มือใหม่กับคู่มือ SEO

SEO คืออะไร ?



หลายคนคงจะได้ยินกับคำว่า SEO กันมาบ้างแล้วนะครับ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย แต่หลายคนก็ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหน จะทำอย่างไร ถึงจะเรียกว่าการทำ SEO วันนี้ผมมีคำตอบให้ครับ ใครที่สนใจในเรื่อง SEO ก็จะได้มีแนวทางในการต่อยอดหาความรู้ หาเทคนิคใหม่ๆ ต่อ ๆ ไป บทความนี้เป็นเพียงบทความ แนะนำพื้นฐานส่วนหนึ่งในการทำ SEO เท่าที่ผมรู้นะครับ เพราะว่าการทำ SEO มันมีการพัฒนา มีเทคนิคใหม่ อยู่เสมอ แต่รับรองได้เลยครับว่า บทความที่ผมจะนำเสนอต่อไปนี้ จะมีค่าสำหรับมือใหม่อย่างแน่นอนครับ

สงสัยทำไมเว็บที่มี Backlink น้อยๆ ได้อันดับดีกว่าเว็บที่มี backlink เยอะ


คำถาม : สงสัยทำไมเว็บที่มี Backlink น้อยๆ ได้อันดับดีกว่าเว็บที่มี backlink เยอะๆครับ
 ผมเห็นอันดับ 1 หลายคีย์มากครับเว็บนี้ ซึ่ง backlink ประมาณ 90 กว่าๆ เองอ่ะครับ แต่คู่แข่ง backlink เป็นพันๆ หมื่นๆ เขาทำยังไงอ่าครับ

เราควรใส่ keyword ในเว็บเพจตรงใหนดี ?

เราควรใส่ keyword ในเว็บเพจตรงใหนดี ?



  1. ใช้ keyword ที่บริเวณ ชื่อหน้าเพจ (Title) ให้เราใส่ Keyword ที่เราต้องการจะใส่โดยให้น้ำหนักจากการเรียงจาก ซ้ายไปขวา อันนี้สำคัญที่สุด ห้ามขาดหรือลืมใส่เด็ดขาด เพราะจะทำให้ Search Engine ไม่ทราบว่าเนื่อหาของเราเกี่ยวกับอะไร โดย search engine จะ Title เป็นข้อหัวหลัก แล้วเอาเนื้อหามาเป็นตัวเพิ่มคะแนนของเว็บเพจนั้นๆ
  2. ใช้ keyword ที่บริเวณชื่อหัวข้อของเนื้อหา (Heading tag) โดยการใช้ H1,H2,H3 เป็นต้น แต่ไม่ควรใส่ keyword ในทุกๆ H ใส่แค่ H1 หรือ H2 ก็พอ
  3. ใช้ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาในส่วนแรก (First Content) ให้ใส่ Keyword ไว้ในตำแหน่ง 20 คำแรกโดยประมาณ ให้ชัดเจน หรืออาจจะใช้ตัวอักษรลักษณะเอียงก็ได้
  4. ใช้ keyword ที่บริเวณ ลิงค์เชื่อมโยงมาตรฐาน (Standard Text Link) คือการเชื่อมโยงในลักษณะ การใช้ Text link เป็นตัวเชื่อมโยง แล้วแทรก Keyword ผสมเข้าไปด้วย
  5. ใช้ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาในส่วนสุดท้ายของหน้า (The last content) เพื่อเน้นย้ำหรือใช้ในการสรุปเนื้อหา อาจจะใช้เป็นลักษณะตัวเอียงหรือหนา (แนะนำให้ใช้ tag <b>คีย์เวิร์ด</b> แทน <strong>คีย์เวิร์ด</strong> เพราะ Search Engine ชอบ HTML แบบเก่ามากกว่าแบบใหม่) ก็ ได้ครับ
  6. ใช้ keyword ที่บริเวณ เมนูเลื่อนลง (Drop Down Menu) Drop down menu นี้เป็นที่ซ่อน Keyword ที่ดีอีกที่ที่ไม่ควรมองข้าม
  7. ใช้ keyword ตั้งชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ (Folder name, File name) วิธีนี้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจพอสมควรครับกับการทดลองใช้ในหลายๆ เว็บที่ผมลอง หากต้องใช้ Keyword มากกว่า 1พยางค์ ควรใช้เครื่องหมาย ?-? เป็นตัวคั่นกลาง
  8. ใช้ keyword ที่บริเวณ คำอธิบายรูปภาพ (Images alt tag) การใช้ tag alt เข้าช่วยนั้นเพราะว่า Search Engine นั้นไม่รู้จักรูปภาพเราสามารถบอก Search Engine ให้รู้ว่าภาพนั้นเป็นภาพของอะไรได้โดยใช้ tag alt=?keyword? นี้เข้าช่วย
  9. ใช้ keyword ที่บริเวณ คำอธิบาย ลิงค์ (Text link title) การใช้ text link title นั้นคลายการใช้ tag alt เพียงแต่ tag นี้ใช้อธิบาย link
  10. ใช้ keyword จด Domain name ด้วย Keyword (Domain name register) การใช้ Keyword หลักของเว็บในการจด Domain name นั้นหากทำได้ดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้วครับ
  11. ในส่วนของเนื้อหา ให้เน้น keyword ด้วย tag <b>คีย์เวิร์ด</b> ซัก 2-3 แห่ง แต่ต้องระวังไม่ใส่มากเกินไป
  12. ในช่วย ย่อหน้าแรกๆ ควนใส่คีย์เวิร์ด ใน tag < p> ประมาณ 2 ครั้ง จะเป็นการดี

http://www.seoido.com/seo-website/useing-keywords-in-webpage-100.html#more-100

SEO คืออะไร มาทำความรู้จักมันให้มากขึ้นกันดีกว่า



บทความที่สองกับบอร์ดแห่งนี้
ผมก็อยู่บอร์ดนี้มาเกือบ ๆ 1 ปีแล้ว
ขอบ่นพรึมพรำให้มือใหม่ได้อ่านกันหน่อยไม่รู้
บทความมันจะไปซ้ำกับใครหรือป่าว
ถ้าซ้ำก็ขออภัยด้วยนะครับผม ...


กระทู้นี้ก็จะมาพูดเรื่องการทำ SEO
ว่าการทำ SEO มันต้องใช้อะไรบ้าง
จริง ๆ ผมก็ยังไม่เก่งอะไรหรอกครับ
กำลังศึกษาไปเรื่อย ๆ ก็นำมาแชร์เท่าที่ผมรู้
อาจจะเป็นประโยชน์สำหรับบางคน
และในขณะเดียวกันอาจจะไม่เป็นประโยชน์สำหรับบางคน
ใครรู้แล้วก็ผ่านเลยก็ได้นะครับผม ...

Text Link คืออะไร

Text Link  คือ


Link บนหน้าเว็บของคุณซึ่งไม่ว่าจะเป็น Link ภายในเว็บไซด์ หรือ Link ที่ออกไปสู่เว็บไซด์อื่นๆ ก็ตาม ไม่ว่ากรณีใดของเว็บไซด์คุณก็ตาม Link ต่าง ๆ ก็ควรชัดเจนเช่นกัน เพื่อให้ผู้ใช้นั้นสามารถเข้าใจได้ง่าย และ Google ก็จะเข้าใจได้ด้วยว่า Link ที่คุณกำลังเชื่อมโยงในเว็บไซด์นั้น เกี่ยวกับเรื่องใด


วิธีปฏิบัติการทำ Text Link ตามหลัก Google




1. เลือกข้อความที่ได้ใจความ ข้อความที่ใช้ในการทำ Link นั้นอย่างน้อยก็ควรเป็นคำที่อ่านแล้วเข้าใจได้ว่า Link ที่จะไปต่อนั้นเกี่ยวกับเรื่อง อะไร

  • หลีกเลี่ยง
การเขียนข้อความด้วยคำทั่วไป หรือคำที่มีความหมายกว้างๆ เช่น click here หรือ คลิกที่นี่ (เห็นบ่อยมาก พวก click here นี่)
คำที่ไม่เกี่ยวข้อใดๆ กับเนื้อหา หรือ คำที่หลุดประเด็นไปเลย
การใช้ (.) เฉยๆ เคยเห็นอยู่เหมือนกัน พวกที่เป็น จุด 3 จุดอะไรพวกนี้ก็ไม่ควรเหมือนกันนะครับ
การนำ URL ไปแปะเอาเลย ก็ไม่ควร


2. เขียนข้อความให้กระชับ เรียกได้ว่า ต้อง สั้น ง่าย ได้ใจความ อ่านแล้วรู้เรื่องเลยทันที



  • หลีกเลี่ยง

  1. การเขียนข้อความยาวๆ
3. ทำ Link ให้สะดุดตา ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรคือข้อความ ธรรมดาทั่วไป อะไรเป็น Link
  • หลีกเลี่ยง

การใช้ CSS ในการปรับแต่งให้ Link มีลักษณะเหมือนกับข้อความทั่วๆ ไป (เคยเห็นอยู่พอสมควรเหมือนกัน)


4. อย่าลืมนึกถึงข้อความสำหรับ Link ภายในด้วย คนส่วนมากมักจะนึกถึงข้อความสำหรับ Link ที่ออกไปสู่เว็บต่างๆ แต่ขอให้จำไว้อย่างนึง ว่า Link ภายในก็สำคัญไม่แพ้กันโปรดใส่ใจมันให้มากกว่านี้ด้วยนะครับ เพราะมันจะช่วยในการนำทาง Google มายังเว็บไซด์ได้มากยิ่งขึ้น

  • หลีกเลี่ยง
การพยามเอา Keyword มาทำเป็น Link ข้อความมากเกินความจำเป็น หรือ เยิ่นเย้อ เพื่อดึงดูด Search Engine สร้าง Link เยอะเกินความจำเป็น ซึ่ง เป็น Link ที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อการใช้งานเว็บไซด์

วันนี้มีเพียงแค่ 4 ข้อเท่านั้นผมจึงอยากให้ทุกๆ คน สามารถทำได้เพราะมันไม่ยากจนเกินไปนะครับ แล้วเจอกันใหม่ใน บทความ หน้า วันนี้สวัสดีครับ


เครดิต: http://seo.clisk.co.th

สอนหลักการทำ seo เบื้องต้น

Seoblogthai

Google Page Rank (PR) คืออะไร ?



Google Page Rank (PR) คืออะไร ช่วยได้เรื่อง SEO ได้จริงหรือ

สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่า Google Page Rank (PR) คืออะไรช่วยในการทำ SEO ได้จริงๆ หรือป่าว ผมขออธิบายเรื่อง Google Page Rank (PR) ก่อนว่า Google Page Rank (PR) นั้นมีช่วงเวลาระยะนึ่งที่ทาง Google เขาได้ยกเลิกการใช้ Google Page Rank (PR) ในการเลื่อนอันดับไปในสักพักนึ่ง แต่ว่าในปัจจุบันนี้ก็ยังใช้ได้นำเอา Google Page Rank (PR) มาใช้เหมือนเดิม เพราะ Google Page Rank (PR) ยังสามารถคัดเว็บที่มีคุณภาพได้อยู่นั้นเอง แต่ผมจะมาบอกเพื่อนๆ ที่ยังไม่ทราบว่า Page Rank (PR) คืออะไร ผมขออธิบายให้คุณผู้อ่านทราบในบรรทัดข้างล่างนี้

"Google" เผยสถิติคำค้นหายอดฮิตประจำปี 2013



 "Google" เผยสถิติคำค้นหายอดฮิตประจำปี 2013 ของทั่่วโลกและประเทศไทยในหมวดต่างๆ พบว่า บอย ปกรณ์ , หญิงลี ศรีจุมพล , พี่มากพระโขนง , คุณชายพุฒิภัทร , iphone 5s ติดอันดับ 1 รายชื่อคำค้นหามากที่สุดเซียน seo ตาลุกวาว

เว็บไซต์ชื่อดัง Google เผยสถิติคำค้นหายอดฮิตประจำปี 2013 ของทั่่วโลกและประเทศไทย ในหมวดต่างๆ ซึ่งพบว่า ชื่อของศิลปินดาราฝ่ายชายที่ถูกค้นหามากที่สุดเป็นอันดับ 1 ได้แก่ "บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์" ส่วนฝ่ายหญิงตกเป็นของนักร้องลูกทุ่งสาว "หญิงลี ศรีจุมพล" ขณะที่ชื่อภาพยนตร์จอเงินที่ถูกค้นหามากที่สุดเป็นอันดับ 1 ได้แก่ ภาพยนตร์แห่งปี "พี่มากพระโขนง" ส่วนชื่อของละครจอแก้วที่ถูกค้นหามากที่สุดเป็นอันดับ 1 ได้แก่ "คุณชายพุฒิภัทร" โดยสถิติคำค้นหายอดฮิต ประจำปี 2013 แต่ละหมวดต่างๆ หมวดละ 10 อันดับ ประกอบด้วย

คนค้นแบรนด์ดัง
อันดับ 1   -   แอร์เอเชีย
อันดับ 2   -   นกแอร์
อันดับ 3   -   ดีแทค
อันดับ 4   -   Samsung
อันดับ 5   -   AIS
อันดับ 6   -   กสิกรไทย
อันดับ 7   -   ไปรษณีย์ไทย
อันดับ 8   -   การบินไทย
อันดับ 9   -   ธนาคารกรุงเทพ
อันดับ 10 -   เมเจอร์

คนดังประจำปี (ฝ่ายชาย)
อันดับ 1   -   บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์
อันดับ 2   -   ณเดชณ์ คูกิมิยะ
อันดับ 3   -   บัวขาว-สมบัติ บัญชาเมฆ (บัวขาว ป.ประมุข)
อันดับ 4   -   หมาก-ปริญ สุภารักษ์
อันดับ 5   -   ไผ่ พงศธร ศรีจันทร์
อันดับ 6   -    สายัณห์ สัญญา
อันดับ 7   -    แกงส้ม-ธนทัต ชัยอรรถ (แกงส้ม เดอะสตาร์)
อันดับ 8   -    เจสัน ยัง
อันดับ 9   -    เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข
อันดับ 10 -    โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ (โตโน่ เดอะสตาร์)

คนดังประจำปี (หญิง)
อันดับ 1   -   หญิงลี ศรีชุมพล
อันดับ 2   -   ใบเตย อาร์สยาม
อันดับ 3   -   ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์
อันดับ 4   -   เจนี่ อัศวเหม
อันดับ 5   -   ต่าย อรทัย
อันดับ 6   -   ตั๊กแตน ชลลดา
อันดับ 7   -    แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์
อันดับ 8   -    เนย-โชติกา วงศ์วิลาศ
อันดับ 9   -   ตั๊ก-บงกช คงมาลัย
อันดับ 10 -   แย้-นนทพร ธีระวัฒนสุข (หญิงแย้)

คำค้นดาวรุ่งพุ่งแรงประจำปี
อันดับ 1   -   เดี่ยว 10
อันดับ 2   -   คุณชายพุฒิภัทร
อันดับ 3   -   พี่มากพระโขนง
อันดับ 4   -   ฮอร์โมนวัยว้าวุ่น
อันดับ 5   -   ทองเนื้อเก้า
อันดับ 6   -   iphone 5S
อันดับ 7   -   โดเรม่อน
อันดับ 8   -   ภูมิแพ้กรุงเทพ
อันดับ 9   -   คุกเข่า
อันดับ 10 -   แน่นอก

คำค้นยอดนิยมประจำปี
อันดับ 1   -   รถมือสอง
อันดับ 2   -   ราคาทอง
อันดับ 3   -   คนอวดผี
อันดับ 4   -   นารูโตะ
อันดับ 5   -   พยากรณ์อากาศ
อันดับ 6   -   พี่มากพระโขนง
อันดับ 7   -   พระเครื่อง
อันดับ 8   -   คุกเข่า
อันดับ 9   -   หางาน
อันดับ 10 -   เดี่ยว 10

คำค้นยอดนิยมประจำปี (จากสมาร์ทโฟนและแท๊บเล็ต)
อันดับ 1   -   ราคาทองคำวันนี้
อันดับ 2   -   พยากรณ์อากาศ
อันดับ 3   -   รถมือสอง
อันดับ 4   -   นารูโตะ
อันดับ 5   -   คนอวดผี
อันดับ 6   -   Dealfish
อันดับ 7   -   จันดารา
อันดับ 8   -   นกแอร์
อันดับ 9   -   พี่มากพระโขนง
อันดับ 10 -   แอร์เอเชีย

ตามข่าวจากสื่อ
อันดับ 1   -   Sanook
อันดับ 2   -   Kapook
อันดับ 3   -   ไทยรัฐ
อันดับ 4   -   สยามกีฬา
อันดับ 5   -   Mthai
อันดับ 6   -   Pantip
อันดับ 7   -   Manager
อันดับ 8   -   ข่าวสด 
อันดับ 9   -   ช่อง 3
อันดับ 10 -   ช่อง 7

ท่องเที่ยวและที่พัก
อันดับ 1   -   เกาะล้าน
อันดับ 2   -   เอเชียทีค
อันดับ 3   -   สวนสยาม
อันดับ 4   -   เกาะช้าง
อันดับ 5   -   ที่พักหัวหิน
อันดับ 6   -   เกาะเสม็ด
อันดับ 7   -   ดรีมเวอร์
อันดับ 8   -   พัทยา 
อันดับ 9   -   เกาหลี
อันดับ 10 -   เชียงราย

ภาพยนตร์
อันดับ 1   -   พี่มากพระโขนง
อันดับ 2   -   จันดารา
อันดับ 3   -   น้ำตาลแดง
อันดับ 4   -   คู่กรรม
อันดับ 5   -   คุณนายโฮ
อันดับ 6   -   ก้านกล้วย
อันดับ 7   -   แหยมยโสธร 3
อันดับ 8   -   ทองสุก 13
อันดับ 9   -   ผู้หญิง 5 บาป
อันดับ 10 -   ไอรอนแมน 3

ละครโทรทัศน์
อันดับ 1   -   คุณชายพุฒิภัทร
อันดับ 2   -   ทองเนื้อเก้า
อันดับ 3   -   แรงปรารถนา
อันดับ 4   -   แค้นเสน่หา
อันดับ 5   -   พรพรหมอลเวง
อันดับ 6   -   บ่วงบาป
อันดับ 7   -   ดาวเกี้ยวเดือน
อันดับ 8   -   ฟ้าจรดทราย  
อันดับ 9   -   มนต์จันทรา
อันดับ 10 -   อาญารัก

สถาบันการศึกษา-มหาวิทยาลัย
อันดับ 1   -   มสธ. (มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช)
อันดับ 2   -   มมส. (มหาวิทยาลัยมหาสารคาม)
อันดับ 3   -   รามคำแหง (มหาวิทยาลัยรามคำแหง)
อันดับ 4   -   มศว. (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ)
อันดับ 5   -   จันทรเกษม (มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม)
อันดับ 6   -   Reg Chula (สำนักงานการทะเบียน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
อันดับ 7   -   สวนสุนันทา (มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา)
อันดับ 8   -   Rmutt (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี)
อันดับ 9   -   มจพ. (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ)
อันดับ 10 -   ลาดกระบัง (สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง)

เพลงและมิวสิควิดีโอ
อันดับ 1   -   คุกเข่า
อันดับ 2   -   แน่นอก
อันดับ 3   -   ไม่บอกเธอ
อันดับ 4   -   แค่คุณ
อันดับ 5   -   ลมเปลี่ยนทิศ
อันดับ 6   -   ภูมิแพ้กรุงเทพ
อันดับ 7   -   อาย
อันดับ 8   -   แสงสุดท้าย
อันดับ 9   -   โป๊
อันดับ 10 -   พูดไม่ค่อยถูก

เสาะหารถรุ่นถูกใจ
อันดับ 1   -   Vios 2013
อันดับ 2   -   Nissan Pulsar
อันดับ 3   -   Isuzu Mu-x
อันดับ 4   -   Mitsubishi Attrage
อันดับ 5   -   Accord 2013
อันดับ 6   -   MSX 125
อันดับ 7   -   Z250
อันดับ 8   -   Mazda CX-5
อันดับ 9   -   Suzuki Ertiga
อันดับ 10 -   Zoomer-X

แก็ดเจ็ตและเทคโนโลยี
อันดับ 1   -   iphone 5s
อันดับ 2   -   ios 7
อันดับ 3   -   iphone 5c
อันดับ 4   -   ipad mini
อันดับ 5   -   Samsung Galaxy S4
อันดับ 6   -   Samsung Galaxy Grand
อันดับ 7   -   Note 3
อันดับ 8   -   Nokia Lumia
อันดับ 9   -   Nokia Asha 501
อันดับ 10 -   Baidu PC Faster


ข้อมูลจาก   :   Google Zeitgiest

On page SEO สำหรับ Blogger

On page SEO Blogger




On page SEO สำหรับ Blogger นั้นหมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ Search Engine สามารถมองเห็นได้จากบล็อกของเรา ซึ่งประกอบไปด้วย

► Keyword in Domain Name
► Keyword in Title Tag
► Keyword in Description Meta Tag, Keyword Meta Tag
► Keyword in URL
► Keyword in H1, H2 and H3
► Keyword Density in Body Text
ถ้าเราปรับแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ เหล่านี้ให้ดีบล็อกของคุณก็จะมีโอกาส ติด Index ได้ง่าย โดยหลังจากที่ใช้เวลาทดลองอยู่ประมาณ 6 เดือนก็พบว่าบล็อกที่ผมสร้างนี้ติด Index ในหลาย ๆ Keyword แม้ว่าอาจจะไม่ติดอันดับ 1 แต่ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในหน้าแรก ผมจึงนำมาเรียบเรียงและเสนอแนะการปรับแต่งในบทความนี้ ตามสไตล์ของผมเอง ซึ่งคุณจะทำตามหรือไม่ทำตามก็ได้ โดยผมจะค่อย ๆ นำเสนอไปทีละอย่างที่พอจะปรับแต่งกันได้พร้อมทั้งอธิบายเหตุผลเพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรจะทำตามดีหรือไม่

สอนมือใหม่สร้างเว็บ 120,000 หน้า








สอนมือใหม่สร้างเว็บ 120,000 หน้า






อ้างอิง : จากที่เคยสัญญาไว้ http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,13326.0.html

ในระหว่างที่ผมไปสัมมนาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (ไม่ได้สัมมนาเกี่ยวกับ Google นะครับ สัมมนาวิชาการของหน่วยงานของผมเอง) ผมก็พยายามคิดหาวิธีที่จะทำให้มือใหม่สามารถมีเว็บได้โดยไม่ต้องปั่นหรือ Gen เว็บ และที่สำคัญต้องสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้เอง

ผมไม่มีเวลามากนักที่จะเข้ามา Post หรือตอบคำถามในบอร์ดนี้ เนื้อหาทั้งหมดนี้ ผมเขียนขึ้นในช่วงที่ไปสัมมนาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และนำมา Post ในวันนี้ และก็คงต้องออกจากบอร์ดนี้ไปทันที เพราะต้องเตรียมเอกสารและเนื้อหาหลักสูตรสำหรับสอน XML ในสัปดาห์หน้า จะกลับมาอีกครั้งวันจันทร์ที่ 27 ส.ค.2550 หากมีคำถามหรือข้อสงสัยใดๆ ก็ลองถามเพื่อนๆในบอร์ดนี้ดู หรือจะเก็บมาถามผมก็ได้เมื่อผมกลับมา

ที่ผ่านมา เพื่อนๆในบอร์ดนี้จะเอื้อเฟื้อ Tools, Programs, Data โดยการให้ Download แล้วต่างคนก็เอาไปพัฒนากันเอง สุดท้าย....คนที่ได้รับประโยชน์ก็คือกลุ่มที่มีความรู้ระดับปานกลางถึงสูง ส่วนมือใหม่ล่ะ ถึงจะ Download ไป ก็ใช้ไม่เป็น สุดท้ายก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่มือใหม่อยู่ดี

ดังนั้น ในครั้งนี้ผมจะไม่ปล่อยให้ Download Script แล้วต่างคนต่างไปพัฒนากันเอง (แต่ถ้าใครจะนำไปพลิกแพลงต่อยอดทำเองก็ได้ครับ คนในบอร์ดนี้เก่งๆกันอยู่แล้ว) ผมจะสอนมือใหม่สร้างเว็บแบบเป็นขั้นเป็นตอน (Step by Step) ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากที่มือใหม่ทำตามขั้นตอนนี้แล้ว คุณจะมีเว็บเป็นของตัวเองมากกว่า 120,000 หน้า พร้อมทั้งยังได้รับเทคนิคพิเศษอื่นๆ ที่มือใหม่ควรจะรู้

“ผมไม่อยากหาปลามาให้มือใหม่กิน..... แต่ต้องการสอนให้มือใหม่สามารถหาปลากินเองได้”

ขั้นตอนที่ผมจะสอนและแนะนำให้กับมือใหม่ มีดังนี้ครับ

1. การสร้างฐานข้อมูล (เริ่มต้นสร้างฐานข้อมูล ขนาด 500 หน้า)
2. การสร้าง Script สำหรับแสดงเว็บ
3. การสร้างเว็บให้กับ Sub Domain ด้วยไฟล์เพียงไฟล์เดียว
4. Dump ข้อมูลลง Database กว่า 120,000 หน้า โดยใช้ Big dump
5. การสร้าง sitemap.xml และการ add sitemap เข้า Google
6. การ Verify เว็บของเราใน Google
7. สอนจระเข้ว่ายน้ำ ตอนที่ 1 “keyword มหัศจรรย์ คลิกละ $2.50”
8. สอนจระเข้ว่ายน้ำ ตอนที่ 2 “ทำอย่างไรให้ CTR มากกว่า 50 %”

(คงต้องชี้แจงก่อนนะครับว่า ผมเขียน Script ขึ้นมาเอง และเนื้อหาทั้งหมดนี้ ก็เป็นประสบการณ์ของผมเอง และเป็นการทำแบบ White Hat ทั้งหมด ซึ่งทุกคนที่ทำตามคำแนะนำของผม อาจจะได้ผลหรือไม่ได้ผลเหมือนกับที่ผมทำก็ได้ มันขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายซึ่งบางครั้งก็หาคำตอบไม่ได้ซะด้วยซิ แต่อย่างน้อยๆ ถ้าคุณทำตามคำแนะนำ คุณก็จะมีเว็บเป็นของตัวเองแล้วหล่ะ)

หมายเหตุ ตอนแรกตั้งใจจะสอนวิธีการทำ SEO และ SEM ด้วย แต่ไม่แน่ใจกฎใหม่ของ Google เรื่องการ Link เพราะฉะนั้นขอเก็บเอาไว้ก่อน ถ้าแน่ใจว่าไม่ผิดกฏแล้วจะมานำเสนออีกทีครับ

สิ่งที่คุณจะต้องเตรียม
1. Host ที่มีพื้นที่อย่างน้อย 500 MB.
2. Domain name
3. PHP
4. MySQL
5. เตรียมใจที่จะมีเว็บ 120,000 หน้าเป็นของตัวเอง

ข้อตกลงก่อนสร้างเว็บ
ผมเชื่อว่า..... เมื่อมือใหม่ทุกคนอ่านเนื้อหาทั้งหมดนี้แล้ว และลงมือทำตาม มือใหม่บางคนสามารถทำได้ บางคนก็ทำไม่ได้ ดังนั้น คนที่ทำไม่ได้ “โปรดถาม” ส่วนคนที่ทำได้แล้วกรุณาช่วยตอบคำถามและอธิบายแทนผมด้วยครับ (ขอโทษที่ผมไม่มีเวลาจริงๆ)


Chapter I การสร้างฐานข้อมูล (เริ่มต้นสร้างฐานข้อมูล ขนาด 500 หน้า)

1. ให้มือใหม่สร้างฐานข้อมูลขึ้นมา 1 ชื่อ เช่น dbname
2. Download ไฟล์ที่ผมให้ไป โดยคลิกเม้าส์ปุ่มขวา แล้วเลือก Save Target As...hxxp://articles.xml-rss.com/download/db.sql
3. Import ข้อมูลเข้า dbname

- ในฐานข้อมูล จะปรากฏ Table ขึ้นมา 2 Tables ได้แก่ bg และ article ซึ่งจะมีข้อมูล 500 records
- ผมไม่อยากให้ Import ข้อมูลเข้ามาทีเดียวทั้งหมด 120,000 กว่า records อยากให้ลองทำเว็บดูก่อนซัก 500 หน้า ถ้าทำได้แล้วค่อยมาเพิ่มข้อมูลทีหลัง เหตุผลอีกประการหนึ่งคือ บางคนอาจจะไม่อยากได้บทความทั้งหมดเพราะกลัวว่ามันจะซ้ำกัน ก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลา Import


Chapter II การสร้าง Script สำหรับแสดงเว็บ

1. Download ไฟล์ที่ผมให้ไป hxxp://articles.xml-rss.com/download/script.zip
2. Extract ไฟล์ script.zip แล้วเอาไฟล์ทั้งหมดไปวางไว้ที่เว็บของคุณ

มีไฟล์ที่แสดงเว็บอยู่ 2 ไฟล์ คือ index.php และ index2.php ซึ่งจะให้การแสดงผลที่ไม่เหมือนกัน ถ้าคุณอยากใช้แบบไหน ก็เลือกไฟล์นั้นมาเป็น index.php

ไฟล์ index.php เป็นไฟล์ที่แสดงเว็บแบบ Dynamic Template, Dynamic Menu

ไฟล์ index2.php เป็นไฟล์ที่แสดงเว็บแบบ Dynamic Template, Fixed Menu แบบ One way link (สนองตอบกฎใหม่ของ Google เรื่อง Link ได้เป็นอย่างดีทีเดียว) Link ในเมนูจะไม่มีโอกาส Loop เด็ดขาด ยกตัวอย่างเช่น
ถ้าดูเว็บ id ที่ 1 เมนูด้านซ้ายก็จะแสดง หัวข้อบทความ id ที่ 2 – 21
ถ้าดูเว็บ id ที่ 2 เมนูด้านซ้ายก็จะแสดง หัวข้อบทความ id ที่ 3 - 22
ถ้าดูเว็บ id ที่ 1000 เมนูด้านซ้ายก็จะแสดง หัวข้อบทความ id ที่ 1001 - 1020
ถ้าดูเว็บ id ที่ 100000 เมนูด้านซ้ายก็จะแสดง หัวข้อบทความ id ที่ 100001 – 100020
จะเห็นได้ว่าไม่มีโอกาสที่ Link จะมาชนกัน หรือ เป็น Link Farm เลย

3. แก้ไขไฟล์ Connections/article.php ดังนี้
บรรทัดที่ 6,7,8
$database_article = "ชื่อ database ของคุณ";
$username_article = "username ของ database";
$password_article = "password ของ database";

4. ลองเปิดเว็บของคุณดู เฮ.......... สำเร็จแล้ว ถ้าใครทำไม่ได้ ลอง post ถามเพื่อนๆดู
5. การ config ให้เว็บแสดงตาม option ที่เราต้องการ
ถ้าต้องการให้จำนวนเมนูด้านซ้ายแสดงมากหรือน้อย ก็ให้แก้ไขจำนวนตัวเลขบรรทัดที่ 22 ตามใจชอบครับ
$maxRows_rs_title = 20;

6. ลองเปิดเว็บของคุณดูอีกที น่าจะเป็นไปตามที่เรา config ครับ ถ้าไม่ได้ลอง post ถามเพื่อนๆดู
7. ขั้นตอนสุดท้ายของ Chapter นี้ คือการนำ ID ของคุณมาใส่ที่ Adsense ให้คุณมองหา google_ad _client แล้วใส่ ID ของคุณลงไป หรือจะนำ Script ที่ได้จาก Google มาลงใหม่เลยก็ได้ครับ

ตัวอย่าง

<script type="text/javascript"><!--
google_ad_client = "ใส่ ID ของคุณตรงนี้";
google_ad_width = 250;
google_ad_height = 250;
google_ad_format = "250x250_as";
google_ad_type = "image";
google_ad_channel = "";
google_color_border = "336699";
google_color_bg = "6C82B5";
google_color_link = "FFFFFF";
google_color_text = "CCCCCC";
google_color_url = "6C82B5";
//-->
</script>
<script type="text/javascript"
src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js ">
</script>

หมายเหตุ ผมทำ Link มายังเว็บไซต์ของผมเพียง 1 ที่เท่านั้น คือ xml-rss.com หากคุณเห็นว่ามันเกะกะเว็บของคุณ ก็สามารถลบทิ้งได้ แต่ถ้าคุณจะเก็บไว้เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจเล็กๆน้อยๆ ก็จะขอบพระคุณครับ

Chapter III การสร้างเว็บให้กับ Sub Domain ด้วยไฟล์เพียงไฟล์เดียว
1. Download ไฟล์ที่ผมให้ไป hxxp://articles.xml-rss.com/download/script2.zip
2. สร้าง subdomain ที่คุณต้องการ เช่น http://aaa.yourdomain.com
3. Extract ไฟล์ script2.zip จะได้ไฟล์ 1 ไฟล์ คือ index.php ให้นำไฟล์ชื่อ index.php ไปวางไว้ที่ subdomain ของคุณ

ไฟล์ index.php จะแสดงบทความแบบ Random ครั้งละ 5 บทความ หากคุณต้องการแก้ไขจำนวนบทความที่คุณต้องการให้แสดง ก็เข้าไปแก้ไขบรรทัดที่ 9 แล้วจัดการแก้ตัวเลขตามใจชอบเลยครับ
$maxRows_rs_article = 5;

4. เป็นไปได้ไหม? ถ้าทุกคนทำเหมือนกันแล้วบทความจะซ้ำกัน

ถ้ามีจำนวนบทความทั้งหมด 120,000 Articles แล้วนำมาแสดงแบบ Random ครั้งละ 5 บทความ โอกาสที่หน้าเว็บจะแสดง content ซ้ำกัน เท่ากับ
120000!/(120000-5)! = 120000*119999*119998*199997*199996
( เครื่องหมาย ! อ่านว่า แฟคทอเรี่ยล , เครื่องหมาย * คือ เครื่องหมายคูณ )
1 ใน 120000*119999*119998*199997*199996
เพราะฉะนั้น ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่อง Content ซ้ำกัน ทุกครั้งที่ bot เข้ามาเก็บข้อมูลก็จะได้ Content ที่แตกต่างกันไป กว่าจะไปเจอ content ตรงกันก็คงใช้เวลาหลายปี

5.ลองเปิดเว็บของคุณดู ถ้าไม่ได้ลอง post ถามเพื่อนๆดู
6.ทีนี้ก็เริ่มบรรเลงสร้าง subdomain ให้มากที่สุดเท่าที่คุณอยากได้ แล้ว copy ไฟล์ index.php ไฟล์เดียวกันนี้ไปวางยัง Folder ของ subdomain ที่คุณสร้างไว้ การรันหน้าเว็บในแต่ละ subdomain ของคุณก็จะแสดง Content แบบ Random และไม่ซ้ำกัน
7.ลองดูตัวอย่างที่ผมทำ 450 subdomain ปรากฏว่าติด index Google 100%
http://www.google.co.th/search...q=site%3Axml-rss.com&meta=

ผมเชื่อว่าถ้าคุณทำซัก 100,000 subdomain เว็บของคุณจะติด index ใน Google มหาศาลเลยทีเดียว โดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินทำ SEO เลยซักบาทเดียว

Chapter IV Dump ข้อมูลลง Database กว่า 120,000 หน้า โดยใช้ Big dump

Chapter V การสร้าง sitemap.xml และการ add sitemap เข้า Google

Chapter VI การ Verify เว็บของเราใน Google

Chapter VII สอนจระเข้ว่ายน้ำ ตอนที่ 1 “keyword มหัศจรรย์ คลิกละ $2.50”
1. มันเป็นความโชคดีของผมที่ผมเคยได้ 20 Click $0.14 มาก่อน มันเป็นแรงผลักดันให้ผมคิดค้น และหาวิธีการหา keyword ที่มีราคาสูงๆได้
2. ได้ keyword ราคาแพงแล้วต้องใช้ให้เป็นด้วย
3. ผมมั่นใจว่าผมดึง ad ที่มีมูลค่าคลิกละ $10 มาไว้ที่เว็บผมได้ แต่พอมาดู Report ปรากฏว่าได้แค่ $2.50 Google จะกินค่านายหน้า 75% เชียวเหรอ !!!
4. การ Control ให้ ad ที่เราต้องการเข้ามาที่เว็บของเรา

Chapter VIII สอนจระเข้ว่ายน้ำ ตอนที่ 2 “ทำอย่างไรให้ CTR มากกว่า 50 %”
ผมเริ่มทำ Adsense ครั้งแรก ผมได้ Imp 1500 Click 1 มันโหดร้ายเกินไป ผมปฏิญาณกับตัวเองว่าผมจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว
--------------------------------------------------------------------------------------------


สำหรับมือใหม่ที่นำเข้าบทความได้บ้างไม่ได้บ้าง ไม่ต้องตกใจ ผมมีเครื่องมือหาปลาอีก 1 ชุด ให้ download script ที่นี่
hxxp://www.articles.xml-rss.com/download/insertArticle.rar
เมื่อ download ได้แล้วให้ Extact ไฟล์ออกจะได้ 7 ไฟล์
list.php สำหรับแสดงรายชื่อบทความทั้งหมด
form_insert.php สำหรับเพิ่มบทความ คุณสามารถนำบทความที่ไหนก็ได้มาเพิ่มในฐานข้อมูลของคุณ โดยใช้ฟอร์มเพิ่มบทความนี้
form_update.php สำหรับแก้ไขบทความที่ได้เพิ่มไปแล้ว



หลายคนถามว่า Article ที่ผมให้ไป จะโดนแบนไหม? จะโดน de index ไหม?
ผมตอบไม่ได้จริงๆ ว่า Google จะแบน หรือจะ de index หรือไม่? มันอยู่นอกเหนือการ Control ของเรา

แต่ผมอยากจะบอกว่า ผมหาเครื่องมือจับปลาให้คุณแล้ว
คุณจะเลือกจับปลาเล็กปลาน้อย หรือเลือกจับปลาแซลมอน ก็ขึ้นอยู่ที่คุณแล้ว
(การหาบทความและ keyword ที่มีคุณภาพ ย่อมมีผลต่อ Adsense ของคุณ)

อย่าถามว่า "วันนี้จะได้รับแจกปลาอะไร" ขอให้คิดว่า "วันนี้จะจับปลาอะไรดี"


----------------------------------------------------------------------------------------------

Chapter V การสร้าง sitemap.xml และการ add sitemap เข้า Google

ปกติแล้วจะมีโปรแกรมสำหรับทำ sitemap เยอะมาก มีทั้งแบบติดตั้งที่ PC และแบบ online
แต่ส่วนตัวแล้ว ผมชอบเขียน script สร้าง sitemap เอง เพราะสามารถ control link ได้
ถ้าสนใจ script ก็ลอง Download ไปใช้ได้ครับ
hxxp://www.articles.xml-rss.com/download/sitemap.rar
อย่าลืมแก้บรรทัดที่ 21-24 ด้วยนะครับ

&lt;loc&gt;http://www.yourdomainname.com/index.php?id= <?php echo $row_rs_cat['id']; ?>&lt;/loc&gt;<br />
&lt;lastmod&gt;2007-07-26&lt;/lastmod&gt;<br />
&lt;changefreq&gt;daily&lt;/changefreq&gt;<br />
&lt;priority&gt;0.9&lt;/priority&gt;<br />

เมื่อแก้ไขแล้ว ลองรันดู จากนั้นให้ copy ข้อมูลที่แสดงทั้งหมดมาวางไว้ที่ EditPlus แล้ว Save As เป็น sitemap.xml

ส่วนวิธีการ add sitemap และการ Verify ให้ค้นหาจากบอร์ดนี้ครับ

----------------------------------------------------------------------------------------------

Chapter VII สอนจระเข้ว่ายน้ำ ตอนที่ 1 “keyword มหัศจรรย์ คลิกละ $2.50”

"การ Control ให้ ad ที่เราต้องการเข้ามาที่เว็บของเรา"

เนื่องจากมีเมล์มาเตือนผม บอกว่าให้คิดและพิจารณาให้รอบครอบ ก่อนที่จะเขียนบทนี้
ผมต้องยอมรับจริงๆว่ามันค่อนข้างจะก่ำกึ่งระหว่าง White Hat กับ Black Hat
ดังนั้น ผมจะระวังและอธิบายแบบคร่าวๆ เท่าที่พอจะทำได้ และอธิบายเฉพาะที่คิดว่ามันไม่ใช่ Black Hat
หากส่วนไหนที่เป็น Black Hat ช่วยบอกด้วยครับ

วิธีการ Control ให้ ad ที่เราต้องการเข้ามาที่เว็บของเรา
ผมขอแบ่งการ Control ออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้
1. การ Control ad ก่อนที่ bot จะมาเก็บข้อมูล และ
2. การ Control ad หลังจากที่ bot มาเก็บข้อมูลที่เว็บเราแล้ว

1. การ Control ad ก่อนที่ bot จะมาเก็บข้อมูล
อะไรบ้างที่มีผลต่อการดึง ad มาที่เว็บเรา ก่อนที่ bot จะมาเก็บข้อมูล นอกเหนือจากการตั้งชื่อเว็บ , sub domain, folder, ชื่อ file ให้ตรงกับ keyword ที่เราต้องการแล้ว ยังมีในส่วนของ <title></title>, <meta name="Description" content="">, <meta name="KeyWords" content="">

และเทคนิคอีกอย่างหนึ่งที่ผมใช้ ลองดูว่า 2 เว็บนี้ Ad ต่างกันอย่างไร ทั้งที่ Content เหมือนกัน (รีบทดสอบก่อนที่ bot จะมาเก็บข้อมูล)

http://yourdomain.com/test1.php

http://yourdomain.com/test1.ph...rrency.php&forex=loan.html



ปรับเปลี่ยนแหล่ง Download ใหม่.... ใครที่ Add Favorites โปรด update ด้วยครับ

----------------------------------------------------------------------------------------


Script Feed บทความตาม Keyword

ดาวน์โหลด และประยุกต์ใช้กันเลยครับ

hxxp://article.xml-rss.com/download/article.rar

มีอยู่ 2 ไฟล์ คือ index.html และ article.php
สร้าง subdomain หรือ folder แล้ว copy 2 files นี้ลงไป แล้วลอง Run ดูครับ
ได้ผลหรือไม่ Post บอกด้วยครับ

คำอธิบาย

บรรทัดที่ 23
<script language="javascript" src="http://js.amazines.com/article...mp;m=20&h=3&r=0&a= <?php echo $_GET['keyword']; ?>"></script>

c=,0,13,86,99,14,39,93,101,87,40,112,23,22,62,61,92,21,72,35,73,74,125,100
หมายถึง Category หากโปรแกรมทำงานช้า เราสามารถลดจำนวน Category ได้ เช่น
จากเดิม c=,0,13,86,99,14,39,93,101,87,40,112,23,22,62,61,92,21,72,35,73,74,125,100
เปลี่ยนเป็น c=,0,13,86 (เลือกบทความตาม keyword แค่ 3 Category)

m=20
หมายถึงจำนวนบทความสูงสุดที่ต้องการให้แสดงในแต่ละ Category ถ้ามีบทความไม่ถึง 20 ก็จะแสดงตามจำนวนบทความที่มีอยู่ใน Category นั้น

a=<?php echo $_GET['keyword']; ?>
หมายถึง การรับค่า keyword แบบ GET แล้วให้โปรแกรมทำการค้นหาบทความตาม keyword ที่เราส่งค่าเข้าไป
หากเราไม่ต้องการให้เว็บมีการส่งค่า หรือรับค่า เราสามารถเปลี่ยน keyword ได้ดังนี้ครับ
จากเดิม a=<?php echo $_GET['keyword']; ?>
เปลี่ยนเป็น a=aaa
aaa หมายถึง keyword ที่เราต้องการ

----------------------------------------------------------------------------------------
ถึงเวลาสร้างเว็บ 120,000 หน้าซะที

เชื่อว่ามือใหม่หลายคงสามารถสร้างเว็บเบื้องต้น 500 หน้ากันได้แล้ว
ต่อจากนี้เราจะมาเริ่มทำเว็บเพิ่มอีก (มากกว่า 120,000 หน้าเลยทีเดียว)
พร้อมเทคนิคเล็กๆน้อยๆ จะได้เป็นเครื่องมือหาปลาสำหรับมือใหม่ไว้ใช้ในระยะยาวๆ
ผมจะสรุปเป็นขั้นตอน ดังนี้ครับ

1. คุณต้องทำเว็บเบื้องต้นใน Chapter I, Chapter II และ Chapter III ให้ได้ก่อน
Link : http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,13560.0.html

2. เตรียม โปรแกรม Import ข้อมูลเข้า MySQL ในที่นี้จะใช้ Bigdump
hxxp://www.articles.xml-rss.com/download/newArticle_5_10186.rar
ขนาดไฟล์ 10 MB. ประกอบด้วย bigdump.php (สำหรับ Import ข้อมูลเข้า Database)
และบทความ ใน Category : Computers-and-Technology จำนวน 10,186 บทความ

3. Download บทความ 120,000 บทความ จากที่นี่ครับ จากคุณ raffyarmy
http://www.thaiseoboard.com/in...11644.msg144223.html#msg144223
Business.zip : http://www.upload.th.la/?d=4AF7975F4
Automotive.zip : http://www.upload.th.la/?d=6336C4C03
Arts-and-Entertainment.zip : http://sv1.gushare.com/file.ph...9d1a44f1fc0d6f3c69fe6450863fcf
Computers-and-Technology.zip : http://sv1.gushare.com/file.ph...2e77378974c283a8080b4039af1de5
Food-and-Drink.zip : http://www.upload.th.la/?d=72ED03DF9
Self-Improvement.zip : http://www.upload.th.la/?d=972A3D7E3
Shopping-and-Product-Reviews.zip : http://www.upload.th.la/?d=E21EA15E7
Travel-and-Leisure.zip : http://www.upload.th.la/?d=EFBF49614
Shipping.zip : http://www.upload.th.la/?d=2A57A70F10
Writing-and-Speaking.zip : http://www.upload.th.la/?d=F002DA2D8
ถ้าใครมีบทความจากแหล่งอื่นๆ ก็สามารถนำมาเข้า database ได้ครับ

4. Import บทความเข้าฐานข้อมูล โดยใช้ bigdump.php
สำหรับ script ชื่อ bigdump.php ให้แก้ไขบรรทัดที่ 6 - 8
$db_name = 'ชื่อ database ของคุณ';
$db_username = 'username ของ database';
$db_password = 'password ของ database';
เมื่อแก้ไข script เสร็จแล้ว ให้ FTP ไฟล์ทั้งหมด รวมทั้งไฟล์ .sql ขึ้นเว็บของคุณ
จากนั้น เปิดเว็บไซต์ของคุณ http://www.yourdomain.com/bigdump.php
แล้วคลิกที่ Start Import เพื่อนำเข้าข้อมูลบทความไปที่ database ของคุณ

5. การทำ rewrite content
ค้นหาในบอร์ดนี้เลยครับ เคยเห็นโพสไว้แล้ว

6. วิธีทำให้เว็บของคุณติด INDEX แบบง่ายๆ และติด INDEX ปริมาณมากๆ
ถ้าเรา Search ใน GG เราจะเห็นจำนวนเว็บที่เกี่ยวข้องกับ keyword ที่เราค้นหาจำนวนมาก แต่พอเราคลิกไปที่ page สุดท้ายของ GG ปรากฏว่า จำนวนเว็บมันน้อยลง
สาเหตุเป็นเพราะการสร้างเว็บโดยทั่วไปใช้ Script ดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลมาแสดง แล้ว Gen ตาม id บ้าง ตาม keyword บ้าง แต่ก็ยังใช้ไฟล์ไฟล์เดียวกัน
ในกระทู้นี้ก็เหมือนกัน ผมสอนวิธีการสร้างเว็บ โดยการดึงข้อมูลจาก MySQL แล้วมาแสดงผลตาม id มันก็จะเป็นแบบนี้ครับ index.php?id=1 , index.php?id=2 ,.......
ถามว่าติด INDEX ไหม? แน่นอนว่า มันก็ติด INDEX เหมือนกัน แต่มันจะซ่อนอยู่ใน การค้นหาเป็นจำนวนมาก

ตัวอย่าง ให้ลอง Search ใน GG เมื่อคลิกที่ page สุดท้าย มันจะแสดงคำว่า
เพื่อให้ได้ผลการค้นหาที่ตรงที่สุด เราได้ตัดผลการค้นหาที่คล้ายกับรายการที่แสดงแล้วออกไป ...รายการ
คุณสามารถ ค้นหาซ้ำอีกครั้ง โดยรวมผลการค้นหาที่ถูกตัดออก

วิธีทำให้เว็บของคุณติด INDEX แบบง่ายๆ และปริมาณเยอะๆ
ให้คุณสร้างเว็บโดยการดึงข้อมูลจาก MySQL ตาม id แล้ว save ไฟล์เป็น "ชื่อหัวข้อบทความ.html"
เช่น จากเดิม http://www.yourdomain.com/index.php?id=1
หัวข้อบทความคือ computer for kids
เปลี่ยนเป็น http://www.yourdomain.com/computer-for-kids.html
ถ้าในฐานข้อมูลของคุณมี 120,000 บทความ คุณก็จะได้ไฟล์จำนวน 120,000 ไฟล์ จากนั้นก็ FTP ขึ้น server เลยครับ
จะเห็นว่าวิธีนี้ Server ที่คุณใช้ไม่จำเป็นต้องมี MySQL ก็ได้ และการทำงานของมันก็ไม่ต้องไปดึงฐานข้อมูลมาแสดงผลด้วย เพราะเป็นไฟล์ชนิด html

ถามว่า...... แล้วจะสร้างไฟล์ .html 120,000 ไฟล์ ได้อย่างไร จะต้องทำมือรึเปล่า จะไหวไหม?
ตอบเลยครับว่า ผมเองก็ไม่มีความอดทนที่จะมานั่งสร้างไฟล์เองขนาดนั้น
ให้ใช้ Script ที่คุณ workshop แนะนำ มาสร้างไฟล์ .html จำนวน 120,000 ไฟล์ ลองประยุกต์ใช้กันนะครับ ถ้าใครทำได้แล้ว โพสบอกเพื่อนๆเลยครับ แต่ถ้าทำไม่ได้ เดี๋ยวผมเขียน Script ให้ ตอนนี้ยังไม่ค่อยว่าง
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,13560.210.html

7. การสร้าง sitemap.xml และการ add sitemap เข้า Google จากคุณ workshop
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,13560.210.html

8. การสร้าง Template และการทำ CSS Template จากคุณ indyz7
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,13560.330.html

9. อย่าลืมทำ SEO ด้วยนะครับ POST ตามเว็บต่างๆด้วย ลองดูผลในระยะ 2-3 เดือน

10. ข้อนี้สำคัญมาก ถ้าไม่จำเป็น กรุณาอย่าโทร.มาถามผมเลยครับ ผมมีงานยุ่งมาก หลายๆคนพยายามค้นหาข้อมูลตามเว็บต่างๆที่ผมทำไว้ ค้นหาจาก GG บ้าง ซึ่งผมก็ไม่ได้ปิดบังข้อมูลส่วนตัวของผม พอค้นเจอก็จะโทรมาตามที่ทำงาน ผมต้องขออภัยจริงๆครับ ผมไม่สะดวกที่จะคุยทางโทรศัพท์ งานมันเยอะมาก ขอคุยทางบอร์ดนี้กับ e-mail เท่านั้นครับ และเมื่อเสร็จโปรเจค "สอนมือใหม่ให้สร้างเว็บ" นี้แล้ว ผมก็จะเลิกเข้าบอร์ดนี้แล้วครับ และก็จะเลิกทำ Adsense ด้วย ขอเป็นโปรเจคสุดท้ายครับ

ทั้งหมดนี้เป็นการสอนให้สร้างเว็บด้วยตัวคุณเอง โดยมีเพื่อนๆในบอร์ด ช่วยๆกันตกแต่งให้มันสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ผมเชื่อว่าถ้าคุณสามารถทำตามขั้นตอนทั้งหมดนี้ได้แล้ว ต่อไปคุณก็สามารถไปสร้างเว็บเพิ่มอีกได้โดยใช้หลักการเดียวกันนี้
อย่าตั้งความหวังว่าคุณจะต้องได้เงินเป็นกอบเป็นกำจากการสร้างเว็บนี้ ให้คิดแค่ว่าคุณสามารถสร้างเว็บได้เอง ผมว่าคุณก็ได้กำไรแล้ว .... กำไรความรู้ไง

-------------------------------------------------------------------
สำนึก.... รัก.... บ้านเกิด
ไม่ค่อยได้ตอบแทนบุญคุณบ้านเกิด ตอนนี้ทำได้ก็แค่สร้างเว็บประชาสัมพันธ์ให้บ้านเกิด
ถ้าไม่เป็นการรบกวนเพื่อนๆมากนัก หากเพื่อนๆมีโอกาสโพสตามกระทู้ต่างๆ ขอแรงช่วยประชาสัมพันธ์ให้ด้วยครับ
เป็นเว็บที่อนุรักษ์ความเป็นไทย วิถีชีวิตในชุมชุน การแสดงศิลปะพื้นบ้าน การรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีแบบไทยๆ
ขอบพระคุณอย่างสูง


โค๊ด:


http://www.siprachan.com/


ขอขอบคุณ Mr_Rss จากseobord

Google คำนวณค่า PR อย่างไร ?



Google คำนวณค่า PR 

Google คำนวณค่า PR อย่างไร ?

ค่า PR ถูกคำนวณ โดยจำนวนลิงก์ของเว็บไซต์อื่นๆ ที่เชื่อมลิงก์มายังเว็บไซต์ของคุณ (Inbound Link) ทั้งนี้คำนึงถึงคุณภาพ (คุณภาพของลิงก์หมายถึง เว็บเพจที่ลิงก์มาหาคุณมีความเกี่ยวข้องและเกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาใน เว็บไซต์ของคุณ ) และค่า PR ของเว็บไซต์ที่ลิงก์มายังเว็บไซต์คุณด้วย ยิ่งเว็บไซต์ที่ลิงก์มาหาคุณมี PR สูงๆ ค่า PR ของเว็บคุณก็มีแนวโน้มที่จะสูงตามไปด้วย ค่า PageRank นั้นใช้วิธีการเดียวกับระบบการโหวต หนึ่งลิงก์ที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของคุณ ยิ่งมีค่า PR สูงเท่าใด Google ยิ่งเห็นความสำคัญของเว็บเพจนั้นๆมากยิ่งขึ้น และหากมีลิงก์มาจำนวนมากลิงก์มายังเว็บไซต์คุณ ค่า PR เว็บคุณก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

ทำอย่างไรถึงจะได้ค่า PR เพิ่มขึ้น ?

การเพิ่ม PR คงจะต้องใช้เวลาสักหน่อยวันนี้เราเลยมีวิธีดีๆในการเพิ่ม PR มาแนะนำกันคะ

1. Search Engine Submission (SES) การทำการ submit เพื่อให้ Search Engines ต่างๆรู้จักกับเว็บไซต์ของเรา สำหรับบรรดา Search Engines หลักๆก็คือ Google, Msn, Yahoo, และ Search Engines อื่นๆเช่น โดยเฉพาะเจ้าพ่อแห่งวงการ อย่าง Google อย่าลืมที่จะ Submitนะคะ


2. Major Directory Submission พวก Web Directory ก็มีมากมายหลายแบบหลายชนิด Directory ยอดนิยมที่ผู้คนให้ความสนใจที่สุดก็คงไม่พ้น พี่ DMOZ ซึ่งไม่รู้เป็นอะไร Submit ง่าย แต่อยู่ในระบบยาก แต่อย่าท้อกันนะคะ

3. Paid & Free Directories Submission ของฟรียังมีในโลก โดยเฉพาะ Directories มากมายที่ให้เราได้ Submit Free และแบบเสียเงิน ซึ่งสามารถที่จะแยกออกตามหัวข้อต่างๆดังนี้
Regular Link ฟรีไม่ ชัวร์ว่าจะได้อยู่ในระบบไหม
Regular Link with Reciprocal อันก็ฟรีแต่ต้องลิงค์กลับให้เขาด้วย แต่มีแนวโน้มจะได้อยู่ในระบบสูง!
Featured Link ได้แน่นอนคะ เร็ว และได้อยู่ในอันดับต้นๆเลย แต่เสียเงิน!


4. Signature ลายเซ็นพิฆาต หลายๆคนคงรู้จักทิปนี้แน่นอน

5. Link Exchange แลกลิงค์กระจาย เป็นการแลก Link ไปแลกกะเว็บชาวบ้านคะ

6. BackLink for Sell ถึงเวลาต้องซื้อลิงค์ มีเว็บไซต์ทุนหนามากมาย ที่ต้องการให้เว็บไซต์ของตัวเองได้อยู่หน้าแรก อันดับแรกๆใน SERP ใน Keyword นั้นๆ การซื้อ Oneway Link จากเว็บไซต์ที่มีค่า PR สูงๆ ก็เป็นปัจจัยหลักๆในการสร้าง Link Popularity คะ

7. Content is Everything เนื้อหาดี สาระดี ชีวิตก็ดีขึ้น พวกเราคงเคยได้อ่าน Content is the King ใช่แล้วคะ ถ้าเว็บไซต์ของเราเนื้อหาดีมีข่าวสารน่าติดตาม ข้อมูลที่ดีและมีประโยชน์ต่อผู้เยี่ยมชม รับรองว่ารุ่งชั้วคะ

8. Articles Submission บทความ เสริมสร้างบารมี หัวข้อภาษาไทยอาจจะดูอลังการ (นิดนึง) แต่ของอย่างนี้ไม่เจอกับตัวคงไม่เชื่อแน่ๆ บทความดีๆ บางทีสามารถที่จะทำให้จำนวนผู้เยี่ยมชมสู่เว็บคุณมีมากมายถล่มถลายกันเลยคะ

9. PPC Pay Per Click คลิกแล้วจ่าย(ได้คุ้มเสีย) เจ้า PPC หรือ Pay Per Click เป็นวิธีการหนึ่งที่ใช้ใน SEM ข้อดีของมันก็คือเราสามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย ที่เราต้องการให้เข้าชมเว็บของเรา จุดสำคัญจริงๆแล้วไม่ได้อยู่ที่จะนำคนเข้ามาตามคลิกที่เกิดขึ้น

10. Email Marketing โปรโมต เว็บผ่านอีเมลย์ เป็นวิธีที่ได้ผลพอสมควรถ้าให้ดีควรทำแบบที่ไม่เข้า ข่าย Spam นะคะ เช่นเมลย์ไปแนะนำเว็บไซต์ใหม่ที่เราทำกับ Contact List เพื่อนๆหรือคนรู้จักของเราเท่านั้น ไม่ใช่เชิงพานิชย์ขายสินค้านะคะ สำคัญที่สุดก็คือ เว็บไซต์ที่ติด Adsense โปรดระวังอาจโดนแบนได้


เครดิต:http://web.ofebia.com/contents/view/158.htm

ทำ seo เพื่อหน้า 1 google ง่ายนิดเดียว




การทำเว็บขึ้นหน้าแรกไม่ใช่เรื่องยากเลย 
เพียงแค่ใส่ใจและสนุกกับมันเท่านั้น
1. บทความต้องเขียนเองไม่ซ้ำใคร 150 คำ + กำลังดี
2. เขียนเสร็จ แชร์ในโซเชียล ให้หมด
3. ลิงค์จาก Youtube แรงมากขอบอกเลย
4. ปล่อยเป็นไปตามธรรมชาติอย่าไปรีบ


ที่มา:naludon Thaiseoboard

แนวทางสร้าง Blogger มือใหม่

Blogger มือใหม่


สำหรับ blogger ที่พยายามสร้าง Back link จากภายนอก สร้างไปสร้างมา index หายหมด
ผมขอเสนอให้เราหันมาทำ link ภายใน blog ของตัวเองโดยการเชื่อมโยงบทความต่างๆภายใน blog ของเราให้โยงในไปมาและมีความสัมพันธ์กัน

การทำแบบนี้ผมเรียกว่า Serial article ผมได้ต้นแบบมาจากอาจารย์ Pat Flynn นั่นเองครับ
การทำ Serial article นั้นต้องมีการทำการบ้านพอสมควร คือ วางแผน contents เป็นเซ็ตๆ ว่าคุณจะเขียนเรื่องอะไร สมมุตคุณทำเว็บเกี่ยวกับ career development คุณคิด serial contents มาสองซีรี่

>> ซีรี่แรก วิธีสมัครงานสำหรับคนจบใหม่
>> ซีรี่สอง วิธีค้นหาตัวเองให้เจอในปีแรกของการทำงาน

เพิ่มโอกาสติดหน้า 1 ทำ SEO ด้วยตัวเองโดยบล็อกฟรี


เพิ่มโอกาสในการทำ SEO ให้ติดหน้า 1 google มากกว่าเดิม

เคล็ดลับต่างๆในการทำ seo ด้วยตัวเองเพื่อนๆพี่ๆลองไปทำดูนะครับ เริ่มจากการเขียนบล็อก จากเว็บบล็อกที่ให้ฟรีมีเยอะแยะมากมายเพื่อนๆลองค้นหาดูนะครับ

การจัดเก็บข้อมูลที่เป็นไฟล์คอมพิวเตอร์

ปัจจุบันข้อมูลต่างๆเปลี่ยนมาอยู่ในรูปแบบไฟล์คอมพิวเตอร์แล้วทั้งนั้น ต่างจากเมื่อก่อนที่ข้อมูลจะถูกเก็บเป็นเอกสาร

การจัดเก็บข้อมูลที่เป็นไฟล์คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น ไฟล์รูปภาพ ไฟล์เสียง ไฟล์วีดีโอ ไฟล์เอกสาร และอื่นๆ อาจจะสูญเสียไปได้ หากเก็บรักษาไว้ไม่ดีพอ

ข้อแนะนำที่สำคัญในการเก็บไฟล์ดิจิตอล คือ อย่าเก็บไว้ด้วยวิธีเดียว ในที่เดียว เช่น ไรท์ข้อมูลลงแผ่น CD โดยไม่มีการเก็บไว้ที่อื่น หากแผ่นซีดีแผ่นนั้นเสีย ก็จะทำให้สูญเสียข้อมูลสำคัญไป


หลักการทำ SEO และ Backlinks

Tumblr คือ





Tumblr คืออะไร - 


Tumblrจะเป็นคล้ายๆบล็อคส่วนตัวของเรา ที่เราจะใช้อัพรูปภาพ/ข้อความต่างๆได้
ในหน้าส่วนตัวของเรา จะเป็นคล้ายๆfacebook + twitter
สามารถอัพทุกอย่างได้ไม่ว่าจะเป็นภาพไฟล์gif,png
และเราก็สามารถreblogได้ คล้ายกับการretweetนั่นเอง
รูปแบบของตัวเว็บน่าสนใจมาก อยากแนะนำให้ไปเล่นกัน

10 ปัจจัย ในการทำ SEO เกี่ยวกับ Keywords



   
ที่
ตำแหน่ง
รายละเอียด
คะแนน
1
Keywords in <title> tag
สิ่งที่สำคัญอันดับหนึ่ง ของการทำเอสอีโอเลย ก็คือการใส่คีย์เวิร์ดไว้ที่ แท็ก <title> ซึ่งการเขียนไตเติ้ลดีๆ ช่วยให้คนคลิกมากๆ ได้ คีย์เวิร์ดควรอยู่ที่ประมาณ 6  7 คำ โดยให้คำที่สำคัญที่สุด อยู่อันดับแรกๆ ไว้ก่อน.
+3
2
Keywords in URL
คีย์เวิร์ดที่ตำแหน่ง URL การจดโดเมนหรือ สร้างโฟลเดอร์ ไฟล์ ให้เป็นคีย์เวิร์ดที่ต้องการ ช่วยให้ติดอันดับต้นๆ ได้
+3
3
Keyword density in document text
ปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ ความหนาแน่นของคำ ในหน้านั้นๆ ควรอยู่ที่ 3 – 7 % สำหรับคำหลักๆ, 1-2 % สำหรับคำรองๆ ทั้งนี้ไม่ควรเกิน 10% เพราะถูกมองว่าเป็น keyword stuffing ตรวจสอบความหนาแน่นของคำได้ที่.http://www.webconfs.com/keyword-density-checker.php
+3
4
Keywords in anchor text
สิ่งที่สำคัญอีกเช่นกัน เพราะ Anchor Text จะเป็นคำที่เชื่อมโยงลิงค์มาหาหน้านั้นๆ เช่นจะลิงค์ไปที่หน้าเกมส์ทำอาหาร ก็ใส่Anchor Text ว่า เกมส์ทำอาหาร เป็นต้น
+3
5
Keywords in headings (<H1>, <H2>, etc. tags)
การใส่คีย์เวิร์ดไว้ที่ย่อหน้าแรก ควรใช้ <h1><h2> ไม่ควรกำหนดขนาดตัวอักษรเอาเอง
+3
6
Keywords in the beginning of a document
คีย์เวิร์ดที่สำคัญ ควรอยู่ต้นๆ เอกสาร หรือย่อหน้าแรก ถ้าอยู่ในตารางก็ควรอยู่ที่หัวตาราง
+2
7
Keywords in <alt> tags
ในกรณีใส่รูป ต้องใส่ alt tags ให้กับรูปทุกรูป
+2
8
Keywords in metatags
การใส่คีย์เวิร์ดที่แท็ก <meta> Google และ Yahoo! ลดความสำคัญลงมา แต่ MSN Live ยังคงให้ความสำคัญอยู่ แต่ทั้งนี้ไม่ควรสแปมคีย์เวิร์ดลงไปมากๆ.
+1
9
Keyword proximity
คำหลักที่อยู่ใกล้กัน ในกรณีที่มีการค้นหา หลายๆ คำ คำที่เขียนติดกันจะให้ความสำคัญมากกว่า
+1
10
Keyword stuffing
การสแปมคำซ้ำๆ ในหน้าหนึ่งๆ ที่มีคีย์เวิร์ดมากกว่า 10% ของข้อความทั้งหมด จะถูกแบนจากเสิร์จเอนจิ้นแน่ๆ.
-3


ที่มา www.dmozseo.com

ร่วมเป็นสมาชิก Blogseothai คุณคือตัวจริง !