One-stop Service Keyword Page


One-stop Service Keyword Page

ไอเดียการสร้างหน้า keyword ที่ตรงใจ visitor ครับ
ผม เชื่อว่าเพื่อนๆส่วนหนึ่งที่จ้างเขียนบทความอาจจะเจอปัญหาเรื่องจ้างเขียน แล้วได้บทความไม่ตรงใจ เช่นส่ง kw "Australia Adventure" ไปจ้างเขียน อยากได้ทำนอง how to get the best deals แต่คนเขียนดันเขียนมาแนวสถานที่ที่ควรไปซะนี่

แน่นอนว่าเขาเขียนไม่ ผิด แต่มันไม่ตรงใจเรา เพราะอะไร? ก็เพราะ keyword มันดิ้นได้ ต้องเดาใจว่าคนที่ค้นเขาต้องการอะไรจากการค้นครั้งนี้ บางคนอาจจะต้องการรู้สถานที่ที่ควรไป วิธีการเดินทาง บางคนต้องการ package tour หรือบางคนอาจจะแค่อยากอ่านสนุกๆ แบบว่าว่างมาก

โจทย์นี้เลยมาตก อยู่ที่เจ้าของเว็บว่าจะทำยังงัยดีกับคนค้นที่มาด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่าง กัน แต่จะต้องมาเจอหน้าบทความของเราแค่หน้าเดียว สมมุติว่าคนเข้ามาเพราะต้องการ package tour ถูกๆ เข้าทางโจรเลยครับ บทความเราเป๊ะ แต่ถ้าเขามาด้วยวัตถุประสงค์อื่น หน้าเว็บเราก็จะกลายเป็นส่วนเกินที่เขาไม่ต้องการไปทันที

สรุปเบื้องต้นตรงนี้ก่อนว่า บทความที่เราคิดว่าคุณภาพเต็มร้อย โครตเทพ ก็จะสามารถตอบสนองความต้องการของ visitor ได้บางส่วนเท่านั้น

ถ้า ถามผมว่า ทำยังงัยดีละกับปัญหานี้ ผมก็ไม่รู้ครับ ผมให้ความสนใจปัญหานี้มาระยะนึงแล้ว ตอนนี้กำลังทดลองอะไรบางอย่าง จริงๆผลการทดลองออกมาให้เห็นแล้ว เพียวแต่มันระยะสั้นเกินไปที่จะสรุปเป็น roadmap ได้
   
แนวทางที่ผมใช้ในการแก้ปัญหานี้คือ การสร้าง kw page แบบ one-stop service ซึ่งหมายถึงการสร้าง kw page เพื่อตอบสนองความต้องการของ visitor ส่วนใหญ่ (อาจจะไม่ทั้งหมด) วิธีการไม่ซับซ้อนครับ

  • ขั้นแรก เมื่อหา kw ที่ต้องการทำได้แล้ว ผมก็จะมานั่งคิดว่า คนเขาค้น kw นั้นด้วยวัตถุประสงค์อะไรได้บ้าง
  • ขั้นสอง สร้างหน้า kw ตามวัตถุประสงค์นั้นๆ
  • ขั้นสุดท้าย วัดผล

สำหรับเพื่อนๆที่ยังนึกไม่ออก ลองดูตัวอย่างนี้นะครับ
สมมุติ ว่าเราทำ kw page ของคีย์ cpanel web hosting (ยกตัวอย่างนี้บ่อย แต่ผมไม่ได้ทำนะครับ ยากเกิ้น) เราก็ต้องมานั่งนึกว่าคนเขาค้นเข้ามาด้วยวัตถุประสงค์อะไร ก็จะสามารถแยกคร่าวๆได้ดังนี้
1. กลุ่มที่ต้องการรู้ว่ามันคืออะไร
2. กลุ่มที่รู้ว่าคืออะไร แต่ต้องการรู้ว่ามีเจ้าไหนเด็ดๆบ้าง
3. กลุ่มที่รู้ว่ามีที่ไหนบ้าง แต่ต้องการอ่าน reviews, feedback เป็นต้น
4. กลุ่มที่รู้ทุกอย่างแล้ว เพียงแต่จะมาหาคูปองหรือ package ราคาถูกๆ

เอา แค่ 4 กลุ่มละกัน ถ้าเราจ้างเขียนบทความ แล้วเขาเขียนมาให้เราในแนว CPanel Web Hosting - What is it? แบบนี้กลุ่มแรกยิ้ม แต่อีก 3 กลุ่มเบ้หน้า เพราะรู้แล้ว ... ผมเชื่อว่าเขาจะกดปิดหน้าเว็บของเรา

เพื่อแก้ปัญหานี้ ผมก็จะสร้างหน้าเว็บที่มีข้อมูลต่อไปนี้
1. มันคืออะไร ดียังงัย เมื่อเทียบกับ hosting ประเภทอื่นๆ
2. reviews ซัก 1-2 ที่ ทำนอง best in class (แน่นอนมี aff link ให้กดเล่นสนุกๆด้วย)
3. ตามด้วย recommended cpanel web hosting services อีกซัก 4-5 ที่ (มี aff link ด้วย)
4. ตามด้วย deals of the week/month ก็ว่าไป ใส่ promo code / coupon / package ราคาพิเศษ
5. ตบท้ายด้วย related topics เผื่อข้อมูลหน้านี้ไม่ตรงกับที่ visitor ต้องการ จะได้มีที่ไปต่อ

พวก aff ที่เราเอามา reviews เป็นได้ทั้ง amazon, cj, cb หรืออะไรก็ได้ครับ ที่สามารถสร้าง value added ให้กับ visitor และกับเราได้
ส่วนการวัดผลก็ง่ายๆครับ click + earning จาก aff นั้นๆ

เพื่อนๆละครับ มีแนวทางการสร้าง kw page เพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างของ visitor ยังงัยกันบ้าง

credit: http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,165460.840.html

SEO On-Page

seo onpage

Code ในการปรับแต่ง SEO On-Page


โดยหลักๆ ขอให้ Code คร่าวๆ ก่อน
<b:include data='blog' name='all-head-content'/>
    <title>
 <b:if cond='data:blog.homepageUrl == data:blog.url'>
  <data:blog.title/>
 <b:else/>
  <data:blog.pageName/> | <data:blog.title/>
 </b:if>
</title>
<b:include data='blog' name='all-head-content'/>
<meta content='DESCRIPTION' name='description'/>
    <meta content='KEYWORD' name='keywords'/>
    <meta content='global' name='distribution'/>
    <meta content='10 days' name='revisit'/>
    <meta content='10 days' name='revisit-after'/>
    <meta content='document' name='resource-type'/>
    <meta content='all' name='audience'/>
    <meta content='general' name='rating'/>
    <meta content='all' name='robots'/>
    <meta content='index, follow' name='robots'/>
    <meta content='AUTHOR' name='author'/>
    <meta content='en' name='language'/>
    <meta content='EN' name='country'/>
    <meta content='blogger' name='generator'/>

ขออธิบาย ในส่วนที่ ตัวหนังสือสีแดงก่อนนะครับ
DESCRIPTION = คำอธิบายคร่าวๆว่าบล็อกมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร
KEYWORD = คำที่เกี่ยวกับเนื้อหาของบล็อก ว่าเกี่ยวกับอะไร
AUTHOR = ชื่อผู้เขียนบล็อก
en = ภาษาอะไร ถ้าไทย ก็ th
EN =  ประเทศอะไร ไทยก็ TH



อ่าส่วนวิธีใช้นะครับ
เราต้องไปที่ 
การเปลี่ยน Template สำหรับ Blogger

จากนั้นค้นหาคำว่า
การปรับแต่ง SEO On-page สำหรับ Blogger ขั้นที่ 1
เปลี่ยนเป็น Code ด้านบน


จากนั้นก็อยู่ที่เนื้อหาของเพื่อนๆแล้วหละว่าจะทำยังไงให้ Onpage SEO แบบนี้ ผมจะใช้บทความที่เกี่ยวกับการปรับแต่ง Onpage SEO บทความนี้เป็นตัวอย่างให้ดูคร่าวๆนะครับว่าBlogger ก็สามารถปรับแต่ง SEO ด้าน On-page ได้เหมือนกัน ให้เพื่อนๆสังเกตุคำว่า Onpage SEO นะครับ ว่าจะมี ตัวหนา ตัวเอียง ตัวขีดเส้นใต้ แล้วก็ลิ้งเข้าหน้าบล็อกหน้าอื่นๆได้ เช่น การเขียนบทความที่ถูกต้อง และ การสร้างบล็อก 

เป็นต้น

ซึ่งจะเห็นว่าบทความตัวอย่างข้างต้นนี้ ผมได้เน้นคำว่า Onpage SEO ใช่ไหมครับ แต่มีข้อแม้เช่นกัน ว่าหากใช้คำเหล่านี้เยอะเกินไป จะทำให้ โดนหักคะแนนจาก Search Engine ครับ ซึ่งหลักๆก็คือ Google นั่นเอง


ยังไม่หมดเพียงแต่นี้นะครับ ให้ดูที่หน้าเว็บของเพื่อนๆจะมีส่วนนี้อยู่
การปรับแต่ง SEO On-page สำหรับ Blogger ขั้นที่ 2

นอกจากส่วนนี้แล้วยังมี Tag ที่จะใช้กันอีก เรียกว่า แท็ก Header ซึ่งก็คือหัวข้อนั่นเอง
ซึ่งจะอยู่ตรงนี้
การปรับแต่ง SEO On-page สำหรับ Blogger ขั้นที่ 3
จะได้ตัวอย่างนี้ ลองปรับแต่งกันดูนะครับ


การปรับแต่ง SEO On-page สำหรับ Blogger ขั้นที่ 4

ที่นี้มาใส่ ALT Tag หรือคำอธิบายรูปภาพกัน โดนวิธีใส่ไปที่ Html ด้านบนซ้าย

แล้วจะเห็น Code Html เยอะแยะเลย ให้สังเกต ตาม กรอบนะครับ

การปรับแต่ง SEO On-page สำหรับ Blogger ขั้นที่ 5


เริ่มเข้มข้นขึ้นมาแล้วหละสิครับเพื่อนๆ ในบทต่อไปอย่าพลาดกันหละครับ ^^
http://blog9t.blogspot.com/2012/07/onpage-seo-blogger.html

Digg คืออะไร



ปัจจุบันกระแส Social Bookmark มาแรง..มันคืออะไร…คงมีหลายคนตั้งคำถาม
Favorites Online คืออะไร คือเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่เก็บ URL ของเว็บไซต์ที่ชื่นชอบไว้ดูภายหลัง ซึ่งสามารถเข้าดูได้ทุกที่ทุกเวลาที่เราสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ Digg Favorites Online ยังเป็นแหล่งรวบรวมเรื่องราวต่าง ๆ ที่น่าสนใจและเป็นแหล่งโปรโมทเว็บไซต์ เพื่อเพิ่ม Backlink ทำให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย
หลาย ๆ ท่านคงได้ใช้งาน Favorites ของ Internet Explorer ซึ่งทำหน้าที่ในการเก็บ URL ที่เราสนใจในเนื้อหาหรือชื่นชอบ แต่เมื่อเราต้องการใช้งานที่เครื่องของผู้อื่นและอยากจะกลับไปเยี่ยมชม เว็บไซต์นั้นเป็นเรื่องได้ยาก เพราะเว็บไซต์ต่าง ๆ มีอยู่มากมาย บางเว็บไซต์มีชื่อที่ยาว จำยาก หรือเผอิญเราลิ้งค์ผ่านไปเจอบ้าง นั่นไม่ใช่ปัญหา…DiggZy Favorites Online สามารถตอบสนองการใช้งานของคุณได้ ภายใต้เงื่อนไขทุกที่ทุกเวลา
หลาย ๆ คนได้ประยุกต์ใช้สำหรับการเก็บไดอารี่เล่มโปรดหรือรายการกีฬาที่เราชื่นชอบ สถานที่ท่องเที่ยวที่อยากจะไป แผนที่เดินทาง และยังสามารถแชร์…หรือแบ่งปันให้กับเพื่อน ๆ ในกลุ่มของเราหรือใครก็ได้ที่ต้องการรู้ในเรื่องที่เราสนใจ
หลาย ๆ คนสนสัยว่า Digg คืออะไร Digg น่าจะเป็นคำกริยา…หมายถึงการ Submit เว็บไซต์…ฝากเว็บไซต์ไว้กับเวบที่ให้บริการเผยแพร่เรื่องราว บุ๊คมาร์ค

ลองใช้งาน Digg - Social Bookmark ได้ที่ http://digg.bkk.in.th





รูปแบบการให้บริการของ Digg.com คือการนำ Link จากเว็บของเรา และข้อความในจำนวนเล็กๆน้อย ไปสร้าง Link ใหม่ให้กับเรา โดยจะทำการ Link กับมายัง Link ต้นทาง ใครที่ต้องการโปรโมตเว็บไซต์ด้วยวิธีง่ายลองไปสมัครให้บริการดูนะครับ หลังจากทำการสมัครบริการจาก Digg แล้ว - Click > Submit Url ลองหาดูบน Tool ด้านบนของเว็บ - นำ Url ที่ต้องการโปรโมท มาใส่ - กรอก Title ของเว็บ และเนื้อหาอย่างย่อลงไป - กรอกรหัสป้องกันสแปม - เสร็จเรียบร้อย หลังจากนั้นก็รอ เว็บของเราจะค่อยๆไต่อันดับใน Search Engine เอง แนะนำว่าหนึ่งวัน(24ชม.) ไม่ควรเกิน 2-3 Post ต่อวันนะครับ เดียวจะมองว่าเราเป็นสแปม พาลจะโดนแบนเอาครับ แหล่งที่มา: http://submiturl.blogtika.com สมัครบริการDigg: http://www.digg.com

ร่วมเป็นสมาชิก Blogseothai คุณคือตัวจริง !