Submit คืออะไร

การ Submit คืออะไร 


ตอบแบบฟันธง กำปั้นทุบดินการ Submit คือการทำ Off-page ด้วยการสร้าง Backlink ตอบ แบบวิชาการที่ไม่เข้ากะหน้าตาเลยว่า การ Submit เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการเพิ่ม Backlinks ให้แก่เว็บไซต์ของเรา คือการ Submit เว็บไซต์ของเราเข้า Web Directories นั่นเอง ปกติแล้ว Web Directories จะมีส่วนรองรับการ submit โดยตรงอยู่แล้ว แต่บาง web directories เป็นแบบที่เราต้องเสียเงิน (Paid Directories) บาง web directories เป็นแบบให้แลกลิ้งค์ (Reciprocal Directories) อย่างไรก็ตาม ยังมี web directories ไม่น้อยที่ให้เราสามารถ submit เว็บไซต์ของเราเข้าไปฟรี ๆ ซึ่ง Free Directories นี่แหละครับที่ SiamSubmit แนะนำ เพราะเราจะได้ One-Way Link เข้ามาหาเว็บคุณ ใน keywords หรือ keyphrases ที่คุณต้องการ ในจำนวนที่มาก และประหยัดที่สุด อีกทั้งการมีลิ้งค์เข้ามาหาเว็บคุณจะมาจากหลายโดเมน หลายประเทศ ซึ่งกระจายหลาย Class C IP ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า การมีลิ้งค์มาจากหลาย Class C IP จะช่วยเพิ่มน้ำหนักให้เว็บของคุณอย่างไม่ต้องสงสัย โดยที่เราไม่ต้องทำ Link กลับไปให้เขาเลยแต่ณ. ขณะนี้การSubmit ไม่ใช่ การ Submit Web Directories อย่างเดียวอีกต่อไปแล้วนะครับ ยังมีการ Submit อีกหลากหลายแบบ ซึี่งผมจะสรุป ความหมายและ ประโยชน์ของการซัพมิตแต่ละแบบให้ในกระทู้นี้นะครับ


Submit Directory เว็บไดเร็คทอรี่เปรียบได้กับสมุดหน้าเหลือง หรือสมุดโทรศัพท์ จะเป็นเว็บที่เก็บรายชื่อเว็บต่าง ๆ ไว้เป็นหมวดหมู่ ซึ่งสมัยก่อนนั้น Search Engine ยังไม่รุ่งเรืองเหมือนสมัยนี้เวลาเราอยากจะใช้งานเว็บไซต์เพื่อหาข้อมูลเรา ต้องไปที่เว็บไดเร็คทอรี่ต่าง ๆ เหล่านี้เพื่อสืบค้นข้อมูลตามหมวดหมู่ที่จัดไว้ให้ยกตัวอย่างเช่น
- http://www.dmoz.org/
- http://dir.yahoo.com/

สำหรับการซัพมิตประเภทนี้เป็นการซัพมิตที่ต้องรอทาง เจ้าของ Web Directory ตรวจสอบ Website เราก่อน และให้เค้า Approve ให้เราครับดังนั้นกว่าจะได้ Backlink กลับจากการ Submit ประเภทนี้นั้นต้องใช้ิเวลาพอสมควรครับ เนื่องจากว่าเมื่อ Admin Web Directory Approve ให้เราแล้วก็ต้องรอให้บอทของSearchEngineมาเก็บข้อมูลอีกก็รอกันไปการ Submit Web Directory มีประโยชน์ที่ลิงค์ที่ได้นั้นค่อนข้างมีคุณภาพ (ยิ่งถ้าเป็นเจ้าดัง ๆ อย่างตัวอย่างด้านบนนั้น เว็บมาสเตอร์ทั่วโลกถวิลหาเชียวล่ะ) ลิงค์ที่ได้จะอยู่ทนอยู่นาน ไม่ห่างหายจากเว็บเราง่ายๆ


2. Submit Social Bookmark การซัพมิตแบบนี้เป็นการประยุกต์ใช้ของบรรดา เหล่า Webmaster เองครับ โดยปกติเว็บ Social Bookmark นั้นไม่ได้ไว้ใช้สำหรับสร้าง Backlink โดยปกติหน้าที่ของมันคือ เว็บไซต์ที่เปิดให้ user ทั่วไปที่เป็นนักท่องเว็บไซต์ เข้าใช้งานและเก็บหน้าที่ชอบไว้เหมือนกับ การใช้งาน Favorites ของ IE และ Bookmark ของ Filefox เมื่อเวลาที่ User เหล่านั้นไปใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่ใช่ของตัวเอง แล้วต้องการเข้าใช้งาน เว็บที่ bookmark ไว้ก็จะเรียกเอาจากเว็บไซต์ที่ให้บริการ Social Bookmark
แต่เมื่อเว็บ มาสเตอร์หัวใสได้ลองใช้งาน และเห็นว่าเว็บไซต์ประเภทนี้ส่งลิงค์แบบ Dofollow ให้ จึงเกิดการซัพมิตเพื่อเอา backlink Dofollow ขึ้น เว็บไซต์ประเภทนี้ยกตัวอย่างได้แก่

http://digg.com
http://delicious.com
http://dekdigg.com

(สำหรับเว็บไซต์ประเภทนี้เขียนด้วยสคริปต์ Pligg ดังนั้นควรเรียกเว็บ pligg มากกว่า แต่ไม่รู้ทำไมคนไทยเรียกเว็บดิ๊ก) เนื่อง จากว่าเว็บไซต์ประเภทนี้จะมีคนมาซัพมิตอยู่ตลอดเวลาส่งผลให้ หน้า Index นั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ทำให้ Bot ของ Search Engine ชอบเว็บไซต์ประเภทนี้มากแวะเวียนมาบ่อย ๆ (ผมเคยทำเว็บ Pligg นี่เหมือนกัน บอทมาเยี่ยมเว็บผมทุก 30 วินาที) Backlink ที่ได้จากการ Submit Digg Pligg นี้ จะเป็นประเภท มาเร็ว ดันอันดับเร็ว แรง แต่ Backlink ที่ได้ก็จากไปเร็วเช่นกัน ดังนั้น การซัพมิต และ Backlink ประเภทนี้ผมจึงจัดให้เป็นแบบไม่ยั่งยืนมาไวไปไวเหมาะสำหรับเรียกบอทและทราฟฟิคเพียงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น



http://www.question.in.th/answer_view.php?id_ques=32

เทคนิคการหา Keyword จากที่อื่นๆ


เทคนิคการ หา Keyword ให้กับการทำ Search Engine Marketing ของคุณ มีหลายวิธี ทั้งจะเป็นเทคนิคการคิดและสร้าง Keyword หรือ แหล่งที่คุณจะสามารถ หา Keyword ได้ ลองดูเลยละกันครับ
เทคนิคการหา Keyword จากที่อื่นๆ
  1. หา Keyword ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า (วิเคราะห์เป้าหมายให้ชัด ด้วย 5W1H)
  2. ค้นหาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ว่าเมื่อเค้าจะหาสินค้าหรือบริการ "เค้าจะค้นด้วยคำว่าอะไร" แล้วค่อยเอา Keyword ทีได้ไปขยายต่อ
  3. คิด เพิ่มคำศัพท์ให้มากขึ้น จากคำเดิม เช่นเปลี่ยนรูปคำศัพท์เป็นเอกพจน์พหูพจน์ คำศัพท์ที่สะกดผิด หรือใช้การผสมผสาน Keyword (แต่ต้องดูว่าน่าจะมีคนคลิก หรือใช้เครื่องมือช่วยเช็ก)
  4. หาคู่แข่งจาก Search Result (Google, Yahoo, MSN) หรือ ดูหน้าเว็บเค้า ไป view source หรือวิเคราะห์ ดูว่าเค้ามี keyword อะไรบ้าง
  5. ใช้ Niche Keyword (คำเฉพาะ) ก็เป็นสิ่งที่ได้ผลสูง และแข่งขันน้อย
  6. 1 Unique Keyword ต่อ 1 ads ดีที่สุด (สำหรับคนทำ Adwords) ซึ่งจำเป็นต้องใช้งานทั้ง Broad, Match and Phrase ถ้าถามว่า maximum keywords เท่าไรจึงจะดีสำหรับ 1 ads คำตอบก้อคือ 25 unique keywords ซึ่งถ้าใช้ทั้ง 3 แบบ ก้อจะเป็น 75 keywords
  7. search รายชื่อบริษัท หริือ คู่แข่งเรามเป็น Keyword เลย (วิีธีน่ากลัว)
  8. ใช้ระบบพื้นที่ หรือ เมืองเข้าไปร่วมกับ keyword จะช่วยทำให้ keyword ดูเฉพาะ และหลายหลายมากขึ้น

Seoquake คือ เครื่องมือในการในการพัฒนาการทำ SEO

Seoquake คือ เครื่องมือในการในการพัฒนาการทำ SEO ของตนเองช่วยในการวิเคราะห์คู่แข่งใน keyword เดียวกัน ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในวงการSEO ซึ่งประกอบไปด้วยรายละเอียดที่แสดง Title, Meta tag , PageRank ,Backlink จำนวน Index ,Keywords density ,whois (ใครเป็นผู้จดโดเมนนี้) ,เปรียบเทียบรายละเอียดค่าSEO parameter ของแต่ละโดเมนได้และยังสามารถดูรายละเอียดต่าง ๆ ได้อีกมากมาย
เริ่มการติดตั้ง 

1.ก่อนอื่นต้องติดตั้ง Fire Fox Browser เสียก่อน (เข้าไปที่ http://www.mozilla.com/th/)

2.เปิดที่ Fire FoxBrowserใส่ URL http://www.seoquake.com/ เพื่อเข้าสู่หน้าจอการติดตั้ง 

3.คลิ๊กไปที่ Install SeoQuake



ร่วมเป็นสมาชิก Blogseothai คุณคือตัวจริง !