระตุ้น น้องใหม่ ไฟแรง ที่ไฟเริ่มตก ให้มีแรงฮึดกันอีกครั้ง เพราะกระทู้นี้ แด่..รุ่นน้องที่คิดอยากจะทำ IM เป็นการแชร์ทริปประสบการณ์ เล็กๆ น้อยๆ ครับ แน่นอนว่า ทริปแบบนี้ รุ่นพี่คงทราบกันดีอยู่แล้ว ยังไง ก็ เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ
1. ทำเว็บอะไรดี ? จากบทความก่อน ผมจะเน้นให้ทำ เรื่องที่ชอบ ที่ตนถนัด แต่ก็มีปัญหาอยู่ที่ว่า แล้วเรา ชอบอะไร ? หลายๆ คน ยังหาตนเองไม่เจอ แน่นอนหละครับ มันเป็นเรื่องที่ยากมาก ยากยิ่งกว่าการคำนวณแคลคูลัสซะอีก ดูเหมือนจะง่าย แต่ไม่ง่ายนะครับ บางคนมาค้นพบว่าตนเองชอบอะไร ตอนแก่ก็ยังมีเลยนะ ก็เลยต้องตัดปัญหานั้นไปซะ ไม่งั้น ไม่เป็นอันทำอะไรกันพอดี การทำเว็บไซต์ หน้าที่หลักของเราก็คือ สร้างระบบขึ้นมา เพื่อ ขายข้อมูล สิ่งที่เราควรมีนั่นคือ ความรู้ แต่ถามว่า จำเป็นมั้ย ต้องเก่งก่อน จำเป็นมั้ย ต้องจบสายนั้นๆ มา จำเป็นมั้ย ? ตอบได้คำเดียวว่า ไม่จำเป็นครับ ความรู้ มันสามารถศึกษาเอาใหม่ได้แทบจะทุกศาสตร์ อาจมีเพียงบางศาสตร์ ที่จะทำความเข้าใจกับมันยากสักหน่อย เราก็อย่าไปยุ่งกับมันซะ เลือก หัวข้อหลักมันมาก่อน ว่าคุณจะทำเว็บอะไร จากนั้นก็ทำเนื้อหาบทความขึ้นมา ศึกษากันไปพร้อมๆ กับการทำเว็บไซต์ได้เลยครับ อย่างเช่น ผมอยากทำเว็บไซต์ สอนภาษาญี่ปุ่น เริ่มต้น ต้องทำอะไรบ้าง เรียนรู้การ สะกดคำ อ่าน เขียน ... เราก็ศึกษาเอง และสรุปใจความ สรุปข้อมูลต่างๆ ด้วยสไตล์ของเราเอง อัพขึ้นเว็บ แค่นั้นเองครับ ...
2. โดเมนอะไร โฮสไหนดี บทความก่อนหน้านี้ ผมพูดไว้ถึงเรื่องการสร้างแบรนด์ ก็ไม่ขอกล่าวซ้ำนะครับ ใครยังไม่อ่าน ดูลิงค์ด้านล่างที่ลายเซ็นได้เลย แต่จะมาขอย่อยเรื่อง โฮส หลายคนอาจสงสัยกับโปรโมชั่นต่างๆ โฮสแต่ละแห่ง มีแพคเกจมากมายให้เลือกกัน หรือ บางท่านวางแผนทำเว็บไซต์วาไรตี้ คิดการไกลไว้ว่า ต้องคนเยอะหลายหมื่น UIP โฮสคงจะไม่ไหวแน่ๆ ก็ขอบอกไว้ตรงนี้ว่า ใจเย็นๆ ครับ การอัพเกรดโฮส เป็นเรื่องที่ง่ายมาก การย้ายโฮส ก็เสียเวลาไปนิดหน่อยเอง ลงทุนน้อยๆ กันไปก่อน แนะนำให้เลือกแพคเกจต่ำสุดก่อนเลยครับ เมื่อทราฟฟิกสูงขึ้น ก็สามารถแจ้งผู้ดูแลโฮส เพื่อขอปรับแพคเกจได้ทันทีครับ เพียงแค่เสียเงินเพิ่มในส่วนต่างเท่านั้น แถมไม่ได้คิดเงินเต็มจำนวนด้วยนะครับ ทางโฮสติ้ง จะคิดเป็นค่าเฉลี่ย จากจำนวนวันที่เราเคยใช้มาแล้ว ส่วนจะเลือกผู้ให้บริการรายไหน อันนี้ผมไม่ขอแนะนำนะ ลองค้นหากันเองดีกว่า ไม่งั้น ผมอาจโดนด่าได้ ฮาฮา บอกได้คำเดียวว่า มีทั้ง แย่มาก แย่ เฉยๆ ดี ดีมาก ดีโครตมาก การให้บริการหลังการขาย เป็นสิ่งสำคัญมากครับ ส่วนเรื่อง VPS สำหรับเว็บไซต์น้องใหม่ ยังไม่จำเป็นก่อนครับ รอให้ทราฟฟิกมันเติบโตก่อน ค่อยว่ากัน โฮสธรรมดา UIP 15000 PV 50000 ต่อวัน สบายชิวๆ มากครับ (ขึ้นอยู่กับสคริปต์)
3. แฟนเพจ อย่างที่ทราบกัน สังคมออนไลน์ มีบทบาทกับทุกๆ ประเทศทั่วโลกมานานหลายปีแล้ว และยิ่งเติบโตกันอย่างรวดเร็ว ผมมองสังคมออนไลน์ Social Media เป็นระบบที่มีโครงสร้างเช่นเดียวกับ ระบบขายตรง อาทิเช่น แอมเวย์ เอ็มสตาร์ ซูเลียน ระยะแรกๆ เหนื่อยมากครับ กว่าจะได้แฟนเพจมาแต่ละคน เหนื่อยจริงๆ จากประสบการณ์สร้างแฟนเพจมาหลายๆ ครั้ง ก็แตกต่างกันแต่ละเว็บไซต์ แต่ละหมวดเนื้อหาเว็บ อันนี้ต้องทำใจนะครับ เนื้อหาบางหมวด อาจมีกลุ่มผู้ใช้ไม่เยอะ แฟนเพจสัก สองสามพัน ก็ถือว่าเทพแล้วครับ แต่หากเป็นจำพวกบันเทิงทั่วไป แฟนเพจหนึ่งหมื่น ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ขอวกกลับมาเรื่อง ระบบขายตรงกันก่อนนะ ระบบดังกล่าว เป็นการสร้างฐานเครือข่าย เช่นเดียวกับแฟนเพจ นั่นหมายถึงว่า ช่วงแรกๆ เครือข่ายเราน้อย การกระจายข้อมูลก็น้อย คนเห็นน้อย ก็จะโตช้า แต่เมื่อไหร่ที่มันโตแล้ว โอกาสการเติบโต ก็จะขยายเร็วเป็นเท่าตัว เราจะทำงานเบาขึ้น เพราะเครือข่ายมันจะทำงานให้เราเอง หากใครเคยเข้าอบรบระบบขายตรง ก็จะทราบดีว่า ระดับบิ๊กๆ แทบจะไม่ต้องทำงานแล้วครับ ปล่อยของเล็กๆ น้อยๆ นอกนั้นให้เด็กใหม่ไปทำงานกัน แต่รายได้รับเยอะกว่าใคร สิ่งที่ผมจะสื่อให้เห็นนั่นคือ ควรทำแฟนเพจไว้ได้เลยทันที เมื่อเริ่มต้นทำเว็บไซต์ และทำปลักอินไว้ในเว็บ เพื่อให้คนกดไลค์กันด้วยนะครับ ส่วนกรณีปั่นไลค์ อันนี้ผมก็ไม่ขอกล่าวถึงนะครับ ไม่ได้เป็นวิถีคุณภาพนัก
4. จัดการกับสคริปต์ มีข้อมูล โดเมน มีโฮสติ้ง ยังขาดอีกองค์ประกอบนั่นคือ สคริปต์ หรือ ชุดโปรแกรมระบบ ที่จะช่วยให้การทำงานของเรา ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นหน้าตา ที่จะได้ไปเชิดหน้า ชูตา สู่สังคมโลกออนไลน์ หากเป็นน้องใหม่ ที่ไม่มีความรู้ด้านการโปรแกรมเว็บไซต์ หรือการเขียนโค้ดมากนัก CMS ย่อมเป็นคำตอบที่ ง่ายที่สุด ไม่ว่าจะ Wordprss Joomla หรืออื่นๆ จัดการได้ง่าย เรียนรู้ง่าย ช่วงแรกๆ อาจต้องมั่วๆ ไปก่อน ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ถือว่า นี่คือการเรียนรู้ ส่วนตัวแล้ว แนะนำให้ลองเล่นของจริงไปเลยครับ ไม่ต้องเสียเวลาไปเล่นแบบจำลองบนเครื่อง เล่นเซิฟจริง อัพจริงกันไปเลย เพราะหากไปจำลอง ต้องมานั่งศึกษาเรื่องโปรแกรมจำลอง โน่น นี่ ยุ่งยาก พอเป็นแล้วจะอัพจริง ก็ต้องมาศึกษาการอัพขึ้นโฮสติ้งอีกครั้ง จากประสบการณ์แล้ว การทำบนระบบจริง มันมีข้อดีหลายๆ อย่าง เช่น เมื่อเกิดข้อผิดพลาด เราสามารถโพสถามในเว็บบอร์ด และให้ท่านผู้รู้หลายๆ ท่าน มาช่วยตอบให้ได้ แต่หากเราใช้ระบบจำลอง แน่นอนว่า เราเห็นบนคอมพิวเตอร์เราแค่คนเดียว ท่านเทพทั้งหลาย แม้จะเทพ แต่ก็มิอาจหยั่งรู้ มโนภาพได้อย่างชัดเจน ก็ทำให้ช่วยได้ลำบากยิ่งขึ้น นี่ก็เป็นข้อดี ที่ทำกับระบบจริง อีกทั้ง เราได้คุ้นมือด้วยครับ ในระยะเริ่มต้น อาจลบ ทำใหม่ ลบ ทำใหม่ ก็ช่างมัน ต้องฝึกฝนกันไป ในส่วนเรื่องรายละเอียด ก็ไปหากันเองนะครับ ผมคงไม่กล่าวถึงส่วนนั้น ว่าต้องทำอะไรบ้าง เพราะข้อมูลแบบนี้ Google ไม่ชอบนัก มันไม่สด ผมไม่เสียเวลาเขียน ฮาฮา เป็นปัจจัยของ SEO ไปในตัว
5. ปลั๊กอิน ตอนแรกผมคิดว่า จะคุยเรื่องปลั๊กอินในข้อ 4 แต่โม้ยาวไปเรื่องอื่น เลยจัดเป็นหัวข้อใหม่ซะเลย ผมโพสบทความนี้สดๆ ไม่ได้เรียบเรียงนะครับ หากอ่านวกวนสับสน ก็ไม่ว่ากันนะ ผมไม่อ่านทวนด้วยครับ เพราะดึกละ ง่วง .. สำหรับน้องใหม่ ในช่วงแรก อาจชอบติดตั้งปลั๊กอินมั่ว เป็นเรื่องที่ดีครับ เพราะเราจะได้เรียนรู้ และศึกษางานไปในตัว แต่ ระวังภัยร้าย ที่จะแฝงมา ปลั๊กอินส่วนใหญ่ที่เรานิยมใช้กัน เป็นของฟรี แน่นอนหละ โดยเฉพาะมือใหม่ คงไม่อยากจ่ายตังค์กันให้มากมาย ประหยัดไว้ก่อน ของฟรี มันก็ดีนะครับ แต่ระวังมีโปรโมชั่นของแถมมาให้ ของแถมเหล่านี้ อาจเป็นภัยร้ายต่อเว็บไซต์ของคุณได้ นั่นก็คือมัลแวร์ หรือ ไวรัสอื่นๆ ที่จะแฝงมาในสคริปต์ของปลั๊กอิน อันตรายมากๆ ครับ ผมแนะนำว่า หลังจากที่ทดสอบสคริปต์กันแล้ว ให้เครียร์ออกให้หมด และใช้มันเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น อันไหนไม่ได้ใช้ก็ควรลบทิ้งไป ไม่งั้น อนาคต เว็บไซต์ของคุณ อาจโดน Google บล็อกทิ้งไปก็ได้ครับ หากเป็นไปได้ ใช้ปลั๊กอินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ อันไหนทำโค้ดขึ้นมาเองได้ ก็ควรทำเองครับ
จบละ นึกออกแค่ 5 ข้อ เพราะเรื่องอื่นๆ เคยเขียนไปแล้วด้วย
อ่านบทความอื่นๆ ตามลายเซ็นนะครับ ไว้คราวหน้า จะมาเขียนเรื่องการทำธุรกิจด้านอื่นๆ ที่ไม่ใช่ Adsense ตอนนี้ผมกำลังศึกษาอยู่หลายๆ ด้าน เพราะ บางท่านที่โดนแบนไป ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน จะขาวขุ่น หรือ ขาวผ่อง ก็ไม่แน่ใจ ไม่แน่ ไม่นอน สิ่งที่แน่นอน เราควรเตรียมมือพร้อมรับไว้ก่อน รายได้ทางเดียว มันเสี่ยงไป แต่ทั้งนี้ หากเว็บเรามีคุณภาพ ย่อมไม่เสียเปล่าแน่นอนครับ โดยเฉพาะ หากใครเคยอ่านบทความก่อน ที่ผมเน้นเรื่องการสร้างแบรนด์ หากเว็บของคุณมีชื่อเสียงแล้ว มีทราฟฟิก ย่อมมีรายได้ หาช่องทางให้เจอครับ หากผมหาเจอและมันทำเงินได้ดี จะมาบอกต่อกันอีกครั้ง บทความนี้ อาจวิชาการไปหน่อย ไว้สำหรับน้องใหม่ ที่อยากจะหันมาหารายได้พิเศษ ในการทำ IM หวังว่า ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ นี้ อาจมีประโยชน์ ไม่มากก็น้อย ในระยะเริ่มต้น ขอฝากไว้ว่า อย่าใจร้อน การทำงาน เราควรทำงาน เพื่อการเรียนรู้ เป็นหลัก และเพื่อหวังเงิน เป็นรอง การทำเว็บไซต์ หากจะคิดไปแล้ว ก็เหมือนกับการทำบุญไปในตัวนะครับ เราให้ความรู้ เราให้แนวทางผู้ใช้งานเว็บไซต์ แน่นอนว่า หากข้อมูลของเราดี เป็นประโยชน์ ผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์ ก็จะได้ประโยชน์นั้นไป และพวกเขาก็คงคิดขอบคุณอยู่ในใจ เชื่อไหมว่า แรงแห่งการขอบคุณนั้นหละ มันมีพลังงาน ส่งถึงมายังผู้สร้างเว็บไซต์ ก่อเกิดสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า "บุญกุศล" ยิ่งหากเขานำความรู้ ส่งต่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม เราก็จะยิ่งได้รับบุญกุศลนี้ เป็นทอดๆไป เปรียบเสมือนระบบในเครื่อข่ายสังคมออนไลน์ กระจายบุญไปไกลไม่มีที่สิ้นสุด หากคิดได้เช่นนี้ ผมเชื่อว่า เว็บไซต์ของเรา จะมีคุณภาพมากยิ่งนัก มาสร้างบุญกันเถอะ ... โชคดีครับ
เครดิต: ThaiSEOBoard
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น